บทที่ 4 คำอธิษฐานจากฝนดาวตก
เจ้าคอบร้ามองเจ้านายที่เหม่อมองฟ้าอย่างเป็นห่วง ตามประสาหมาๆ มันอยากบอกเจ้านายมันเหลือเกินว่ามันอธิษฐานอะไรให้เจ้านาย และมันคิดแบบหมาๆ อีกล่ะว่า ผมจะหาเจ้าสาวให้นายได้ในเร็วๆ นี้ นายจะได้เลิกทำหน้าเศร้าและจมอยู่กับความผิดหวังจนไม่มีความสุขแบบนี้ ผมอยากเห็นรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนสดใสของนายเหมือนวันแรกที่เราได้พบกัน หมาน้อยคิดไปเรื่อยเปื่อยตามประสาหมาๆ
ที่ร้านต้นไม้และกาแฟอิ่มรัก
“เฮ้ย เนตรแกดูสิมีฝนดาวตกด้วย ที่ร้านเรามองเห็นฝนดาวตกชัดจังเลยแก” อรุณนารีบอกเพื่อนรักอย่างตื่นเต้น
“เออเห็นแล้ว”
“อธิษฐานสิแก เขาว่าจะได้ในสิ่งที่ขอ” ว่าแล้วคนบอกก็นั่งหลับตาทำปากขมุบขมิบ นานจนอีกคนแทบจะหลับคาเก้าอี้โยกที่ทั้งสองนั่งอยู่นอกชานบ้านหลังน้อยที่ทำไว้รับลมเย็นๆ
“อธิษฐานอะไรน่ะนานโคตรๆ อ่ะ ไปนอนแล้วนะ”
“แกนี่ไม่โรแมนติกเอาซะเลย”
หญิงสาวร่างเล็กบ่นตามหลังเพื่อนรักที่เดินปิดปากหาวหวอดๆ เข้าบ้านไป พลางปิดประตูตรวจดูความเรียบร้อยในบ้านและร้านกาแฟก่อนเข้ามาล้มตัวนอนลงข้างๆ เพื่อนรักที่ทำท่าว่าจะหลับไปก่อน
“นี่ๆๆ แกอย่าเพิ่งหลับสิ คุยกันก่อน”
“อะไรของแกนี่ยัยแมง คนจะนอน”
“อีกแล้วเรียกแมงอีกแล้ว เขาไม่ชอบเลยนะ” น้ำเสียงที่เริ่มจะงอนนิดๆ ทำให้เพื่อนรักต้องลืมตาขึ้นมาพูดเอาใจคนตัวเล็กที่ขี้ใจน้อย
“โอ๋ๆ แมงปอที่รักแกนี่ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดีและน่ารักมากๆ ไม่น่ารำคาญไม่จู้จี้ขี้บ่นเลยสักนิ้ดดด”
“นี่เขาเรียกว่าชมใช่มั้ย ก็ได้ๆ ยอมๆ”
อรุณนารีตีขลุมให้ตัวเองหน้าตาเฉย เนตรนารามองย่างเซ็งๆ ก็ทำตัวพูดจ้อไม่หยุดเหมือนแมงกัดไม้นี่แหละทั้งอโนมาและเนตรนาราจึงชอบเรียกแมงปอ แค่ แมง สั้นๆ เป็นอันรู้กัน
“เอ้าว่าไงมีอะไรก็ว่ามา ง่วงนะนี่ต้องตื่นแต่เช้าอีกพรุ่งนี้เดี๋ยวตกเครื่องกันพอดี”
“แกจะไปนานมั้ยอ่ะ ฉันอยู่คนเดียวก็เหงาแย่สิ”
หญิงสาวทำเสียงออดอ้อนเพราะพรุ่งนี้เนตรนาราต้องเดินทางไปเกาะพราวแสงจันทร์ของนายหัวม้งมาร์คอะไรนั่น วันนี้ทั้งสองสาวจึงได้มาจัดเตรียมของที่จะนำไปตกแต่งสวนบ้านพักของรีสอร์ตผู้ว่าจ้าง นามว่าเหมันต์ หิรัญวารินทร์
“โธ่ๆๆ อย่างแกนี่นะจะเหงา ฉันว่าคนที่อยู่ใกล้ๆ แกจะเฉาตายก่อนแกเหงาตายอีกแมงปอ”
“เชอะทำมาว่าเขา ตัวเองก็ใช่ย่อย” หญิงสาวพ้อเพื่อนพลางทำปากยื่นอย่างแสนงอนแล้วเธอก็เปลี่ยนโหมดกะทันหัน
“แกๆ เมื่อกี้อธิษฐานอะไรน่ะ บอกหน่อยสิ นะนะ”
“อะไรของแกนี่แมงปอปรับโหมดไวจังวะอยากรู้แกก็บอกของแกมาก่อนสิ”
“ก็ได้ๆ ฉันน่ะนะอธิษฐานว่า ขอให้แมงปอตัวน้อยๆ ตัวนี้ได้พบกับชายหนุ่มผู้แสนดีและรักแมงปอสุดหัวใจ ขอให้เขาขอแมงปอแต่งงานภายใต้ท้องสีฟ้าคราม ท่ามกลางทะเลงามสายลมและแสงแดดที่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแม๊นติก อิอิอิ เขินจัง”
เนตรนารามองกิริยา เขินจัง ของเพื่อนรักแล้วส่ายหน้าใบหน้าเล็กๆ รูปหัวใจแดงก่ำ ทำกระบิดกระบวนเอียงอาย หมอนที่เธอทุบปุบๆ อยู่นั่นแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สาวหมวยมหาภัยถอนใจกับเพื่อนที่ขอเยอะเกิน
“ขอเยอะขนาดนี้ถ้าฉันเป็นพระเจ้านะให้ได้อย่างเดียว เลยแมงปอ”
“ให้อะไรแก”
“คานทองเสริมใยเหล็กอย่างหนาและทนทานต่อการพยายามหักคานไงแก ฮ่าๆๆ”
“ไอ้เนตรบ้า นี่แนะๆๆ” ร่างเล็กของอรุณนารีฟาดหมอนนุ่มใส่เพื่อนรักเบาๆ อย่างแกล้งๆ ใบหน้าแดงก่ำเพราะหัวเราะและออกแรงทุบเพื่อนรักมากไป
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยแก ฉันบอกคำอธิษฐานของฉันแล้ว แกบอกเรื่องที่แกขอมาเลยนะ”
“โอเคๆ บอกก็ได้” เนตรนารายกมือยอมแพ้แต่ก็ยังขบขันเพื่อนรักไม่หายแล้วบอกเพื่อนในสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในหัวสักนิดแต่เพิ่งคิดได้เมื่อกี้นี่เองแบบสดๆ ร้อนๆ
“ฉันขอว่า ขอให้ได้เจอชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ สูงสัก 189 เซนติเมตร มีผมสีราวกับเปลวเพลิงดวงตาสีน้ำเงินหนึ่งข้างสีเขียวหนึ่งข้างมีผิวสีทองแดงงดงามราวสำริดมีแหวนพลอยสีน้ำเงินล้อมเพชรเป็นแหวนหมั้นและที่สำคัญ...” แล้วหญิงสาวก็หยุดเล่าดื้อๆ เพราะนึกอะไรไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“อ้าวที่สำคัญอะไรบอกมาเร็วๆ”
“ที่สำคัญๆ เขากับฉันพบกันในเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายแบบว่า โอ...ไม่น่าเป็นไปได้และฉันกับเขาก็รักกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เป็นไงแก โอเคป่ะอิอิอิ”
“โหว่าฉันขอเยอะแต่แกน่ะขอแปลก ใครที่ไหนวะจะมีดวงตาข้างละสีแถมผมสีแดง ดูหนังมากไปแล้วแก และถ้าฉันเป็นพระเจ้านะฉันก็ให้แกได้คานทองเสริมใยเหล็กอย่างดีมากๆ กับแกเหมือนกันเชอะ ไม่คุยละนอนดีกว่า”
แล้วสองสาวก็เข้าสู่นิทรารมย์อันแสนสุข และหารู้ไม่ว่าสิ่งที่พวกเธอขอนั้นมันอาจจะเป็นจริงในสักวัน และในระยะเวลาอันใกล้นี้
ในขณะที่อรุณนารีกำลังรดน้ำต้นไม้อย่างเพลิดเพลิน ส้มฉุนเด็กสาวที่เป็นพนักงานในร้านก็วิ่งหน้าตื่นมาหา
“ห๊า อะไรนะ ไอ้เนตรถูกรถชน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล!!!”
“ค่ะพี่แมงปอทางโรงพยาบาลเพิ่งโทรมาเมื่อกี้” แล้วร่างเจ้านายสาวก็ลิ่วไปทันทีทันใด
ณ โรงพยาบาลในเครือของจงบริบูรณ์ไพศาล
ห้องพักฟื้น วีไอพี ที่ตอนนี้มีร่างของหญิงสาวผมซอยสั้นทันสมัย ใบหน้าสวยคมดวงตากลมโตเป็นประกาย ริมฝีปากบางแย้มยิ้มให้ผู้มาเยือนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อะไรเนี่ยไอ้เนตร แกเจ็บแค่นี้ถึงกับนอนโรงพยาบาลเลยเหรอ”
“ไอ้แค่นี้ของแกคือแขนหัก นะแมงปอไม่ใช่แขนเดาะ หรือมดกัด ดูสิเจ็บมากๆเลย”
“ใช่แต่หน้าตาแกไม่เป็นไรเลยนี่ ดูสิยังสวยยังกะลิงเหมือนเดิม” อรุณนารีเย้าเพื่อนรักที่ทั้งเนื้อทั้งตัว ไร้รอยฟกช้ำ โดยเฉพาะใบหน้าสวยเฉี่ยวคมที่ยังคงเนียนใส ยกเว้นแขนซ้ายที่หักและตอนนี้เข้าเฝือกแล้วเรียบร้อยและรอยถลอกที่แขนขาเล็กน้อยเท่านั้น
“ก็ใบหน้าคือสิ่งสำคัญ ฉันสวยขนาดนี้ก็ย่อมต้องปกป้องใบหน้าอันสวยงามของฉันไว้ให้ดีที่สุดสิแก” ใช่แล้วถึงแม้เนตรนาราจะห้าวห่ามสักเพียงไหน แต่สิ่งที่เธอเป็นเหมือนผู้หญิงทุกๆ คนคือความรักสวยรักงาม จนบางครั้งเธอกับอโนมายังแอบคิดว่า รักสวยรักงามมากเข้าขั้นมากที่สุดด้วย แต่เนตรนาราก็สวยจริงๆ นั่นล่ะแม้เจ้าตัวไม่ค่อยแต่งหน้าแต่งตาให้สวยสดงดงามเช่นหญิงสาวคนอื่นๆ ที่พยายามแต่งให้สวย และเนตรนาราก็เป็นคนเดียวในกลุ่มที่แต่งตัวแต่งหน้าเป็นและแต่งแล้วสวยอย่างกับมืออาชีพเลยทีเดียว
“แหม ห่วงสวยจนต้องเอาแขนบังหน้าไว้จนเกือบแขนหักนี่นะ น่าชื่นชมว่ะแก แล้วเรื่องงานเอาไงนี่” เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักที่ประสบอุบัติเหตุขณะขับรถไปสนามบินแล้วมีรถอีกคันเสียหลักมาเฉี่ยวชนทำให้เพื่อนรักแขนหักเพราะเอาแขนบังตัวเองจากกระจกที่แตกและขณะถูกแรงกระแทกจากรถอีกคัน
“ฉันรับเงินมาแล้วครึ่งนึงน่ะแก แกคงต้องไปแทนชัวร์ๆ อยู่แล้วเพราะฉันไม่ไว้ใจใคร ส่วนที่ร้านไม่ต้องห่วงเพราะพรุ่งนี้ยัยอ้อนกลับมาจากฮันนีมูน แล้วก็จะมาอยู่ที่ร้านให้แกไม่ต้องห่วง”
“เออดีพูดเองเออเอง ตัดสินใจเอง ไม่เคยคิดถามฉันสักคำ อย่างนี้ไม้ต้องอ้าปากก็เห็นไปถึงถุงน้ำดีแล้วว่างกสุดๆ”
