
หวามรักคาอกอสูร
บทย่อ
ท่ามกลางบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว อากาศรอบกายหนาวเย็น แต่อ้อมกอดของเขากลับเร่าร้อนเป็นไฟ พร้อมที่จะหลอมละลายเธอได้ทุกเมื่อ “...เมนี่ใจจะขาดแล้วค่ะ...” ร่างเล็กดิ้นทุรนทุรายอย่างน่าสงสาร เธอกดจิกปลายเล็บลงบนที่นอนจนยับย่น สองมือก็หาที่เกาะยืด พอยึดมือใหญ่ของเขาได้ก็กำแน่นแล้วขยำขยี้เร่งเร้า ตามอารมณ์ปรารถนาร้อนแรงของเธอที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเป็นลำ ทำท่าว่าจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ ครั้งแล้วครั้งเล่า
Ep.1 เธอขอร้องให้ฉันมาคุยกับคุณ(1)
มณีจันทร์กำลังเมียงมองหาใครคนหนึ่ง ที่มีลักษณะเหมือนกับที่เธอจดเอาไว้ในเศษกระดาษแผ่นเล็กๆ เธอมาคอยเขาอยู่นานมากแล้ว นานเป็นชั่วโมงจนเริ่มจะถอดใจแล้ว เพราะมันใกล้มืดค่ำเต็มที และบ้านช่องแถวนี้ก็ค่อนข้างเปลี่ยว มันดูวังเวง ไม่น่าไว้ใจนัก
ในช่วงปลายฝนต้นไม้ อากาศรอบตัวแถวชนบทจะร่มรื่นเย็นสบาย ค่อนไปทางหนาว แต่เธอไม่ได้สวมเสื้อแขนยาวมา จึงรู้สึกเย็นมากเป็นพิเศษ
มองไปทางไหนก็ไม่มีคน มีเพียงหมา แมว ที่เดินผ่านไปมาตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่สองข้างทางเป็นดงหญ้าแพรกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
เจ้าของร่างบางระหงชะเง้อชะแง้แลมองหาผู้ชายที่มีลักษณะเหมือนอย่างที่นารีได้บอกเธอเอาไว้
“พี่ชายของรีชื่อนาคิน เขาตัวสูงมากราวๆร้อยแปดสิบเซนติเมตร หุ่นดีหน้าตาเหมือนลูกครึ่งแขก มีหนวดมีเครา ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาเป็นพระเอกละครได้เลยนะ และไว้ผมซอยสั้น คิ้วเข้มมาก แล้วถ้าเจอเขา ก็แค่ถามสั้นๆว่ามาหาใครที่บ้านหลังนั้นก็พอแล้ว ถ้าเขาตอบชื่อของรีถูกและรูปร่างลักษณะเหมือนที่รีบอกไป ก็แสดงว่าถูกตัว”
นี่เธอมายืนรอผู้ชายคนนั้นหนึ่งชั่วโมงกับอีกหลายนาทีแล้วนะเนี่ย รอจนจะมืดแล้ว ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว หนาวก็หนาว ‘กลับบ้านเลยดีไหมเนี่ย’
หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาหลายครั้ง ดวงตาดำขลับก็ยังมองไปตามเส้นทางเบื้องหน้า ที่คาดหวังว่าผู้ชายคนหนึ่งตัวสูงๆน่าจะเดินมา
“เฮ่อ...ไม่มาแล้วมั้งวันนี้ กลับดีกว่า”
พลั่ก!
“อุ๊บ!”
เจ้าของร่างเพรียวบางในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายยาวครึ่งน่องที่กำลังหมุนตัวเตรียมหันหลังกลับ เพียงแค่ก้าวแรกที่จะก้าวไป ก็ชนเข้ากับกำแพงมีชีวิตที่อยู่ข้างหลังเต็มเปา จนใบหน้าซบกับแผงอกแกร่งหลายวินาที
เมื่อได้กลิ่นหอมแปลกๆ และรู้ว่าชนกับคน เธอก็รีบถอยออกมาแล้วเงยหน้ามองคนที่เธอหันหน้าเดินมาชนเต็มตา ก็พบว่าเขามีรูปร่างลักษณะเหมือนอย่างที่นารีพูดไว้ทุกอย่างเลย
‘ใช่พี่ชายของนารีแน่ๆ เกือบคลาดกันแล้วนะเนี่ย เธอเกือบเดินกลับบ้านไปก่อนแล้ว’
มณีจันทร์คลี่ยิ้มให้ชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะถามเพื่อความแน่ใจ
“คุณมาหาน้องสาวใช่ไหมคะ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะถามกลับ
“ทำไมรู้ ผมไม่ได้บอกใครเลยนะ ว่าจะมาหานารี”
‘โล่ง ถูกตัว’
สาวน้อยลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่เสียเวลามาคอยเก้อแหละ
“นารีบอกเมนี่เองค่ะ”
“ชื่อเมนี่ ชื่อจริงมณีจันทร์สินะ”
“ทำไมรู้คะ”
“ก็เดาเอา ไม่มีไรหรอก คุณคงเป็นเพื่อนของน้องสาวผมใช่ไหม ไหนบอกมาซิ นารีไม่อยู่บ้านหรือไง ถึงได้ให้คุณมาดักรอพบผม”
“ใช่ค่ะ นารีไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว”
“แล้วน้องสาวของผมไปอยู่ที่ไหน ผมกับทุกคนติดต่อนารีไม่ได้เลย”
“คุณต้องไปกับเมนี่ค่ะ เมนี่จะพาคุณไปพบกับน้องสาวของคุณเอง”
“โอเค งั้นก็พาผาไปพบกับนารีเดี๋ยวนี้เลย”
“เอ่อ คือ... ตอนนี้เมนี่หิว คือเมนี่มารอคุณที่นี่นานแล้ว รอเป็นชั่วโมงเลยค่ะ แล้วมันก็ได้เวลากินข้าวเย็นของเมนี่แล้วด้วย”
“ข้าวเย็น ยังไม่หกโมงครึ่งเนี่ยนะ”
“ใช่ค่ะ ปกติเมนี่กินข้าวเย็นตอนห้าโมง เมนี่ไม่กินค่ำมาก กลัวอ้วนค่ะ”
“อ้อ มิน่าล่ะถึงได้หุ่นผอมบางขนาดนี้ แต่ว่าผมร้อนใจ อยากไปพบนารีไวๆ”
“แต่เมนี่หิว” มณีจันทร์เริ่มหน้าบึ้ง ใครบอกให้เขามาช้าล่ะ ได้เวลากินข้าวแล้วเธอก็ต้องได้กิน เธอไม่อยากเป็นโรคกระเพาะ
เพราะหิวข้าว หญิงสาวจึงรีบเดินจ้ำๆไปยังร้านอาหารที่หน้าปากซอยทันที โดยไม่สนใจว่าเขาจะเดินตามมาไหม
ถ้าเขาต้องการจะพบน้องสาวของเขาจริงๆ เขาก็ต้องตามเธอมาอยู่แล้ว
นาคินส่ายหน้าน้อยๆ แล้วก็เดินตามคนผอมบางไปในที่สุด ชายหนุ่มสั่งเพียงเครื่องดื่มเย็นๆมานั่งเป็นเพื่อนเธอเท่านั้น กระทั่งเธอกินข้าวอิ่มแล้ว เขาก็อาสาจ่ายเงินให้เอง
“ขอบคุณที่เลี้ยงค่ะ” เขาสมควรต้องเลี้ยงข้าวเธออยู่แล้ว
จากนั้นมณีจันทร์ก็พาพี่ชายของนารีไปยังบ้านของเธอ ที่นารีขอพักอาศัยอยู่ด้วยชั่วคราว
“แล้วนี่ไม่มีใครอยู่ด้วยเหรอ”
“เมนี่อยู่กับยายเพียงสองคนค่ะ เชิญคุณขึ้นไปด้านบนเลยค่ะ”
