ฉันกลับมาแล้ว 2
ต้วนหยางเฟยมีแววประหลาดใจไม่น้อยกับคำตอบ แต่ถ้าหยวนอันอันคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาจริงก็ไม่เป็นอะไร ขอแค่เธอปรับตัวใหม่ก็พอ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้มีคนรักหรือว่าชอบหญิงสาวคนไหน เลยไม่มีปัญหาหากต้องใช้ชีวิตกับเธอ
และหวังว่าสักวันเขาคงรักภรรยาคนนี้
“อืม ตอนนี้พิธีทุกอย่างเสร็จแล้วรีบเปลี่ยนชุดเถอะ จะได้รีบเข้านอนพรุ่งนี้ผมมีงานต้องทำอีก”
ชายหนุ่มพูดจบก็เดินมาล้มตัวนอน อย่างไรตอนนี้ต่อให้เขาอยากออกจากห้องไปอาบน้ำล้างตัวดูเหมือนด้านนอกจะไม่ยอมให้บ่าวสาวออกจากห้องหอ
“ค่ะ แต่ว่าเอ่อ...พี่อย่าเพิ่งลืมตานะฉันขอเปลี่ยนชุดก่อน” หญิงสาวมีความเขินอายหากต้องเปลี่ยนชุดต่อหน้าเขา
เพราะต่อให้แต่งงานกันมาแล้วสองชาติ แต่เธอและสามีไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางกายกันสักหน่อย
เมื่อได้ยินอย่างนั้นต้วนหยางเฟยจึงพลิกตัวหันหลังให้ทันที ใจคิดว่าหญิงสาวที่ยอมทำลายชื่อเสียงตัวเองเพื่อแต่งานกับเขาจะอายเป็นด้วย
หยวนอันอันรีบเปลี่ยนชุด ก่อนจะขึ้นเตียงไปนอนอีกฝั่ง ใจก็กลัวว่าสามีจะไล่เธอลงมา แต่ทว่าเขากลับไม่ทำเช่นนั้น
นี่คงเป็นบ่าวสาวคู่แรกที่ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ในคืนแต่งงานนอกจากล้มตัวนอนและหลับไปในที่สุด
เช้าวันต่อมา...
หยวนอันอันรีบตื่นแล้วมาช่วยทำงานในครัว เมื่อเห็นแม่สามีกำลังจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำอาหารเช้านี้ก็รีบเดินเข้ามาหา และถามอย่างเป็นกันเอง “แม่มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”
แม่สามีอย่างเหอซือเฉิงแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของสะใภ้สาม จึงหันมาสบตากับสะใภ้ใหญ่ แต่คนที่ตอบกลายเป็นสะใภ้รองของบ้านต้วน
“เหอะ ใครจะกล้าใช้เธอกันล่ะสะใภ้สาม ตอนสู่ขอเธอพูดเองนี่ว่าทำงานบ้านไม่เป็น”
สะใภ้รองหางอี๋หรู่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร เพราะรู้ว่าเดี๋ยวน้องชายของสามีก็จะได้แยกบ้านออกไปอยู่ด้วยตัวเอง
ความจริงแล้ว หากแยกบ้านก็ต้องแยกทั้งหมดสิ ไม่ใช่ให้บ้านสามแยกบ้านเดียว ส่วนบ้านรองของเธอยังอยู่รับใช้แม่และพ่อสามีแบบนี้
หยวนอันอันหันมามองพี่สะใภ้รอง ประกายตาเธอฉายแววโกรธแค้นเล็กน้อย สาเหตุที่แค้นก็เพราะเธอจำได้ว่า ตอนที่เธอยังไม่หย่ากับสามี พี่สะใภ้รองนี่แหละที่หาข้ออ้างพาหลานสาวจากบ้านเดิมมาอาศัยอยู่ด้วย อ้างว่าหลานต้องการมาหางานทำในเมืองและที่นี่เดินทางสะดวกกว่า อีกทั้งคอยชักจูงให้หลานตัวเองเข้าหาเข้าหาสามีของเธอ แม้จะอยู่คนละบ้านกันก็ตาม
‘ชาตินี้ก็อย่าคิดว่าฉันจะยอมปล่อยพี่หยางเฟยไป’
“พี่สะใภ้รองลืมไปหรือเปล่าคะว่าฉันคือสะใภ้ที่แต่งเข้าบ้านต้วนเหมือนกัน การที่ช่วยแม่สามีทำงานบ้านหรือทำอาหารมันก็คือเรื่องสมควรที่สะใภ้อย่างฉันจะเข้ามาช่วย และแม้ว่าเวลานี้
พี่หยางเฟยจะทำเรื่องแยกบ้านแล้วก็ตาม แต่อย่างไรเขาและพ่อกับแม่ก็ไม่ได้มีการตัดขาดกันสักหน่อย
ซึ่งฉันเองก็ยังเป็นลูกสะใภ้เหมือนเดิม และการที่ฉันเคยบอกว่าจะไม่ทำงานบ้านใด ๆ รวมถึงจะไม่ทำงานที่กองพลน้อย แต่ก็ไม่ได้บอกว่าฉันทำงานบ้านหรือทำอาหารไม่เป็นนี่คะพี่สะใภ้ ที่สำคัญฉันเข้ามาช่วยแม่กับพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้มาช่วยพี่สะใภ้รอง!”
“นี่เธอ...” พอถูกน้องสะใภ้ตอบกลับแบบนี้ก็ไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นสายตาตำหนิของแม่สามีส่งมาให้ เธอก็ได้แต่กระทืบเท้าอย่างเดียวและไม่โต้เถียงกับน้องสะใภ้สามที่เพิ่งแต่งเข้ามา
“เธอก็เหมือนกันสะใภ้สามถ้าจะมาช่วยก็มา อย่ามัวไปเถียงกับสะใภ้รองเลย เถียงกันอย่างนั้นอาหารเช้านี้จะได้เสร็จเร็วขึ้นหรือไง” คนเป็นแม่สามีได้แต่ห้ามสะใภ้ของตัวเองทั้งสองคน ก่อนจะแบ่งหน้าที่ให้ไปทำ
จากนั้นแม่สามีกับลูกสะใภ้ต่างก็เร่งมือทำอาหารเช้า เพราะบรรดาผู้ชายในบ้านจะได้รีบกินและไปทำงานในทุ่งต่อ
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จแล้ว ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำงาน จะมีเพียงแม่สามีเท่านั้นที่เลี้ยงหลานอยู่บ้าน
“แม่คะ ฉันขอกลับไปดูย่าสักหน่อยนะ ท่านแก่แล้วอยู่คนเดียวฉันกลัวย่าจะล้มน่ะค่ะ”
“อืม” เหอซือเฉิงพยักหน้ารับ และรู้สึกดีที่ลูกสะใภ้ยังห่วงย่าตัวเอง แต่ก็เลือกที่จะนิ่งเฉยไม่แสดงอะไรออกมา
“ขอบคุณค่ะแม่”
