ฟาโรห์ & ชะเอม 5 - หนีไม่พ้น
ความซวยของฉันจบลงแบบทิ้งความเจ็บใจไว้ไม่หาย ส่วนแนทตัวต้นเรื่องที่ทำให้ฉันเข้าใจผิดจนไปหาเรื่องพี่ก่อน กลับหัวเราะด้วยความชอบใจ เอากับนางสิ นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วฉันยังหัวเราะฉันอีก
“กูบอกแล้วว่าพี่เขาเอาคืนมึงแน่”
“ก็เพราะมึงไม่ใช่” ฉันหันไปแหวใส่แนททันที
“เอ้า ก็ใครใช้ให้มึงถือคำพูดกูตอนเมาล่ะ ตอนเมากูก็พูดไปเรื่อยไหม” แนทพูดพลางหัวเราะเยาะใส่ฉัน ก่อนที่นางจะเอายกมือยีใส่หัวฉันจนยุ่ง “เอาน่ามึงอย่าคิดมาก ไม่ดีเหรอที่มึงได้จูบกับคนหล่อระดับพี่ฟาโรห์เลยนะเว้ย ว่าแต่เป็นไงวะมึงรู้สึกดีปะ”
“ดีกับผี” ฉันหันไปค้อนใส่แนทก่อนจะยกมือมาเช็ดปากแบบเคือง ๆ
เฮ้อ...ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย เจอดีเข้าจนได้
.....
หลังจากวันนั้น เรื่องราวผ่านมาได้เป็นอาทิตย์ พี่ฟาโรห์คนนั้นไม่ได้มาก่อกวนฉันอีก ทำให้ฉันสบายใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนหนึ่งก็เป็นที่ฉันด้วยเหมือนกันที่คอยหาทางหลบพี่เขาตลอด เช่นว่าถ้าฉันเห็นว่าพี่เขาอยู่ตรงไหนในรั้วมหาวิทยาลัยฉันจะชิ่งหลบไปอีกทางทันที
ใช่ การเอาตัวเองออกห่างจากเรื่องอันตรายคือดีที่สุด คือไม่ต้องเจอหน้า และขอให้ฉันกับไอ้พี่บ้านั่น จะไม่ได้เจอหน้ากันอีกนาน ๆ เลยยิ่งดี
ความซวยของฉันจบลงเพราะว่าอยากช่วยเพื่อน แต่ดูเหมือนเรื่องวุ่นวายของฉันยังไม่จบเท่านี้ เพราะอาทิตย์ต่อมาฉันดันมีปัญหากับคอนโดที่อยู่มานานหลายเดือน เหตุจากข้างห้องส่งเสียงดังรบกวนเวลานอนและอ่านหนังสือของฉันแทบทุกคืน ทั้งที่ฉันแจ้งนิติให้เข้าไปตรวจสอบหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักอย่าง ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจขอที่บ้านเพื่อย้ายคอนโดซะเองเลยง่ายกว่า
ก็นะ...ในเมื่อแก้ปัญหาที่คนอื่นไม่ได้ งั้นแก้ที่ตัวฉันเองก็แล้วกัน
ฉันหาคอนโดใหม่ได้ในอีกไม่กี่วันถัดมาเลยรีบทำเรื่องย้ายออก คอนโดแห่งใหม่อยู่ถัดไปอีกสองซอย ลึกหน่อยแต่ดูสะอาดและเงียบสงบ มีอาคารเรียงกันประมาณสี่ห้าตึกคนยังไม่ค่อยเยอะเพราะว่าเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ พอได้ห้องฉันก็เลยรีบย้าย และเป็นโชคดีของฉันอีกเหมือนกัน ที่ไม่มีอะไรข้าวของอะไรมากนัก จ้างรถขนย้ายแป๊บเดียวก็เสร็จ ที่จะเหนื่อยหน่อยก็ตรงต้องจัดห้องนอนใหม่อยู่หลายชั่วโมง เพราะงั้นวันนี้ฉันแทบจะไม่ได้หยุดพัก ช่างเป็นวันหยุดที่เหนื่อยที่สุดในสามโลกเลย...
(Talk - ฟาโรห์)
สามทุ่ม
ผมชื่อฟาโรห์ เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปกติทุกคืนจะออกไปสังสรรค์หรือกินเหล้ากับเพื่อน แต่เมื่อหลายวันก่อนโดนยัยตัวแสบที่ไหนก็ไม่รู้มาแกล้งทึกทักว่าเป็นแฟน จนทำให้หญิงที่ผมเหล่เอาไว้โกรธจัดไม่ยอมคุยกับผมอีกเลย วันรุ่งขึ้นเลยตามไปเอาคืนยัยตัวแสบนั่นนิดหน่อย พอได้หายแค้น จัดจูบไปหนึ่งทีตัวสั่นไปทั้งตัว จะว่าไปยัยตัวแสบนั่นก็น่ารักดีเหมือนกัน
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จเลยเดินออกมาจากห้องน้ำ ทว่าสายกลับเหลือบไปเห็นแสงไฟจากห้องนอนของตึกที่อยู่ตรงกันข้าม ปกติห้องตรงข้ามของผมจะปิดเงียบมาตลอด พอเห็นห้องนั้นมีไฟส่องสว่างเลยทำให้ผมหันไปมองจ้องอย่างเต็มตา
“โวะ ผู้หญิงด้วย?” ผมพูดตัวเองพร้อมทั้งยกแขนขึ้นกอดอก สายตามองจ้องไปยังห้องนั้นอย่างสนใจ
ไฟที่ส่องสว่างผ่านม่านสีเหลืองอ่อน ทำให้มองเห็นรูปร่างของเพศตรงข้ามที่กำลังยกแขนขึ้นถกเสื้อขึ้นเหนือหน้าอก ส่งผลให้ชายทั้งแท่งอย่างผมรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ผมไม่ได้โรคจิตหรือว่ามีนิสัยเป็นถ้ำมองแต่ทว่าทรวดทรงองค์เอวของหญิงสาวตึกตรงข้าม ทำเอาผมกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่
แม่งเอ๊ย ....สงสัยย้ายมาใหม่ ไม่ระวังตัวเอาซะเลย ผมบ่นแต่กลับไม่ได้ละสายไปไหน ได้แต่ยืนมองก่อนจะกลืนน้ำลายแล้วกลืนน้ำลายอีกจนนับครั้งได้ไม่ถ้วน แม้ว่าที่เห็นจะเป็นเพียงเงาผ่านม่านบางๆ ก็ตาม
เพียงครู่ หญิงสาวห้องที่อยู่ตึกตรงกันข้าม ก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ สติของผมเลยกลับมา
เชี่ย เหมือนคนโรคจิตเลยวะกู
ผมสะบัดความคิดเหล่านั้นออกไปจากหัว ก่อนที่จะเดินไปขึ้นเตียง หลังจากนั้นก็โน้มตัวลงนอนทันที
“แต่แม่งหุ่นดีฉิบหายเลยวะ”
รุ่งเช้า
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟันจนเสร็จสรรพ ก่อนจะเดินมาออกกำลังกายตามปกติที่ระเบียง ทว่ากลับเห็นเจ้าของรูปร่างหุ่นสวยที่ทำให้ผมสติเกือบหลุดในคืนที่ผ่านมา เดินออกมาที่ระเบียงเช่นกัน
โคตรคุ้น....
เฮ้ย ยัยเด็กตัวแสบนั่นนี่หว่า
ใช่ เธอคือรุ่นน้องที่ชื่อชะเอม เด็กรุ่นน้องที่มีเรื่องผิดใจกับผมเมื่อวันก่อน
ผมเผลอยกยิ้มที่มุมปาก คิดไม่ถึงว่าจะคนตัวเล็ก ๆ ตอนใส่ชุดนักศึกษาจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงหุ่นแซ่บคนเมื่อคืน ก่อนที่ผมจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วตั้งหน้าตั้งตาออกกำลังกายเสริมมวลกล้ามเนื้อ
(Talk - ชะเอม)
เพราะเมื่อคืนจัดห้องอยู่จนดึก ทำให้วันนี้ฉันตื่นสายกว่าปกตินิดหน่อย แต่เพราะมีเรียนคลาสในช่วงบ่ายทำให้ต้องรีบตื่นนอน กะว่าจะออกมาสูดอากาศที่ริมระเบียงเสียหน่อย แต่ใครจะรู้ว่าจะได้บังเอิญเจอกับไอ้พี่ฟาโรห์นั่นอีกครั้ง เขาอยู่ห้องตรงกันข้ามกับฉัน ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมได้ถึงขนาดนี้...
ดูเหมือนว่าเขาเองจะยังไม่ทันสังเกตเห็นฉัน แหม...ทำเป็นออกกำลังกาย คิดว่ากล้ามโตแล้วผู้หญิงทุกคนเขาจะชอบหรือไง เว้นฉันไว้คนหนึ่งที่ไม่ชอบ อะไรก็ตามที่เป็นเขา ฉันไม่ชอบทั้งนั้น
แต่....จะว่าไป...กล้ามหน้าท้องของเขาก็โคตรแน่น
วินาทีที่ชายหนุ่มรุ่นพี่คนนั้นกำลังออกแรงดึงเหล็กถ่วงน้ำหนัก ทั้งหน้าท้องรวมไปถึงกล้ามที่บริเวณแขนนูนขึ้นมาเป็นมัดๆ ฉันก็ถึงกับอ้าปากค้างและจ้องมองรูปร่างของเขาอย่างไม่วางตา แต่งื้อ....ไม่นะ ฉันจะหลงไปกับกิเลสพวกนั้นไม่ได้เป็นอันขาด
ฉันก็รีบดึงสติตัวเองให้กลับคืนมา แต่เพียงเสี้ยวนาทีเราสองคนกลับเผลอสบสายตากันโดยไม่ได้นัดหมาย ฉันไม่ได้ตั้งใจที่เปิดเผยตัวตนให้อีกฝ่ายได้เห็นว่าฉันเองก็พักอยู่ที่นี่ เพราะถ้าเขารู้ก็คงจะต้องมาตามราวีฉันไม่เลิกเป็นแน่ แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อหนีไปไหนไม่ได้แล้ว
ตอนแรกเป็นฉันเองที่มองเขาแต่คราวนี้เป็นเขาบ้างแล้วที่เอาแต่มองฉันอย่างไม่ละสายตา แค่ได้เห็นสีหน้าเรียบนิ่งที่จ้องหน้าฉัน ก็ถึงขั้นขนลุกไปทั้งตัว ฉันรีบหันหลังกลับหลบสายตาพร้อมกับรีบสาวเท้าเดินกลับไปด้านในและไม่ลืมที่จะปิดม่านจนภายในห้องตกอยู่ในความมืด
โอ้ยยย เวรกรรมอะไรเนี่ย
