บท
ตั้งค่า

6: ร้ายแค่ไหนข้าก็เลือก [1]

อันหนิงรอแล้วรอเล่าให้สามีว่างจากการทำงานแล้วพานางกลับบ้านเดิมบ้าง ทว่าตั้งแต่วันนั้นนางก็ไม่เคยได้พบหน้ากันจริง ๆ จัง ๆ สักที นอกจากตื่นนอนและกินข้าวเช้าด้วยกันทุกวันแล้ว ที่เหลือนางก็ไม่เคยเห็นได้เจอหวังเหล่ยอีกเลย

นี่มันเดือนหนึ่งเต็ม ๆ แล้วที่ต้องมานั่งรออย่างไร้จุดหมาย คิดอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากเขาตั้งใจแกล้งพูดเพื่อตัดปัญหา ในเมื่อไม่มีเวลานักถ้าเช่นนั้นนางก็จะไปเอง

อันหนิงออกจากจวนไปโดยไม่บอกใคร เพราะถึงอย่างไรคนที่นี่ก็มิได้สนใจนางแต่แรกอยู่แล้ว บ้านเดิมอยู่ไม่ไกลจากบ้านสามีนัก แค่เดินเท้าเปล่าใช้เวลาไม่ถึงสองเค่อก็ถึงแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกรถม้าแต่อย่างใด

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังหญิงสาวใช้ผ้าผืนบางปกปิดใบหน้าครึ่งล่าง เขาเคยพูดว่ารู้การเคลื่อนไหวทั้งหมด เพื่อไม่ให้คนของหวังเหล่ยจับได้ว่านางแอบออกจากจวนโดยไม่ได้รับอนุญาต นางจึงไม่ทำตัวให้โดดเด่นสวมใส่ชุดที่แสนจะธรรมดา เดินปะปนไปกับชาวบ้านที่เดินทางสัญจรไปมาด้านนอกได้อย่างกลมกลืน

แต่แล้วเมื่อมาถึงหน้าจวนตระกูลหลี่นางกลับก้าวขาไม่ออก ไม่รู้ว่าจะทำตัวเช่นไรหากต้องเจอสายตารังเกียจเดียดฉันท์ของคนในครอบครัว เกรงว่าพวกเขาจะไม่ต้อนรับ ขับไล่ให้กลับบ้านสามี ทว่าหากนางถอดใจเสียแต่ตอนนี้ จิตใจอันแรงกล้าอ้อนวอนย้อนเวลากลับมาได้สำเร็จก็เป็นอันเปล่าประโยชน์ เท่ากับว่านางได้ทรยศความเมตตาของสวรรค์มิใช่หรือ

เมื่อเรียกความมั่นใจให้กับตนเองได้ จึงเคาะประตูจวนเรียกคนด้านในให้เปิดประตู ยังดีที่บ่าวรับใช้ในจวนนี้ไม่เหมือนบ้านสามี พวกเขายังพอเคารพนางอยู่บ้างในฐานะเจ้านาย ไม่แสดงความกระด้างกระเดื่องต่อหน้าให้รู้สึกรำคาญใจ

“ท่านพ่อท่านแม่อยู่จวนหรือไม่”

“อยู่เจ้าค่ะ นายท่านกับฮูหยินกำลังนั่งจิบชายามบ่ายอยู่เรือนรับรองเจ้าค่ะ”

“ขอบใจมาก เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ”

“เจ้าค่ะคุณหนู” บ่าวรับใช้สาวถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก คุณหนูใหญ่พูดขอบคุณตนที่เป็นแค่บ่าวเช่นนั้นหรือ เป็นไปได้อย่างไร ปกติจะต้องพ่นคำแรง ๆ ใส่แล้วค่อยไล่ไปให้พ้นมิใช่หรือ ไม่อยากจะเชื่อหรือว่าคุณหนูกำลังป่วย ถึงได้พูดอะไรที่ไม่ใช่ตนเองแบบนี้

กระนั้นแม้ลึก ๆ จะเป็นห่วงแต่ก็ไม่กล้าเซ้าซี้ เกรงว่าคุณหนูใหญ่จะแผลงฤทธิ์ใส่ สาวใช้จึงเลือกที่จะถอยห่างตามคำสั่ง

อันหนิงเดินทอดน่องไปเรื่อยอย่างไม่รีบร้อนจนกระทั่งถึงเรือนรับรอง ในหัวก็เอาแต่คิดหาวิธีทำอย่างไรถึงจะให้ผู้ให้กำเนิดทั้งสองวางใจและให้อภัย

