บท
ตั้งค่า

บทที่๔...เสนอตัว (๑)

บทที่๔...เสนอตัว

ไม่เข้าใจสักนิดว่าปูรณ์กำลังเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่ หล่อนยกมือขึ้นมากอดอกพลางถอนหายใจขณะมองสามีที่ส่งยิ้มแป้นราวไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง ไล่สายตาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาดูต่างไปจากทุกวันที่เจอกัน

คนตัวสูงอยู่ในชุดเสื้อยืดทับด้วยเสื้อลายสก็อตแขนยาว คาดว่าคงยืมมาจากเก๋งเพราะปลายแขนมันสั้นจนดูไม่เข้ากับรูปร่าง กางเกงที่สวมก็เป็นเพียงวอร์มสีดำและรองเท้าผ้าใบเปื้อนโคลน ดูไม่ต่างจากคนงาน แต่ด้วยหน้าตาหล่อเหลาทำให้โดดเด่นขึ้นมาสักหน่อย

“พี่กำลังทำอะไรอยู่คะ” ถามเสียงเรียบ อยากยกมือขึ้นมาเกาศีรษะยอมกับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า ทั้งที่ขอร้องเรื่องหย่าหลายรอบแต่ก็ชายหนุ่มก็บ่ายเบี่ยง เท่านั้นไม่พอยังเข้ามาใกล้ชิดและพยายามให้หล่อนกลับไปคืนดีด้วยอีกต่างหาก

คิดว่าคำขอโทษและการกระทำเพียงเล็กน้อย จะทดแทนเวลาห้าปีที่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวได้เหรอ คนอย่างอรนลินไม่ยอมหรอก เจ็บแล้วจำไม่ต้องการกลับไปอยู่ในสถานะที่ไม่มีความแน่นอนอีกแล้ว ขนาดนอนกอดใบทะเบียนสมรสยังไม่ได้ใจเขาเลย

“อ้ายจะเข้าสวนเก็บผลไม้ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเอง” คิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพิ่งรู้ว่าภรรยาเป็นที่หมายตาของชายหนุ่มหลายคนในหมู่บ้าน ก่อนแต่งงานเขาก็ไม่ค่อยสนใจหล่อนเท่าไหร่ อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนเข้าหาเองด้วย

คิดแล้วก็นึกถึงสมัยก่อน หญิงสาวที่เพิ่งออกจากงานกับชายหนุ่มที่เพิ่งสูญเสียคนรัก มาพบกันในบรรยากาศของไร่ผลไม้ยายจันทร์ เจอกันครั้งแรกเธอก็เล่นน้ำคลองอย่างซุกซนแถมหน้าตามอมแมม เจอกันครั้งที่สองก็ตกต้นไม้ เป็นพรหมลิขิตหรือเปล่าไม่แน่ใจเหมือนกัน

แต่มันก็ทำให้ปูรณ์มีรอยยิ้มอีกครั้งหลังสูญเสียคนรักไป และเริ่มเปิดใจให้แก่อรนลิน ก่อนจะทิ้งเธอไปไม่ไยดี

“พี่ปูรณ์เนี่ยนะจะช่วยเก็บผลไม้ ทำไม่ได้หรอกค่ะ กลับบ้านไปเถอะ” ไม่รักษาน้ำใจคนที่คิดจะช่วยสักนิด หล่อนหันหลังเตรียมเดินเข้าบ้านแต่ก็มีคนรั้งเอาไว้

“พี่ทำได้” เชื่อมั่นในตัวเองจนหญิงสาวต้องหันกลับมามองอีกครั้ง หล่อนนิ่งไปสักพักก่อนจะยกยิ้มมุมปาก อยากรู้เหมือนกันว่าที่บอกทำได้มันจะสักแค่ไหนกันเชียว

“งั้นก็ลองดูค่ะ แต่ถ้าเจ็บตัวไม่เกี่ยวกับอ้ายนะ” บอกไว้ก่อนและเขาก็พยักหน้า ก่อนจะเดินตามหญิงสาวเข้ามาในบ้าน ทว่าร่างบางกลับหันมาจนชายหนุ่มต้องหยุดอยู่ที่เดิม

“ต่อจากนี้พี่ปูรณ์ห้ามเข้าบ้านอ้ายอีก ถ้าจะมาต้องขออนุญาตก่อน ห้ามทำตามอำเภอใจเพราะพี่ทิ้งสิทธิ์นั้นไปแล้ว หวังว่าจะเข้าใจนะคะ” ย้ำชัดถึงสถานะในตอนนี้ ถึงทะเบียนสมรสจะยังอยู่และเธอมีนามสกุลของเขาต่อท้าย

ทว่าในพฤตินัยปูรณ์ได้ทิ้งหล่อนไปจนเหมือนเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เพราะฉะนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องไปมาหาสู่เหมือนคนคุ้นเคย เธอต้องย้ำเส้นชัดเจนให้เขาได้รับรู้ และย้ำตนเองเช่นเดียวกันเพื่อไม่ให้อภัยชายหนุ่ม ที่ปล่อยให้ตนเจ็บมาตลอดหลายปี

แล้วมาขอคืนดีในวันเดียว มันง่ายเกินไป เหตุผลก็ไม่บอกสักอย่าง แถมกลับมาไทยแทนที่จะไปให้เห็นหน้าก็เลือกจะหลบหนีมาบ้านพักตากอากาศ การกระทำของอีกฝ่ายบอกหมดทุกอย่างกับเธอแล้ว

ไม่ต้องถามก็รู้ว่าปลายทางความรักคือการหย่าร้าง

“พี่กำลังทำทุกอย่างเพื่อทวงสิทธิ์ตัวเองคืน” วาจาฉะฉานจนหล่อนแทบหัวเราะออกมา เขาช่างแสดงได้เก่งเสียเหลือเกินว่ายังรักกัน ทั้งที่ความจริงไม่เคยมีใจให้กันเลยสักนิด

คนที่ปูรณ์รักยังเป็นผู้หญิงคนนั้น ที่ตายจากเขาไปหลายปีแล้ว

“ยากหน่อยนะคะ พอดีอ้ายใจแข็งซะด้วย” สองคนยังคุยกันไม่เสร็จแต่ชัดเจนก็วิ่งเข้ามาหาพี่อ้ายเพราะได้รับคำสั่งจากคนเป็นตาให้ช่วยหญิงสาวเก็บผลไม้ในไร่

วันก่อนที่ไปขายของได้กำไรก็จ่ายให้เด็กน้อยที่ไปช่วยเหลือ ส่วนหนึ่งเก็บไว้ต่อทุน หล่อนมีเงินเก็บมากพอสมควร เนื่องจากช่วยธุรกิจของบ้านป้องเกียรติคุณมาตลอดระยะเวลากว่าห้าปี แทบไม่ได้ใช้เงินด้วยซ้ำ ส่วนมากคุณชโลทรจะซื้อเสื้อผ้า กระเป๋าหรือรองเท้าให้ลูกสะใภ้ตลอด อาหารการกินมีพร้อม เงินไม่เคยไหลออกมีแต่ไหลเข้าอย่างเดียว

ซาบซึ้งในบุญคุณของท่านที่ดูแลเธอมาอย่างดีตลอดห้าปี กลายเป็นความผูกพันไปเสียแล้ว

“เก็บทุเรียนเหรอ” หยุดอยู่ใต้ต้นทุเรียน ร่างสูงเงยหน้ามองต้นไม้สูงใหญ่พลางลอบกลืนน้ำลาย อรนลินที่อยู่กับไร่กับสวนมาทั้งชีวิตพยักหน้าพลางยิ้มกว้าง หล่อนชำนาญในการเก็บผลไม้ทุกชนิดในไร่ยายจันทร์ ยิ่งเรื่องปีนต้นไม้ขอให้บอก ยายชอบเปรียบเปรยว่าหล่อนเป็นลิงกลับชาติมาเกิด

“ค่ะ ไม่ไหวถอนตัวได้นะคะ” หยั่งเชิงแต่หนุ่มนักดนตรีเดินหน้ามาถึงขนาดนี้แล้ว หันมองชัดเจนที่ส่งยิ้มแหยให้ ไม่คิดว่าพี่อ้ายจะเล่นหนักตั้งแต่ยังไม่ทันจะเริ่ม คราวแรกคิดว่าจะไปเก็บผลแตงโมเสียอีก

“เราจะไปเก็บแตงโมไม่ใช่เหรอพี่อ้าย” ท้วงแทนพี่ชายที่เริ่มหน้าเสีย แค่จับทุเรียนเขายังกลัว ไม่ต้องพูดถึงให้มารับลูกที่หนามแหลมรอบผลเลย

“แตงโมค่อยเก็บวันมะรืน ตอนนี้ทุเรียนกำลังออกผลดี พี่ว่าจะเอาไปทำทุเรียนทอดขายที่ตลาดสักหน่อย” ตอบเด็กชายแล้วหันมามองหนุ่มเมืองกรุงที่ดูท่าจะไม่ค่อยได้ออกมาไร่สวนเท่าไหร่

ไม่แปลกหรอก ปูรณ์เป็นคุณชายเหมือนในละครไม่ผิด เมื่อก่อนผิวขาวราวไม่เคยต้องแสงแดด แต่ตอนนี้เหมือนจะคล้ำขึ้นมาหน่อย จนเริ่มสงสัยว่าเขาไปเมืองนอกทำอะไรบ้าง อยากถามใจจะขาดทว่าไม่อยากเอ่ยให้เสียศักดิ์ศรี

เขาไม่เห็นถามเธอเลยว่าอยู่ไทยเป็นอย่างไร แล้วทำไมต้องอยากรู้ด้วยว่าชายหนุ่มไปเมืองนอกใช้ชีวิตสุขสบายไหม

แต่ไม่ต้องถามก็รู้คำตอบอยู่แล้ว คงจะมีความสุขที่ไม่มีหล่อนกวนใจ ถ้าอย่างนั้นมาตอบตกลงแต่งงานทำไม คิดแล้วก็โกรธจนไม่อยากมองหน้าอีกฝ่าย

“พี่จะขึ้นไปเก็บทุเรียน ชัดรอรับข้างล่างเนี่ยแหละ อ้อ พี่ปูรณ์ช่วยด้วยนะคะ ไหนๆ ก็บอกอยากมาเก็บผลไม้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายแล้วมองภรรยาที่ขึ้นต้นไม้อย่างกระฉับกระเฉง ไม่นานก็เหยียบไม้ที่ยื่นออกมาให้มั่นคง

เอื้อมไปตัดลูกทุเรียนที่เริ่มสุก ขณะที่คนข้างล่างเตรียมอุปกรณ์ ชัดเจนยื่นถุงมือให้ปูรณ์ก่อนจะหยิบกระสอบป่านมาถือเอาไว้

“พี่ปูรณ์มองลูกไว้แล้วถ้าพี่อ้ายโยนลงมาก็รีบรับด้วยกระสอบนี้เลยนะ” อุปกรณ์ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ ชัดเจนเห็นพี่ข้างบ้านทำหน้าไม่มั่นใจก็เริ่มคิดหนัก

“เดี๋ยวผมทำให้ดูก่อนก็ได้” ช่วยตากับยายบ่อยจนชำนาญในการเก็บทุเรียน จึงได้ขันอาสาและร่างสูงก็ไม่ได้ขัดแต่อย่างใด หลีกออกมายืนดูอยู่ห่างๆ ก่อนที่อรนลินจะโยนทุเรียนลงมา แล้วนักเรียนมอต้นรับได้อย่างรวดเร็ว

เขาอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกว่าเก็บทุเรียนกันอย่างไร เขานำตะกร้าไปใกล้ชัดเจนเพื่อให้วางผลไม้ได้ถนัด เงยหน้ามองภรรยาตนเองที่อยู่บนต้นไม้แล้วตัดก้านทุเรียน โยนลงมาให้คนข้างล่าง

“พี่อ้ายจะเก็บอีกเยอะไหม” ชัดเจนตะโกนถามด้วยความสงสัย เพราะพี่สาวไม่บอกอะไรเลยสักอย่าง นอกจากสั่งให้เตรียมอุปกรณ์อะไรมาบ้าง

“สองสามลูกก็พอแล้ว” ได้ยินอย่างนั้นร่างสูงที่อุตส่าห์แต่งตัวพร้อมทำงานก็มาจับปลายกระสอบอีกด้านทันที มาถึงที่ถ้าไม่ได้ทำก็เสียดาย การรับลูกทุเรียนมันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว คิดอย่างนั้นก็จ้องร่างบางก่อนที่หล่อนจะโยนลูกซึ่งมีแต่หนามแหลมลงมา

เขารับไว้ได้ทันท่วงทีจนฉีกยิ้มกว้าง ชัดเจนเห็นอย่างนั้นก็ดีใจด้วยเพราะไม่คิดว่าพี่ชายจะทำได้ตั้งแต่ลูกแรก

“พี่รับได้แหละชัด” ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เหมือนสอบเข้าโรงเรียนได้ตามที่หวัง เล่นเอาอรนลินที่มองลงมาเริ่มหมั่นไส้

“เก่งมากเลยพี่ปูรณ์” เด็กชายเอ่ยชม ทว่าเสียงที่ตะโกนจากบนต้นไม้ก็ตัดกำลังใจเสียเหลือเกิน

“แค่รับลูกได้เอง ไม่เห็นจะต้องใช้ทักษะตรงไหนเลย เอาแมวมาทำยังได้” ตัดกำลังใจกันเก่งเหลือเกิน ทีเมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้ แค่เขาทอดไข่ให้กินยังชมแล้วชมอีก ทุกวันนี้เหมือนว่าแค่เดินผิดจังหวะก็ขวางหูขวางตาหล่อนไปเสียหมด

ร่างสูงถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองภรรยาที่อยู่บนต้นไม้ กะจังหวะเพื่อรอรับผลทุเรียนซึ่งผลของมันเขาไม่ชอบกินอยู่แล้ว มีผลไม้ไม่กี่ชนิดที่เขาชอบ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุเรียนเด็ดขาด

ความตั้งใจของปูรณ์ทำเอาร่างบางหมั่นไส้ หล่อนโยนลงข้างล่างก่อนที่นักดนตรีหนุ่มจะรีบวิ่งเข้าไปรับเพราะมันค่อนข้างห่างจากจุดที่ตนเองยืน ผลที่ได้คือลูกลงกระสอบป่านอย่างพอดิบพอดี แต่เท้าดันสะดุดก่อนหินทำให้ล้มลงกับพื้นจนเจ็บ

“พี่ปูรณ์!” ชัดเจนร้องด้วยความตกใจ ขณะที่อรนลินรู้สึกไม่ต่างกัน เธอรีบลงมาจากต้นไม้ทันทีไม่คิดว่าร่างสูงจะเสียหลักล้ม

คนเจ็บยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษดินที่เกาะตามกางเกงพลางส่ายศีรษะ แล้วหันมองเด็กน้อยที่เข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

“เจ็บไหมพี่ปูรณ์” สีหน้ากังวลกับท่าทีของพี่ชายที่พยายามทำเหมือนไม่เจ็บ

“แค่นี้เอง สบายมาก” ร่างบางที่ลงมาเหยียบพื้นเดินเข้ามาด้วยความห่วงใย แต่พอจ้องหน้าเขากลับส่งยิ้มราวกับว่าไม่เป็นอะไร เธอเม้มปากแน่นจุกจนพูดอะไรไม่ออก ทั้งที่เจ็บแต่ก็ยังมอบรอยยิ้มให้กันอย่างนั้นเหรอ เห็นชัดๆ ว่าหล่อนพยายามจะแกล้งเขาให้บาดเจ็บ กำลังมอบบทร้ายให้กันหรือไง ก้มมองที่เข่าซึ่งกางเกงขายาวถลอกจนเชื่อว่าเนื้อข้างในคงไม่ได้เรียบเหมือนก่อนเกิดอุบัติเหตุแน่

อาการห่วงจนอยากเข้าไปถามไถ่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยของหลานสาวเจ้าของไร่ยายจันทร์ หล่อนทำราวไม่แยแสความเจ็บปวดของเขา

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ ถ้างั้นช่วยยกตะกร้าทุเรียนไปไว้ที่บ้านให้หน่อยนะคะ” ไม่แม้แต่จะเดินเข้าไปดูหรือถามไถ่ เล่นเอาสองหนุ่มต่างวัยอ้าปากค้าง ใครจะคิดว่าหล่อนเมินกันได้ขนาดนี้

ชัดเจนถึงกับหันมองร่างสูงที่พูดไม่ออก อึ้งกับภรรยาของตนเอง ใช่ว่าที่เขาบอกไม่เป็นอะไรมันจะหมายความว่าไม่เจ็บสักหน่อย ทางกายไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่ทางใจคิดว่าสาหัสพอควร ยิ่งโดนเมินแบบนี้ทำเอาแทบไปไม่เป็น

“พี่ปูรณ์ ไม่เป็นอะไรแน่นะ” ถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเงียบ เขาส่ายศีรษะแล้วก้มลงไปจับหูตะกร้าใบใหญ่ข้างซ้าย ส่วนชัดเจนจับข้างขวาค่อยพากันเดินลัดเลาะไปยังบ้านหลังงามของอรนลิน

วางตะกร้าไว้ข้างหลังบ้านใกล้กับประตูครัวเพื่อจะได้สะดวกต่อหญิงสาวที่ต้องจัดการปอกเปลือกและทำเมนูทุเรียนอบกรอบ ช่วงนี้เธอกำลังอินกับการทำขนม ความคิดสร้างสรรค์เต็มไปหมดจนลุงกับป้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่คิดว่าคุณหนูจะกลับมาช่วยเหลือไร่แห่งนี้

ลำพังแค่สองตายายอาจทำให้เป็นที่รู้จักแต่ก็ไม่ใช่ในวงกว้าง ขายผลไม้ที่ออกดอกออกผล หรือทำเกษตรตัวอย่างให้คนเข้าชมเท่านั้น ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์อื่นเหมือนอย่างที่อรนลินกำลังทำอยู่ในขณะนี้

“ขอบใจที่มาช่วยมากนะชัด” ร่างบางเดินเข้ามาบอกพร้อมให้ค่าขนมเล็กน้อย เห็นอย่างนั้นหัวหน้าห้องคนเก่งก็ยิ้มแก้มปริ ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วปล่อยให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel