บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 จบตอน

“คุณมาร์คต้องการสวนแบบไหนแล้วต้นอะไรบ้างคะ เดี๋ยวเชิญทางนี้เลยนะคะ”

เนตรนาราไม่สนใจเพื่อนรักแล้วในเวลานี้เพราะตอนนี้เธอมีลูกค้าที่น่าจะเป็นรายใหญ่มาเยื่ยมเยือนถึงร้าน ดังนั้นเธอจึงจะพลาดโอกาสนำเสนอผลงานและปิดการขายลูกค้ารายนี้ให้ได้ แล้วเนตรนาราก็เดินนำหน้าชายหนุ่มที่มีนามว่า คุณมาร์ค ไปยังเรือนปีกไม้ทันทีอย่างลิงโลด ปล่อยให้คนตัวเล็กยอนมองตามด้วยความขุ่นเคือง

“เฮ้ย ยัยเนตร แกทิ้งฉันเฉยเลยเหรอ”

อรุณนารีร้องขึ้นอย่างขัดเคืองเมื่อเห็นเพื่อนรักชักชวนชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไปยังมุมที่จัดไว้เป็นออฟฟิศทำงานกลายๆ ของร้านอย่างไม่สนใจเธอ หญิงสาวก็ได้แต่ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่อย่างนั้นด้วยน้อยใจเพื่อนรักที่เห็นลูกค้าสำคัญเสมอช่างงกจริงๆ ยัยหมวยมหาภัย

เรือนปีกไม้หลังน้อยที่เนตรนาราเป็นคนออกแบบและหาวัสดุอุปกรณ์มาสร้างเองนั้นเป็นเรือนปีกไม้ขนาดกระทัดรัดแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกันคือส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวนั้นจะเป็นห้องโล่งกว้างมีเตียงโบราญสี่เสาขนาดหกฟุตอยู่กลางห้องและมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบเก๋ๆ และทีวี LCD บนชั้นวางที่ทำจากกระจกใสสวยแปลกตา ห้องนี้อรุณนารีและเนตรนารามักจะมานอนพักอยู่ที่ร้านเมื่อมีงานแต่งสวนแบบเร่งด่วนหรืองานพิเศษๆ เช่นแต่งสวนประดับในงานแต่งงาน เพราะต้องอยู่คัดเลือกต้นไม้ดอกไม้ตลอดจนออกแบบสวนตามที่ลูกค้าต้องการและที่เรือนปีกไม้นี้ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของพวกเธอ

และในส่วนของออฟฟิศที่ทำงานนั้นจะตกแต่งแบบเรียบง่ายเหมือนกันคือมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น จัดห้องแบบเปิดโปร่งเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสมองต้นไม้ใบหญ้าและความสดชื่นงดงามของดอกไม้ในร้านได้ด้วยและของที่ใช้ตกแต่งทุกชั้นล้วนมาจากการประดิษฐ์และทำด้วยมือทั้งสิ้น ทั้งที่เนตรนาราทำเองหรือเมื่อเธอออกต่างจังหวัดเจอแบบแปลกๆ จะซื้อหามาตกแต่งร้านทำให้มีของแต่งร้านที่สวยแปลกไม่เหมือนใครซึ่งเจ้าตัวก็ปลื้มเหลือหลาย

นับตั้งแต่เนตรนารามีเหตุทะเลาะกับเจ้านาย ทายาทอาร์แอนด์อาร์ กรุ๊ปเมื่อปลายปีที่แล้ว เนตรนาราก็เลือกจะทำบริษัทรับตกแต่งสวนของตัวเองควบคู่ไปกับเปิดแกเลอรี่ ภาพเขียนภาพถ่ายรวมไปถึงร้านเสื้อผ้าและของฝากน่ารักๆ ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดร่วมกับเพื่อนรักทั้งสอง และมีทีท่าจะไปได้สวยเสียด้วย นอกจากนี้แรงงานและวัสดุก็สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียงที่เธอไปแนะนำและขอให้ชาวบ้านเหล่านั้นปรดิษฐ์งานฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าใส่เศษสตางค์น่ารักๆ พรมเช็ดเท้าลายต่างๆ ที่สวยงามแปลกตา หรือกระถางต้นไม้ และศิลปะหินทรายที่พวกเธอออกแบบและให้ช่างฝีมือมีชื่อของหมู่บ้านทำส่งให้กับทางร้านของพวกเธอซึ่งจะมีเอกลักษณ์เป็นของทางร้าน เพราะหากเห็นรูปปั้นหรือกระถางต้นไม้แบบนี้ที่ไหนนั่นก็แสดงว่ามาจากร้านของพวกเธอ นับว่าร้านของพวกเธอสองเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการสร้างรายได้แก่ชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับแหล่งชุมชนเหล่านั้นด้วย

นังหมวยมหาภัยจอมงก หึคอยดูนะลูกค้ารายนี้กลับเมื่อไหร่ จะไม่พูดด้วยเลย

อรุณนารีคิดอย่างโมโห พลางเดินเขยกๆ เข้าไปในร้านแล้วเรียกให้ ส้มฉุน สาวน้อยที่เป็นพนักงานในร้านหาชุดพยาบาลมาให้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บที่ข้อเท้าบาง ที่ตอนนี้เริ่มบวมนิดๆ แล้ว

“ว้าว แกเอ๊ย...แมงปอแกรู้ป่าวเมื่อกี้นายหัวมาร์คเขาตกลงว่าจ้างเราไปแต่งสวนและตกแต่งรีสอร์ตของเขาที่เกาะส่วนตัวน่ะแก เริ่ดมากกก...คราวนี้ฉันก็จะได้ไปเปิดหูเปิดตาบนเกาะแสนสวย ฉันจะไปนอนอาบแดดให้สะใจไปเลย”

อรุณนารีที่งอนเพื่อนรักอยู่แล้ว เบ้ปากอย่างหมั่นไส้กับท่าทางเคลิ้มฝันของเพื่อนพลางหันหน้าหนีไปชงเครื่องดื่มให้ตัวเองอย่างงอนไม่หาย

“เฮ้ย นี่แกงอนฉันเหรอไอ้แมง โอ๋ๆ อย่างอนน๊า ดีกันน๊า นี่เค้าทำเพื่อตัวเองน๊าคนดี๊คนดี เนี่ยถ้ารับค่าจ้างแล้วเค้าให้ตัวเองหมดเลยดีป่าว”

เนตรนาราเข้ามาโอบกอดเพื่อนรักอย่างงอนง้อ พลางหอมแก้มใสซ้ายขวาอย่างหยอกเย้าซึ่งมันเป็นภาพที่ทุกคนจะชินเพราะรู้ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนรักและผูกพันกันมานาน แต่คนที่เพิ่งมา และได้เห็นคือ นายหัวมาร์ค แห่งเกาะพราวแสงจันทร์ ชายหนุ่มไม่ใช่คนที่รู้จักเธอทั้งสองจึงได้แต่มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ขุ่นเคืองอย่างบอกไม่ถูก กระอักกระอ่วนใจและ เสียดาย แล้วเขาจะเสียดายอะไร ชายหนุ่มคิดในใจ

“ผู้หญิงทุกวันนี้ก็แปลก ผู้ชายมีเยอะแยะแต่มารักกันเองน่าขยะแขยงพิลึก”

ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนเดินไปที่รถกระบะสี่ประตูคันใหญ่คู่ใจที่มีลูกน้องจอมกวนอย่างไอ้เด่นดัง และเด่นดี คู่แฝดนรกที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยเพราะอยากมาเที่ยวเสียมากกว่าจะมาช่วยนายหัวที่รักดูงานอย่างที่บอกนายใหญ่กับนายหญิงแห่งเกาะพราวแสงจันทร์

“เฮ้ยๆ ไอ้เด่นดัง นายหัวมาแล้วเว้ย” เด่นดี พลีชีพ ร้องบอกน้องชายฝาแฝดที่กำลังเกี้ยวสาว (ซึ่งเป็นสาวชาวเขาเผ่าหนึ่งมาจากภาคเหนือ ) คนดูแลสวนของอรุณนารี ที่ตอนนี้สาวเจ้าอายม้วน หญ้าบริเวณรอบๆ ถูกถอนเกลี้ยงเพราะความขัดเขิน ไม่รู้ไอ้น้องชายฝาแฝดตัวดีมันพูดอะไรกับสาวนั่นถึงได้อายม้วนขนาดนี้

