หักดิบรักซาตาน+น้ำเชื้อจองรัก

53.0K · จบแล้ว
ณิการ์
35
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“คีไม่ไหวแล้วพี่ชล อ่า!” ใบหน้าเปียกชื้นเหงื่อของเธอเอ่ยพร่ากับบุรุษหนุ่ม ทรวงงามก็ไหวโยกไปตามแรงกระแทกของเอวสอบ จนทำให้ปากหนาร้อนของชลธีอดก้มลงดูดกลืนแรงๆ ไม่ได้ “อ่ะ! อร้ายย อือ! พี่ชล...พี่ชล...คีมะ...ไม่ไหวแล้วค่ะ ซี้ดดด ทรมานเหลือเกิน ให้ไวหน่อยค่ะ อะ! นั่นแหละค่ะ อือ!” เร่งเร้าให้ชายหนุ่มช่วยตัวเองให้มีความสุขเร็วไว ตอนนี้เธอใกล้แล้ว และไม่นานก็ต้องกระตุกเกร็งไปทั้งร่าง เมื่อเขากระแทกถี่เข้าหาต่อเนื่องจนเธอสุขสมในอารมณ์ใคร่ “โอว์! ไม่รอพี่เลยนะ อือ! ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่จะตามไปในเร็วๆ นี้แหละ ชูว์!” แล้วก็ไม่รอช้าจะเริ่มโยกเอวสอบอีกครั้ง แล้วเสียงร้องครวญของคีรติก็ดังขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเขาจับขาของเธอยกขึ้นตั้งตรง “อะ! คีเจ็บพี่ชล...อ่ะ! อือ!” ต้องร้องประท้วงเมื่อเขายกเรียวขาของเธออีกข้างตั้งตรงแล้วกระแทกแก่นกายร้อนเขาหาเธออย่างหนักหน่วง จากความเจ็บก็เริ่มมีความเสียวซ่านเข้ามาจนทำให้ความเจ็บนั้นเป็นเพียงแค่เศษผงเท่านั้น “โอว์! ไม่ไหวแล้วคี พี่ใกล้แล้ว หายเจ็บแล้วใช่ไหม อ่า!” แม้จะถามด้วยความห่วงใยแต่ก็ยังทำต่อไป แล้วไม่นานก็ต้องร้องคำรามกร้าวออกมาด้วยความสุขสม ปลดปล่อยความเป็นตัวเองอาบรดในช่องท้องน้อยของสาวเจ้าทุกหยาดหยด ก่อนจะปล่อยขาเล็กทิ้งลงเหมือนเคย แล้วก็ฟุบหน้าลงกับหน้าท้องแบนราบอย่างหมดแรงและมีความสุข “โอว์! อือ! ดีเหลือเกินคีของพี่” นานแล้วชลธีไม่ได้รู้สึกอิ่มเอมใจแบบนี้ หัวใจที่เคยแห้งเหี่ยวก็กลับมาเบิกบานอีกครั้ง ดอกไม้เบ่งบานเต็มหัวใจทั้งสี่ห้อง ตอนนี้ตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่าจะเดินต่อไป จะเดินไปข้างหน้าโดยมีคีรติเป็นคนประคอง

นิยายรักโรแมนติก

บทที่ 1 แผลซาตาน

ณ เกาะเพียงประทาน เกาะเล็กๆ ทางภาคใต้ ทางจังหวัดกระบี่ เป็นเกาะส่วนตัวของตระกูลเพียงประทานที่เก็บไว้พักรักษาตัว และครั้งนี้ต้องเปิดเกาะรักษาบำบัดความลูกชายคนโตของบ้านอย่างนายชลธี เพียงประทาน หรือชล วัย 34 ปี

เคล้ง!

“บอกว่าไม่กินไงวะ!”

เพิ่งยกเข้ามาแท้ๆ แต่ต้องตกไปเกลื่อนพื้นเมื่อเจ้าของห้องนั้นไม่ต้องการ

ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อน จากชลธีคนแสนดีอ่อนโยนก็กลับกลายมาเป็นซาตานร้าย ไม่มีใครย่างกรายเข้าใกล้บุรุษหนุ่มได้ แม้แต่ผู้เป็นมารดาและน้องสาวยังต้องกลัว กลัวจนไม่กล้ามาเยี่ยมเขา ปีหนึ่งจะมาหาลูกชายที่เกาะเพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือช่วงปีใหม่ ก็นั่นแหละตอนนี้มารดากับน้องสาวได้กลับไปกรุงเทพฯ แล้วจึงเหลือแต่ชลธีเท่านั้นที่อยู่บ้านหลังใหญ่บนเกาะแห่งนี้

ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาของชลธีได้มีรอยแผลเป็นลากยาวจากแก้มสากอีกข้างตัดมายังแก้มสากอีกข้าง แม้ทางครอบครัวจะรบเร้าให้ไปผ่าตัดศัลยกรรม แต่พยายามแล้วพยายามเล่าเขาก็ไม่ยอมไป เพราะแผลบนใบหน้านี้ทำให้แฟนสาวของเขาต้องตายไปพร้อมกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น ถ้าวันนั้นเขาไม่เลือกนอนค้างที่บ้านสักคืนก่อนพาแฟนสาวอย่าง “นินอร” ก็คงไม่ต้องมาตายไปในวันนั้น เพราะแผลบนใบหน้ามันจะคอยย้ำเตือน และเตือนสติเขาว่ามันทำให้ตนต้องสูญเสียคนที่เป็นทั้งชีวิตของเขาไป

“คุณชลต้องกินนะครับ นี่มันดึกมากแล้ว”

หมอกคทาต้องพูด ตั้งแต่บ่ายแล้วเจ้านายหนุ่มก็ยังไม่ยอมแตะข้าวปลาเลย ป้าน้ำทิพย์ยกขึ้นมาให้ก็ถูกโยนทิ้ง จนเขาต้องเอาขึ้นมาให้เองนี่แหละ

“บอกไม่กินไงเล่า”

ย่างสามขุมไปหาหมอกคทา มือใหญ่กระชากคอเสื้อของคนตัวโตอีกคนเข้ามาใกล้ตน แต่ยังไม่ทันได้ยกมือขึ้นจะต่อยก็ถูกเสียงเข้มของอีกฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

“ต่อยเลยครับ ถ้าต่อยแล้วมันทำให้คุณชลกินข้าวไอ้หมอกคนนี้ยอม”

“โธเว้ย!”

ปล่อยมือออกจากคอเสื้ออีกคน พร้อมกับผลักออกไปให้ห่างตน แล้วมือใหญ่ก็ยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าของตนไปมา แล้วก็มาหยุดตรงรอยแผลเป็นนั้น แล้วต้องกัดฟันแน่น

“ทำไม! ทำไมไม่เป็นผมอร!”

เคล้ง!

ปัดแจกันใกล้มือทิ้ง จนตอนนี้ห้องโล่งไปหมดแล้ว ไม่มีข้าวของตกแต่งแล้ว เนื่องจากเจ้าของห้องทำลายมันทุกวัน จนหมอกคทากับป้าน้ำทิพย์ไม่กล้าเอาข้าวของมาตกแต่งห้องใหญ่นี้

“คุณชลควรเดินไปข้างหน้านะครับ ถ้าคุณอรรู้ว่าคุณชลโทษว่าเป็นความผิดตัวเองแบบนี้ตลอดเธออาจจะทุกข์ก็ได้เมื่อมองลงมา”

สงสารนายหนุ่มเหลือเกิน จากคนที่เคยยิ้มแย้มมาดูตอนนี้สิ น่ากลัวราวกับยักษ์กับมาร ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ที่ว่าน่ากลัวคืออารมณ์และนิสัยที่เปลี่ยนไป แถมวันๆ ก็ขลุกตัวอยู่แต่บนเกาะไม่ยอมออกขึ้นฝั่ง ไม่ยอมไปไหน ด้วยกลัวว่าผู้คนจะกลัวใบหน้าที่มีแผลของตนเอา

สำหรับหมอกคทาแล้วบุรุษหนุ่มที่เป็นนายนั้นสง่างามเสมอ แม้จะมีแผลเป็นกลางหน้าก็ไม่อาจลดความหล่อเหลาของนายหนุ่มได้ แต่แผลนั้นยิ่งเสริมสร้างใหญ่หน้าของชลธีให้ดูเข้มดุดันขึ้น

“ฉันทำไม่ได้หมอก นายก็รู้ว่าฉันรักอรมากแค่ไหน”

ชลธีพยายามสงบสติอารมณ์ของตนให้สงบ เพราะวันนี้ทั้งวันเขาเอาแต่โวยวายคนนั้นทีคนนี้ทีจนไม่มีใครกล้าเข้ามาในห้องนี้แล้ว

“คุณชลต้องผ่านมันไปให้ได้ คุณชลจะมาขลุกตัวอยู่แต่เกาะแบบนี้อีกไม่ได้แล้วนะครับ”

“มันอยากว่ะหมอก มันยากที่จะลืมทุกอย่าง”

“ผมจะรอวันนั้นวันที่คุณชลคนเดิมกลับมานะครับ อ้อ! คุณชลผมจะขออนุญาตให้น้องสาวมาพักที่นี่ได้ไหมครับ ผมไม่อยากให้น้องอยู่บ้านคนเดียวผมเป็นห่วง อีกอย่างเธอเพิ่งเรียนจบมาด้วยยังหางานทำไม่ได้เลยครับ”

เกือบไปแล้ว เกือบลืมเรื่องสำคัญที่ตั้งใจจะมาพูดไปเสียแล้ว ก็น้องสาวคนเดียวของเขาเพิ่งจะเรียนจบและตอนนี้กำลังรอที่ทำงานเรียกตัวสอบสัมภาษณ์ ระหว่างรอเขาอยากให้น้องสาวมาอยู่ด้วย เพราะนานแล้วที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

“ตามสบายเลย อยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ บ้านหลังนี้ออกจะใหญ่”

ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ที่มุมหน้าต่าง สายตาคมจ้องมองไปยังนอกหน้าต่างที่วันนี้เป็นคืนเดือนมืด แม้แต่ดาวสักดวงก็ยังไม่มีเลย

“ขอบคุณครับคุณชล ผมไม่กวนคุณชลแล้วนะครับ”

“อืม!”

ยกมือโบกไล่หมอกคทาให้ออกไปจากห้องนอนของตน ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังจมอยู่กับห้วงความคิด ความเจ็บปวด บาดแผลที่ยังค้างคาในหัวใจมันยากจะลบเลือน ในชีวิตนี้ขออยู่กับแผลนี้ไปจนตายดีกว่า