ท้อง
ตัดภาพมาที่เธอหลังจากที่หมดสติไปชั่วโมงกว่าๆ
" ลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะ
เมื่อเธอเริ่มรู้สึกตัวก็ถามหาแต่ลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
" ใจเย็นๆก่อนนะครับ ตอนนี้ลูกของคุณปลอดภัยแล้ว
" แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหนคะ
" ตอนนี้อยู่ที่ห้องพิเศษแล้วครับ
เธอพยายามดึงสายน้ำเกลือออกเพื่อที่จะไปหาลูกสาว
" ห้องไหนคะพาฉันไปหาลูกหน่อย
" ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณ รอให้น้ำเกลือหมดก่อนเดี๋ยวผมจะพาไป คุณหมอบอกว่าตอนนี้ร่างกายของคุณอ่อนเพลียมากๆ
" ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้วนี่คะ
" เป็นสิครับ เป็นมากด้วย
" ก็เห็นอยู่ว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วพูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง!
เธอเริ่มหงุดหงิดเพราะไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ และที่สำคัญเธอนั้นเป็นห่วงลูกจนไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ในตอนนี้
" คุณท้องอยู่นะครับ คุณหมอบอกว่าให้คุณนอนพักผ่อนจนกว่าน้ำเกลือนี่จะหมด
" ท้อง!
" ครับ คุณหมอบอกว่าคุณท้องได้สองเดือนแล้ว
ใช่สิหลังจากที่เธอคลอดลูกสาวได้ไม่นานเขาก็พาเธอไปฉีดยาคุมซึ่งมันต้องไปฉีดทุกๆสามเดือน เธอจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ไปมันก็นานมาแล้วเกือบปี เธอเคยอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการคุมกำเนิดชนิดนี้ซึ่งเขาอธิบายว่ายาตัวนี้จะหมดฤทธิ์หลังจากที่หยุดฉีดไปแล้วประมาณเก้าเดือน และเธอไม่ต้องการที่จะคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้เนื่องจากมันส่งผลให้การมาของประจำเดือนเธอนั้นผิดปกติ เธอจึงตัดสินใจที่จะหยุดมันแล้วค่อยเริ่มใหม่ด้วยการคุมกำเนิดด้วยวิธีกิยาแทน เธอรู้สึกชินกับการที่ไม่ได้กินยาคุมมาหลายปีเลยส่งผลให้เธอนั้นลืมสนิท
" แล้วเขารู้เรื่องนี้หรือยังคะ
" เขาไหนครับ
" ก็พ่อของลูกไงคะ
" ออ หมายถึงสามีคุณหรอครับ
" ค่ะ
" ยังไม่รู้เรื่องนี้ครับเพราะเขาไม่ได้มาด้วย
" คุณอย่างเพิ่งบอกเรื่องนี้กับเขานะคะ
" ทำไมหรอครับในเมื่อเขาเป็นพ่อของลูก
" ฉันยังไม่สะดวกให้เขารู้ตอนนี้ค่ะ
" พอขอทราบเหตุผลหน่อยได้ไหมครับ
เธออธิบายเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาให้ชายหนุ่มตรงหน้าฟังตั้งแต่เริ่มจนจบ ซึ่งมันทำให้ชายหนุ่มนั้นรู้สึกสงสารเธอขึ้นมาทันที
" ทำไมคุณถึงทนอยู่กับผู้ชายเลวๆแบบนั้นด้วย
" ฉันเคยคิดที่จะพาลูกหนี แต่มันติดตรงที่ฉันเป็นห่วงอนาคตของลูก ณตอนนี้เขาสามารถให้การศึกษาที่ดีแก่ลูก สามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกต้องการ ส่วนฉันไม่ต้องพูดถึงขนาดคิดจะหนียังไม่มีปัญญาหนีเลยหรือต่อให้หนีได้ก็เป็นการพาลูกไปลำบากเปล่าๆ
" ถ้าเป็นแบบนั้นคุณก็ทนอยู่กับเขาต่อไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็ติดต่อมาหาผมได้ทุกเมื่อ นี่ครับนามบัตรผม
" คุณชาร์ลี
เธออ่านชื่อในนามบัตรของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอ
" ใช่ครับผมชื่อชาร์ลี
" ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณชาร์ลี
" ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับคุณนิชา
" คุณช่วยไปดูลูกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ
" ผมก็อยากไปช่วยดูอยู่หรอกครับ แต่ติดตรงที่พ่อของน้องไม่ยอมให้ผมเข้าไป
" ทำไมคะ
" ไม่รู้สิครับ เขาเอาแต่ต่อว่าผมหาว่าผมทำให้ลูกเขาต้องได้รับบาดเจ็บ
" ฉันเข้าใจคุณค่ะ อีกอย่างถ้าตอนนั้นฉันไม่เป็นลมก่อนเขาคงไม่หยุดต่อว่าฉันแน่
" ผมนับถือคุณจริงๆที่สามารถทนอยู่กับผู้ชายแบบนั้นมาได้
" ก็อย่างที่บอกแหละค่ะ ฉันทนอยู่ก็เพื่อลูก
" ครับผมเข้าใจ งั้นคุณพักผ่อนเลยนะครับไว้น้ำเกลือหมดผมจะพาคุณไปหาลูกสาว
" ค่ะ
เมื่อน้ำเกลือหมดชายหนุ่มตัดสินใจพาเธอไปหาลูกสาวทันที
" คุณเชนลูกเป็นยังไงบ้างคะ
" ก็แหกตาดูสิ
" นิชาหมายถึงลูกรู้สึกตัวบ้างหรือยัง
" นี่เธอเป็นห่วงลูกด้วยหรอ
" คุณเชนเป็นบ้าอะไรคะถึงได้กล้าถามอะไรโง่ๆแบบนั้น
" ถ้าเธอเป็นห่วงลูกจริงๆทำไมถึงโผล่มาเวลานี้
" คุณเชนก็เห็นนี่ว่านิชาเป็นลม
" ปกติเธอไม่ใช่คนที่เป็นอะไรง่ายๆ หรือว่าเธอแค่แกล้งเป็นลมต่อหน้านายนั่นเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกัน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเธอคงทำสำเร็จแล้วสินะ เพราะนายนั่นตามติดเธอตลอดเวลา ส่วนเรื่องคดีความรออาการลูกดีขึ้นก่อนฉันจะเอาเรื่องนายนั่นให้ถึงที่สุด
" ขนาดนิชาเป็นลมคุณเชนไม่มีความเป็นห่วงนิชาเลยสักนิดแล้วยังมากล่าวหากันอีก นี่จิตใจคุณทำด้วยอะไร
" แล้วฉันจะเป็นห่วงไปทำไมในเมื่อเธอมีนายนั่นคอยเป็นห่วงอยู่แล้ว
" ก็คุณไม่ได้สนใจนิชาไงคนอื่นถึงต้องคอยดูแล หรือต่อให้ไม่มีคนอื่นคอยดูแลคุณเชนก็คงไม่คิดที่จะตามไปดูอาการนิชาหรอกจริงไหมคะ
" ถ้าเธอคิดแบบนั้นก็แล้วแต่เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่เคยมองฉันในแง่ดีอยู่แล้ว