เด่นดัง พลีชีพ มองพี่ชายฝาแฝดที่เหมือนกันราวกับแกะไม่ว่าจะเป็นผมที่หยิกหยองฟูฟ่องบนหัว ใบหน้าที่ออกเหลี่ยมๆ จมูกที่จะโด่งก็โด่งนิดๆ พอมีสิ่งที่เรียกว่าดั้ง แถมยังโตอีกต่างหาก ริมฝีปากหนาและอิ่มย้อย (หรือจะเรียกว่าปากห้อยก็ไม่ผิดนัก) จะผิดที่สีผิวเท่านั้น พี่ชายฝาแฝดของเขานั้นผิวขาวในขณะที่เขาตัวดำ (มาก) มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมากมายมันเป็นไปได้อย่างไรที่มันจะแตกต่างกันเพียงแค่นี้

“น้องมะหมี่จ๋าเอาไว้โอกาสหน้าพี่เด่นดังจะมาหาใหม่นะจ๊ะ เจ้านายพี่เด่นดังสุดหล่อมาแล้ว อย่าลืมโทรหาพี่นะจ๊ะคนสวย อะจึ๊ยๆ”

เด่นดังมิวายหยิกแก้มสาวนามมะหมี่ (ที่เขาเพิ่งตั้งให้เพราะชอบ มะหมี่นางเอกเรื่องแม่เบี้ย) ที่นั่งตะกุยหญ้าข้างๆ กายจนกระจุยกระจายแก้อาการขัดเขิน แล้วสองศรีพี่น้องเดินเร็วๆ ไปที่รถคันใหญ่อย่างรู้หน้าที่ เมื่อเจ้านายมาถึงก็พร้อมจะขึ้นรถทันที

“เป็นไงบ้างครับนายหัว”

เด่นดังถามนายหัวหนุ่มด้วยความอยากรู้ และเขากับเด่นดีก็แตกต่างกันอีกอย่างคือ เด่นดัง นั้นเป็นคนช่างพูดช่างคุยและกะล่อนขี้เล่น ในขณะที่เด่นดีนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบขรึมและไม่ค่อยพูด แต่เรื่องความกวนป่วนได้ใจนั้นไม่แพ้แฝดน้อง เพียงแต่เด่นดีจะไม่ค่อยพูดเท่านั้นเอง เหมือนกับคำพูดที่ว่า พูดน้อยต่อยหนัก

“ฮื่อ” สั้นๆ แต่ได้ใจความที่มีแค่สองพี่น้องนี้เท่านั้นที่เข้าใจ นายหัวเหมันต์ พูดน้อยและเงียบขรึมจนดูเหมือนหยิ่งและเย็นชา ยิ่งดวงตาสีน้ำเงินเข้มเกือบดำนั้น เวลาที่เจ้าตัวโกรธจัดมันจะมืดดำดูน่ากลัวจนคนที่ถูกมองเสียววาบเย็นไปถึงไขสันหลังเลยทีเดียว สองพี่น้องได้แต่มองหน้ากันอย่างปลงๆ กับความเย็นชาเสมอต้นเสมอปลายของนายหัวหนุ่ม ที่เป็นมาตลอดเกือบเจ็ดปี่ที่ผ่านมานับตั้งแต่เลิกรากับแฟนสาวสวยลูกครึ่งนามว่า แอนนิต้า รามอส นางแบบไฮโซที่ตอนนี้เธอแต่งงานอยู่กินกับสามีชาวฝรั่งเศสหลังจากทิ้งเจ้านายเขาไปอย่างไม่ไยดี

เมื่อถึงบ้านพักหลังใหญ่ในหมู่บ้านจัดสรรสุดหรู แถวชานกรุงนายหัวหนุ่มก็รีบขึ้นมาเก็บของเตรียมตัวกลับเกาะ เหมันต์ยืนนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาในห้องน้ำใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามด้วยอยู่กลางแจ้งเป็นนิจนั้นดูเย็นชา เงาที่สะท้อนออกมาจากกระจกนั้น เป็นภาพภาพชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาเยี่ยงเทพบุตรพึงมี ใบหน้าเหลี่ยมหล่อเหลาเข้มคม สันกรามแกร่งมีรอยผ่าบุ๋มที่คางบึกบึน จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักหนาสีเข้ม ผิวสีแทนสวย แผงอกกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามดั่งรูปปั้นนักรบโรมันผู้ห้าวหาญ แต่แววตาสีน้ำเงินเข้มนั้นกลับเย็นชาแม้เจ้าตัวเองยังรู้สึกได้ เขากลายเป็นคนเย็นชาแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ตั้งแต่ตอนนั้นสินะ...

บทที่ 2 เกาะพราวแสงจันทร์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel