บทที่ 6 (2)
อาการประหม่าหัวใจเต้นแรงของเธอ ทำให้ใบหน้าสวยต้องเบือนไปทางอื่น เกรงว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าเธอตื่นเต้นจนไม่รู้จะทำหน้าแบบไหน เมื่อมองหน้ากัน ทาเคชิเหมือนรู้ว่าเด็กสาวมีอาการเขินอาย แต่กระนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาเปิดประตูรถ แล้วเดินหายลงไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมถุงใบใหญ่ในมือ
“เปย์อีกหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกใช่ไหมครับ” เขาวางถุงในมือลงบนหน้าตักของลูกตาล
“อะไรคะ??” สีหน้าปนความสงสัยของเธอเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนถุงใบใหญ่จะถูกเปิดออก ด้านในเต็มไปด้วยขนมขบเคี้ยวต่างๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อมองเห็นเค้กรสชาติที่ตัวเองโปรดปราน ก่อนใบหน้าที่เขินอายเมื่อครู่จะกลับมายิ้มร่าเริงส่งให้เขา “ขอบคุณค่ะ”
ทาเคชิยิ้มตาม เมื่อเห็นท่าทีดีใจของอีกฝ่าย เขาออกเดินทางอีกครั้ง รถยนต์ขับเข้ามาจอดที่หน้าตึกแห่งหนึ่ง ที่มีอยู่สี่ชั้น ด้านหน้ามีป้ายห้อยอยู่ “หอพักหญิงสุดารัตน์” ทาเคชิมองที่ป้ายหอพักอย่างสงสัย เด็กสาวจะมาหาเพื่อนหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจ
“หนูพักที่นี่ค่ะ อยู่กับเพื่อน ขอบคุณมากนะคะ” สองมือยกขึ้นไว้ชายหนุ่มก่อนที่เธอจะเปิดประตูรถ ทาเคชิรีบดับเครื่องยนต์ก่อนเดินไปเปิดท้ายรถ ยกถุงของใช้ต่างๆ ออกมาให้แก่เธอ “ผู้ชายเข้าไม่ได้ค่ะ” เด็กสาวบอกกล่าว ก่อนที่จะยกข้าวของมาถือเอาไว้เอง
“ถือไหวไหมครับ”
“ไหวค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เอาไว้หนูเลี้ยงข้าววันหลัง ขับรถดีๆ นะคะ”
“ถึงแล้วเดี๋ยวไลน์มาบอก ขึ้นห้องเถอะ” ทาเคชิไล่ให้เด็กสาวขึ้นหอพักไป เพราะสายตาของผู้ชายที่เดินผ่านไปมา มองไม่เคยหยุดหย่อน ยิ่งวันนี้เธอแต่งตัว โชว์เรียวขาขาวด้วยกางเกงยีนสีขาวขาสั้น มันอาจดูเคืองสายตาของเขาอยู่มาก แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ...นี่คือเสียงที่ตอบตัวเองออกมา…
ทาเคชิเดินทางกลับเข้ามาที่อู่รถอีกครั้ง ในเวลาตอนเย็น เขานำข้าวของที่แวะซื้อเข้าไปเก็บในบ้านแล้วเดินกลับเข้ามาในอู่ซ่อมรถ อีกครั้ง อู่แห่งนี้มีคนทำงานอยู่เพียงห้าคน มีครอบครัวชายโสดสี่คน และวัยรุ่นชายอีกหนึ่งคน
“เฮียสวัสดีครับ”
“กลับมาวันไหน ที่บ้านเรียบร้อยไหม แม่เป็นไงบ้าง” ชายหนุ่มถามไถ่อาการป่วยของแม่ประจักร หรือเรียกชื่อเล่นว่า “จักร”
“ดีขึ้นแล้วครับ มีพี่สาวดูแลผมก็ไม่ห่วงมากเท่าไหร่ งานที่อู่ทำไมน้อยจังเฮีย”
“เมื่อวานพึ่งเคลียร์งานไป แต่เย็นนี้มีอีกสามคัน ไม่ต้องห่วงมึงมีงานทำทุกวันแน่นอน แล้วไอ้เพชรมันหายไปไหน” เขาถามหาเพื่อนสนิท เมื่อมองสำรวจไปรอบพื้นที่ก็ไม่ปรากฏร่างของเพื่อนชาย ทาเคชิถอนหายใจออกมา “โดดงานตามเคยสินะ แม่ง... ไม่มีความรับผิดชอบเลย กลับมากูจะไล่ออก!!”
“มึงจะไล่ใครออก แค่หายไปไม่กี่วัน นี่จะถีบหัวส่งเลยหรือไง” เพชรกล้า เลื่อนตัวออกมาจากใต้ท้องรถ น้ำเสียงของเขาดูไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจอะไร กลับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินตรงเข้ามาหาทาเคชิ เอาแขนข้างขวาคล้องลำคอของเพื่อน แล้วหัวเราะออกมา “คิดถึงกูใช่ไหมไม่อยู่แค่สองวัน”
“หายหัวไปไหนมา รู้ไหมว่าน้องเป็นห่วงมึง ทำตัวเหมือนเด็กหนีออกจากบ้าน ไม่คิดว่าคนอื่นจะเป็นห่วง” ทาเคชิว่ากล่าวเพื่อน เขาไม่ชอบที่เพชรกล้าทำตัวแบบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาหายตัวไป โดยไม่ติดต่อ แต่ถึงกระนั้น ทาเคชิก็ยังไม่ชินกับการที่เขาหายไปโดยไม่ติดต่อกลับมา ถ้าวันนั้นดีเจไม่สบายเพชรกล้าก็คงไม่ติดต่อมาหาเขา แต่เมื่อติดต่อมาแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไป ไม่คิดที่จะสนใจน้องชายแท้ๆ ของตนเอง
“กูขอโทษ แต่ที่หายไปกูไม่ได้หายไปโดยเปล่าประโยชน์นะ กูได้ลูกค้ามาอีกเพียบ” เพชรกล้ากล่าวออกมาอย่างภูมิใจ ถึงแม้ตอนแรกเขาจะไปเที่ยวเล่นโดยไร้จุดหมาย แต่กลับได้ลูกค้ารายใหญ่ ที่เป็นสาวสวยที่เขาหายไปอยู่ด้วยหลายคืน
“จะไปไหน ก็อย่าให้เสียงาน สงสารน้องมันบ้างที่ต้องมาคอยเป็นห่วงมึง โตเท่าควาย แต่ทำตัวเหมือนหมา” ทาเคชิพูดไม่รักษาน้ำใจของคนฟัง เพชรกล้ายังคงยิ้มแฉ่ง ไม่รู้สึกต่อคำพูดของเพื่อน
“เอาน่า กูคุยกับน้องแล้ว มึงก็อีกคน อย่าห่วงกูนักเลย รีบๆ หาเมียสักคนจะได้เลิกบ่นให้กู” เพชรกล้าพูดขึ้น ลำแขนใหญ่คลายออกก่อนที่เขาจะตรงไปประจำหน้าที่ของตัวเอง เสียงผิวปากดังออกมาจากใต้ท้องรถ ทาเคชิมองภาพที่คุ้นเคยแล้วส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับท่าทีไม่สะทกสะท้านต่อคำพูดของเขา
@ บาร์โฮส
“น้องเค ลูกค้าวีไอพีเรียกจ๊ะ” เสียงของกีวี่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “เอานี่ไปด้วยนะ ลูกค้าสั่ง”
“ครับ”
ทาเคชิถือขวดเหล้าราคาแพงติดมือขึ้นมาด้านบน ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออก ลูกค้าหน้าใหม่ที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่ที่เขาแปลกใจคือ ลัคกี้ก็นั่งอยู่ด้วย ตรงหน้ามีแก้วดริ้งตั้งเรียงราย พอมองดีๆ ผู้หญิงคนนั้น...ก็คือ ผู้หญิงที่เคยเหมาดริ้งเขาอยู่หลายวัน แต่ที่ทำให้จำเธอไม่ได้ คงเพราะทรงผมใหม่ที่ตัดสั้น ดูเป็นสาวเปรี้ยว ไม่ต่างจากใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ ชุดที่ใส่ดูอวดเนื้อหนังมากจนเกินควร
“นี่เพื่อนของฉันเองนั่งเลย นายต้องบริการให้ดีนะ” เธอหันหน้ามาคุยกับทาเคชิเพียงครู่ แล้วหันไปสนใจลัคกี้อีกครั้ง ทั้งสองคนดูเข้ากันได้เป็นอย่างดี ลัคกี้หันมามองหน้าเขาพร้อมยิ้มมุมปาก การกระทำของเขาบ่งบอกได้ชัดเจนว่าทั้งสองคนก้าวข้ามขั้นมากเกินกว่าที่จะเป็นแค่แขกและพนักงานให้บริการ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทาเคชิสนใจ นอกจากตั้งใจบริการลูกค้าแล้ว เขาก็ไม่อยากคิดถึงสิ่งอื่นนอกจากการทำงาน