1.บุพเพอาละวาด
*** ทักทายคร้า ***
ร่างสูงสง่าของ นาร์ธาน มอนซันโต คาเอล เดินเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยท่าทีที่ทรงอำนาจ ใบหน้าคมรับกับปลายคางหยักได้รูปของเลือดผสมระหว่างคนทะเลทรายและเอเชีย คิ้วหนาเข้มขนานกับดวงตาคมสีสนิม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหนาได้รูป ทุกอย่างที่รวมอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มนั้นน่ามองและดึงดูดสาวๆ ให้หลงใหล แต่หลายคนต้องขยาดไปกับเจ้าพ่อนาร์ธานผู้ทรงอิทธิพล เพราะรังสีความน่ากลัวที่แผ่ซ่านออกมา
วันนี้หากไม่ใช่คนสำคัญที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันมาก่อน นาร์ธานคงไม่ย่างกายเข้ามาในโรงพยาบาล เพราะชายหนุ่มเป็นโรคเกลียดโรงพยาบาลมากที่สุดในชีวิต
นาร์ธานเดินมาหยุดยืนหน้าห้องพักฟื้น ตำรวจที่ยืนเฝ้าหน้าห้องเปิดประตูให้ร่างสูงสง่าก้าวเข้าไปในห้องผู้ป่วย ตามด้วยเรียวและสมิธ ลูกน้องคนสนิทที่ถือกระเช้าเยี่ยมตามหลังเข้ามา นาร์ธานยกมือไหว้คนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้
“สวัสดีครับท่านองอาจ” ชายหนุ่มกล่าวทักทายรัฐมนตรีองอาจอย่างสุภาพ
“สวัสดีคุณนาร์ธาน” ผู้อาวุโสหันมายิ้มทักทายคนที่เข้ามาเยี่ยม
“อาการเป็นยังไงบ้างครับ ขอให้หายวันหายคืนนะครับท่าน” นาร์ธานยิ้มบางๆ ที่มุมปาก มือใหญ่รับกระเช้าจากเรียวส่งให้คนป่วย
“ขอบคุณมากครับ”
“อาการท่านดูดีกว่าเมื่อหลายวันก่อนนะครับ…และผมหวังว่าคงหายทันการประมูลเกาะรังนก” นาร์ธานหมายถึงเกาะรังนกที่อยู่ติดแถบทะเลอันดามัน ที่จะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวและคาสิโนครบวงจรของคนที่ต้องการเสี่ยงโชค
“แน่นอนคุณนาร์ธาน” รัฐมนตรีองอาจยิ้มพรายเมื่อนึกถึงเงินใต้โต๊ะจำนวนมหาศาล ที่เจ้าพ่อนาร์ธานยอมจ่ายเพื่อแลกกับการประมูล
“ผมหวังว่ามอนซันตาร์คอนสตรัคชั่นจะได้กรรมสิทธิ์ถือครองเกาะรังนกแต่เพียงผู้เดียว” นาร์ธานเอ่ยเสียงเรียบ หากแววตานั้นดูจริงจังและมองรัฐมนตรีองอาจอย่างเหยียดๆ
“ผมก็หวังว่าคุณนาร์ธานคงไม่ลืมสัญญาของเราเช่นกัน” นาร์ธานมองรัฐมนตรีองอาจด้วยสายตาเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ไว้ทุกอย่างเรียบร้อย ท่านจะได้อย่างที่หวังไว้ทันที” นาร์ธานเอ่ยบอกเบาๆ ทำให้อีกฝ่ายยิ้มหน้าบาน
“ขอบคุณมาก”
“ผมเห็นจะต้องขอตัวก่อนเพราะมีธุระต่อ” นาร์ธานกล่าวลา ร่างสูงหมุนตัวเดินออกจากห้อง ทั้งเรียวและสมิธขยับตัวเดินตามออกไป
หลังออกมาจากห้องพักฟื้นของรัฐมนตรีองอาจ นาร์ธานก็เดินมาตามทางเดินเพื่อไปยังลิฟต์ ทุกก้าวย่างดูมั่นคงและสง่าผ่าเผย แต่พอถึงทางเลี้ยวร่างสูงก็ปะทะกับร่างนุ่มที่เดินเข้ามาชนอย่างแรง ร่างบางกระเด็นตามแรงปะทะแต่มือใหญ่คว้าเอวบางไว้ได้เธอจึงไม่ล้มลงไป
“ว้าย!!!” เสียงหวานใสร้องดังขึ้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ
“เป็นพยาบาลได้ยังไงกัน เดินไม่รู้จักระวัง” นาร์ธานเอ่ยเบาๆ กระตุกยิ้มที่มุมปาก รั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอด สายตาของทั้งคู่ประสานกันอย่างจัง นาร์ธานมองใบหน้ารูปไข่นวลเนียน คิ้วโก่งสวยตามธรรมชาติรับกับดวงตาดำขลับ จมูกโด่งรั้นนิดๆ ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูจางๆ ผู้หญิงคนนี้สวยมากทีเดียว…นาร์ธานบอกกับตัวเองเบาๆ
มาดาวีมองชายหนุ่มด้วยความตกใจ หัวใจกระตุกวูบเมื่อใบหน้าคมเข้มโน้มเข้ามาใกล้ หญิงสาวดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขาทันที
“ขอโทษค่ะ พอดีฉันไม่ทันมองก็เลยชนคุณเข้า” มาดาวีกล่าวขอโทษเขาเบาๆ แก้มนวลแดงระเรื่อเมื่อเห็นแววตาที่เขามองมา
“ไม่เป็นไร…คราวหน้าระวังหน่อยนะครับคุณพยาบาล เดี๋ยวจะได้เฝ้าไข้ตัวเองก่อนที่จะได้เฝ้าคนไข้เสียก่อน” ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ มองใบหน้าเนียนที่เชิดขึ้นน้อยๆ อย่างไม่พอใจ
“ไม่แน่นะคะ คราวหน้าฉันอาจจะได้เฝ้าไข้คุณก็ได้” หล่อนบอกพลางจ้องหน้าเขาเขม็ง หากแววตาที่มองมาที่เธอทำให้หญิงสาวต้องหลบ เพราะเหมือนมีพลังบางอย่างที่กำลังจะตรึงเธอไว้ด้วยเสน่ห์ที่อยู่รายล้อมตัวเขา นาร์ธานยิ้มอย่างใจเย็น มองผู้หญิงตรงหน้าอย่างพอใจ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าที่จะแช่งหรือพูดแข็งกระด้างกับเขาสักครั้ง ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเขา จะตามใจและเอาใจเขาทุกอย่าง…ยกเว้นเธอคนนี้
“บังเอิญผมไม่ค่อยชอบโรงพยาบาลด้วยสิ…แต่ถ้าคุณไปดูแลผมถึงเตียงนอนก็ว่าไปอย่าง จริงไหม” เขาบอกด้วยสายตาล้อเลียน
*** ขอบคุณคร้า ***