“ท่านพี่ข้าไม่เห็นอันหนิงกลับบ้านมาสองเดือนแล้วนะ จะเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับลูกหรือเปล่า ข้าเป็นห่วงอย่างไรไม่รู้” ฟางเหนียงนั่งปรับทุกข์กับสามีเรื่องบุตรสาวคนโต ปกติอันหนิงจะต้องหนีกลับบ้านมาเสียเดือนละหนึ่งครั้ง ทว่าตอนนี้สองเดือนเข้าไปแล้วก็ยังไม่เห็นว่าบุตรสาวโผล่หน้ามาเสียที

“นั่นสิ ข้าได้เจอกับลูกเขยเมื่อไม่นานมานี้ ไม่เห็นเจ้าตัวจะพูดถึงลูกเราสักคำ หรือจะมีปากเสียงกันอีกแล้ว แต่ก็ไม่น่าจะถึงกับหายหน้าหายตาไปนานเช่นนี้” หลี่จิ่นลูบเคราพลางใช้ความคิด อยากจะเอ่ยถามหวังเหล่ยเหมือนกันแต่วันนั้นดูเหมือนเจ้าตัวจะยุ่งมากไม่มีเวลาได้คุยกันนาน เขาเลยปล่อยผ่านมิได้ถามถึงอันหนิง หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้น่าจะถามสักหน่อยก็คงดี

“ท่านพี่เราไปหาลูกดีหรือไม่ ท่านก็รู้อันหนิงแต่งงานเพราะจำยอม ข้ากลัวลูกจะทำเรื่องโง่ ๆ อีก” คราวที่แล้วกว่าจะเกลี้ยกล่อมหวังเหล่ยให้ใจเย็นลงได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ดีที่บุตรเขยเชื่อฟังไม่ตามไปเอาเรื่องกับโจวเชิน ไม่เช่นนั้นได้เกิดเรื่องราวฉาวโฉ่ไปทั่วเมือง

“ดี พรุ่งนี้เราไปหาลูกกัน ช่างลูกเขยปะไรถ้าอันหนิงอยากกลับมาอยู่บ้านอย่างไรก็ต้องได้กลับ” บุตรสาวเคยร่ำร่ำว่าจะกลับมาอยู่บ้านถาวรอยู่หลายครั้ง พวกเขาไม่เห็นด้วยจึงให้ทนอยู่กันไปก่อน ทั้งหวังเหล่ยยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะจะไม่ทอดทิ้งจะดีและรักใคร่อย่างดี แต่ถ้าหากอันหนิงไปจนกู่ไม่กลับก็คงต้องให้หย่า จะได้ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย บุตรเขยก็จะได้มีคนใหม่ไม่ต้องทนกับความเจ้าอารมณ์ของอันหนิง

อันหนิงที่ได้ยินถ้อยคำห่วงใยจากปากผู้ให้กำเนิด ทำเอาน้ำตาเอ่อคลอด้วยความรู้สึกผิด หากเมื่อก่อนนางยอมฟังคนอื่นสักนิด หยุดคิดหาเหตุผลสักหน่อย ก็จะรู้ว่าพ่อกับแม่รักตนมากแค่ไหน เอาแต่อยากจะชนะน้องสาวโดยที่ไม่ลืมหูลืมตา กระทำแต่เรื่องผิด ๆ

นางรีบปาดน้ำตาทิ้งไป ก่อนจะเข้าไปหาบุพการีทั้งสอง พลางเรียกพวกเขาด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น ทำเอานายท่านหลี่และฮูหยินตกใจรีบอ้าแขนรับ กังวลใจไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปเจออะไรมา ถึงได้ร้องไห้วิ่งเข้าหาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ท่านพ่อ ท่านแม่”

“อันหนิงเจ้ามาได้อย่างไร แล้วนั่นร้องไห้ทำไม” ฮูหยินหลี่รีบซับน้ำตาให้บุตรสาว สีหน้าของนางไม่สู้ดีนักเจ็บปวดใจทุกครั้งที่เห็นลูกทุกข์ใจ

“ลูกไม่ได้เป็นอะไรเจ้าค่ะ แค่คิดถึงไม่ได้เจอนานก็เลยตื่นเต้นมากไปหน่อยเจ้าค่ะ” หญิงสาวปาดน้ำตาบนใบหน้า ดีเหลือเกินที่ได้กลับมาอีกครั้ง เสียใจที่ชาติก่อนทำให้พ่อแม่ต้องตรอมใจตายเพราะลูกไม่ได้เรื่องคนนี้

“เจ้าคงไม่ได้ก่อเรื่องแล้วทะเลาะกับลูกเขยมาใช่หรือไม่ ทนสักหน่อยประเดี๋ยวพ่อคุยกับหวังเหล่ยให้เอง” นายท่านหลี่ถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกภรรยาใช้ศอกกระทุ้ง เผลอพูดเรื่องอ่อนไหวสำหรับบุตรสาวไปเสียได้

“ไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้าสบายดี”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel