หวามรักเจ้าพ่อคาสิโน

60.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
37
บท
16.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะคำว่า ‘หนี้’ ทำให้ชีวิตของนิลยาพลิกผัน คำๆ นี้มันร้ายแรงถึงขั้นทำให้ครอบครัวเธอแตกแยกแถมเธอยังถูกพี่ชายต่างพ่อ มอมยาแล้วนำมาขายราวกับสินค้าไร้ราคา

นิยายรักโรแมนติกมาเฟียพระเอกเก่งเลือดร้อนเศรษฐีรักหวานๆ

บทที่ 1

เพล้ง!

เสียงแก้วหรืออะไรสักอย่างที่หล่นแตกในบ้านดังมาเข้าหู นั่นทำให้นิลยาที่พึ่งกลับจากทำงานถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบรุดเข้าไปภายในบ้านด้วยท่าทางรีบร้อน เพราะกลัวจะเกิดเหตุร้ายกับคนในครอบครัว

และก็จริงอย่างที่เธอคิด เพราะทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เธอก็เห็นภาณุ พี่ชายต่างพ่อกำลังเงื้อมือขึ้นสูงหมายจะทำร้ายแม่ของเธอ ที่เวลานี้นั่งอยู่บนเก้าอี้หวายด้วยอาการตัวสั่น นั่นทำให้นิลยารีบตะโกนห้ามขึ้นทันที

“พี่ณุจะทำอะไร” เอ่ยเสร็จ ก็เข้าไปกระชากตัวภาณุให้ออกห่างจากแม่ของเธอสุดแรง จนร่างหนาๆ ของพี่ชายต่างพ่อเซถลาออกมาได้ไกลพอสมควร

“ไม่ได้จะทำอะไร” ภาณุไหวไหล่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ด้วยความที่ทั้งคู่อายุห่างกันถึงสี่ปี ภาณุจึงได้สิทธิ์ความเป็นพี่ไปครอง แต่ความคิดบางอย่างกลับสวนทางกับอายุ

“แต่ฝ้ายเห็นว่าพี่ณุกำลังจะทำร้ายแม่นะ” สีหน้าของนิลยานั้นบึ้งตึง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ภาณุจะทำร้ายแม่ของเธอ ครั้งก่อนก็คาดโทษไว้ แต่สุดท้ายก็ทำอีก

แม้จะเรียกภาณุว่าพี่ แต่ลึกๆ นิลยาก็ไม่ได้เคารพชายตรงหน้าสักเท่าไหร่ นั่นเพราะภาณุหาเรื่องให้เธอรวมถึงทุกๆ คนในบ้าน เดือดเนื้อร้อนใจไม่ได้หยุด ไม่เว้นแม้แต่อาทิตย์ พ่อแท้ๆ ของภาณุเอง

“กำลังจะทำไม่ได้หมายความว่าทำ”

“พี่ณุ” คำพูดไม่ยอมรับผิด ชนิดเถจนสีข้างถลอกของภาณุยิ่งทำให้นิลยาไม่พอใจ ภาพที่เห็นไม่ได้ทำให้ชมเดือนสบายใจนัก จึงเอ่ยถามลูกสาวขึ้น

“พอเถอะฝ้าย”

“แม่ก็ยอมพี่ณุซะแบบนี้ ถึงได้ใจไม่เลิกรา”

“นี่แกว่าพี่หรือฝ้าย” ภาณุเดือดทันทีที่ได้ยินคำพูดของนิลยา

“ใช่...เพราะพี่โตเป็นควายขนาดนี้แล้ว ยังแบมือของเงินแม่เป็นเด็กอยู่ได้ งานการไม่คิดจะไปทำบ้างหรือไง” ในที่สุดความอดทนของนิลยาก็มาถึงขีดสุด

“นี่แก...” เพราะถูกด่าชนิดแทงใจดำ ภาณุถึงกับเลือดขึ้นหน้า ชมเดือนจึงต้องเข้ามาขวางคนทั้งคู่ไว้ ทั้งๆ ที่ในใจนั้นรู้สึกเหนื่อยเต็มทน

“พอๆ ทั้งคู่นั่นแหละ”

“ถ้าอยากให้พอก็เอาเงินมาสิ ผมจะได้ไป”

“แม่บอกไปกี่หนแล้วว่าไม่มีให้” ชมเดือนปฏิเสธคำขออีกครั้ง ต่อให้มีเธอก็คงให้ภาณุไม่ได้จริงๆ เพราะต้องเก็บไว้ใช้ที่บ้าน

“งั้นฝ้าย เอาเงินมาให้พี่” เมื่อชมเดือนไม่มี ภาณุก็เบนเข็มมาที่นิลยาน้องสาว แถมยังแบมือขอกันอย่างหน้าด้านๆ

“ให้อะไรอีก ทั้งๆ ที่อาทิตย์ก่อนพี่ก็เอาไปแล้ว”

“หมดแล้ว”

“หมดในบ่อนอีกนะสิ” นิลยายิ้มเหยียดออกมา เธอก็เป็นแค่พนักงานออฟฟิศ ทำงานกินเงินเดือนหลักหมื่นเต้นๆ ไม่ได้เป็นระดับ ซีอีโอร้อยล้านพันล้าน ถึงจะได้มีเงินให้คนอื่นถลุงเล่นบ่อยๆ

“เออ”

“ณุ...ไหนสัญญากับแม่ว่าจะหยุด ไม่เล่นการพนันอีก” ชมเดือนเอ่ยขึ้น แต่คนอย่างภาณุลิ้นสองแฉก ก็แถไปได้เรื่อยๆ

“หนสุดท้ายแล้วนะแม่”

“หนสุดท้ายมากี่ครั้งแล้วละ” ประโยคนี้ดังมาจากนิลยาที่เอ่ยสวนขึ้น นั่นเพราะเธอเอือมระอาต่อภาณุอย่างที่สุดแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าพ่อเลี้ยงหรือพ่อแท้ๆ ของภาณุดีกับแม่รวมถึงเธอมากละก็ เธอตัดขาดไปนานแล้ว ไม่เอาความทุกข์คนอื่นมาใส่ตัวเองอยู่แบบนี้หรอก

“สรุปมีไหมเงิน...หา” เสียงตะคอกของภาณุดังขึ้น เขามองหน้าชมเดือนและนิลยาด้วยแววตาที่แสดงออกว่าไม่พอใจ

“ไม่มี” นิลยาเอ่ยตอบนิ่งๆ พร้อมสบตาภาณุไปด้วย

“ไม่มีใช่ไหม...ได้ ไม่มีก็ไม่มี” เอ่ยจบภาณุก็เดินตรงไปยังโทรทัศน์ขนาดห้าสิบกว่านิ้ว ที่นิลยาซื้อเข้าบ้านมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

“พี่ณุจะทำอะไร นั่นทีวีที่ฝ้ายซื้อมาให้แม่กับลุงคมนะ” นิลยาร้องห้าม แต่ทว่าเวลานี้ภาณุกลับไม่ได้สนใจเสียงห้ามของน้องสาวต่างพ่อเลยแม้แต่น้อยนิด

ภาณุที่กำลังโกรธจัดเพราะมาขอเงินแล้วไม่ได้สักบาท กำลังจัดการถอดปลั๊กทุกอย่างออกจากโทรทัศน์ที่ขนาดใหญ่กว่าตัวเองจนหมด จากนั้นก็อุ้มขึ้นมาด้วยท่าทางทุลักทุเลแล้วเดินตรงออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว

นิลยาอยากเข้าไปห้าม เพราะนั่นคือสมบัติที่เธอซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่กลับถูกผู้เป็นแม่ห้ามไว้ และเมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านก็พบแต่ความเสียหายจากภาณุ ที่คงอาละวาดเพราะไม่ได้เงินอีกตามเคย

“เราไปอยู่ที่อื่นกันดีไหมแม่”

“ที่ไหนละฝ้าย”

“ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ ฝ้ายไม่อยากอยู่กับพี่ณุ” ฟังแบบนี้แล้วชมเดือนก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ เธอนั้นเข้าใจความรู้สึกของนิลยาลูกสาวเป็นอย่างดี แต่ก็ทอดทิ้งอาทิตย์ผู้เป็นสามีไม่ได้จริงๆ

“แล้วลุงคมละลูก”

“แม่เลิกห่วงคนอื่นได้แล้ว”

“แต่ลุงคมไม่ใช่คนอื่น ถ้าเขาร้ายกับแม่กับฝ้าย แม่จะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่ลุงคมเขาดีกับเรามาตลอด ผิดก็แต่...”

“พี่ณุ” นิลยาเอ่ยขึ้น เพราะทุกข์ของทุกคนในบ้านตอนนี้คือ...ภาณุ

“อะไรที่ให้อภัยหรืออดทนได้ก็ทำเถอะฝ้าย”

“แต่เรื่องพวกนี้เราไม่จำเป็นต้องมานั่งให้อภัยหรืออดทนเลยนะแม่ เราพาลุงคมไปด้วยกันก็ได้นี่”

“ขอบใจนะหนูฝ้าย ที่ยังมีน้ำใจคิดถึงลุง” เสียงของบุคคลที่สาม ซึ่งก็คืออาทิตย์ดังขึ้น เขารู้สึกซาบซึ้งใจที่ชมเดือนและนิลยาไม่คิดทอดทั้ง

“พี่คม/ลุงคม” ทั้งชมเดือนและนิลยาต่างอุทานชื่อของอาทิตย์ออกมาอย่างพร้อมเพรียง และทั้งคู่ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าอาทิตย์ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันแล้วเป็นแน่

เวลานี้หัวใจของอาทิตย์เองก็เจ็บปวดกับการกระทำของลูกชายไม่น้อย เงินทองที่หามาได้จากการรับจัดสวนก็หมดไปกับการให้ลูกชายไปใช้หนี้พนัน แถมตอนนี้ยังถึงขนาดกล้าเอาสมบัติที่ไม่ใช่ของตัวเองไปเสียอีก เพราะเมื่อครู่อาทิตย์เห็นกับตาว่าภาณุนั้นเอาอะไรออกไปจากบ้าน

และใช่ว่าภาณุจะหยุดเพียงแค่นี้ เมื่อขอเงินตนไม่ได้ก็ตามไประรานของเงินจากชมเดือนแม่เลี้ยง ที่ทำงานเป็นแม่บ้าน จนนิลยาน้องสาวต่างแม่ต้องออกหน้าช่วยก็หลายครั้ง สุดท้ายนอกจากไม่คืนเงินเก่าที่ยืม ภาณุยังมาขูดรีดขอเงินใหม่อยู่เรื่อยๆ อีก

“พี่ขอโทษนะเดือน”

“ไม่เป็นไรจ้ะ”

“ลุงขอโทษแทนณุด้วยนะหนูฝ้าย” คำขอโทษแทนลูกชายของอาทิตย์ ทำให้นิลยารู้สึกสงสารจนโกรธไม่ลง

“ค่ะ...แต่ฝ้ายก็ยังต้องการพาแม่ออกไปอยู่ที่อื่นอยู่นะคะ คุณลุงจะไปด้วยก็ได้” นิลยายังคงยึดมั่นกับเรื่องนี้

“ฝ้ายทำไมพูดแบบนี้” ชมเดือนเอ็ดลูกสาว ที่พูดอะไรทำนองนี้ออกมาอีก

“ช่างเถอะเดือน พี่เข้าใจหนูฝ้ายดี รวมถึงเข้าใจเดือนด้วย ถ้าเดือนกับหนูฝ้ายจะไปอยู่ข้างนอก พี่ก็ไม่ห้าม” แม้จะเสียใจแต่อาทิตย์ก็ไม่อยากให้ชมเดือนกับนิลยาต้องมาทุกข์ใจด้วยเรื่องของภาณุอีก ถ้าบ้านมันร้อนเป็นไฟคนอยู่ก็คงร้อนรุ่มไม่มีความสุขได้หรอก

“แต่ว่าฉัน...”

“เอาเถอะๆ ไว้เราค่อยมาคิดกันอีกทีก็ได้จ้ะ” นิลยาตัดบทเพราะเห็นว่าแม่ลังเล จากนั้นเธอก็เดินไปเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายเต็มพื้นบ้าน ไม่บอกก็รู้ว่านี่คือฝีมือของภาณุ

นิลยารู้ว่าเธอกำลังสร้างความลำบากใจให้ผู้เป็นแม่ เพราะอย่างที่แม่ได้บอกไว้ อาทิตย์ไม่ได้ทำอะไรผิด ตลอดเวลาเกือบสิบปีที่แม่กับอาทิตย์อยู่กินกันมา อาทิตย์ขยันทำงาน รับผิดชอบครอบครัว ดูแลแม่และเธอเป็นอย่างดี

ถ้าเลือกได้เธอก็ไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก คิดอย่างปลงไม่ตกทีไรนิลยาก็ทุกข์จนถอนหายใจออกมาหนักๆ เสียทุกที