หนีเอาตัวรอด

ลงมาถึงด้านล่างเคลซีย์วิ่งไปที่หน้าอพาร์เมนท์ จะปลอดภัยก็ต่อเมื่อเธอไปจากที่นี่ แต่ยังไม่ทันได้เรียกรถ มือของใครบางคนก็คว้าข้อแขนเธอเอาไว้ก่อน

“ว้าย อย่านะ!” แคลร์ตกใจไม่ทันดูว่าเป็นใครก็ร้องเอาไว้ก่อน

“ใจเย็น”

“แอล...”

เคลซีย์ขมวดคิ้วสงสัยว่าเหตุใดเอเลนาถึงมาอยู่ที่นี่ แต่ไม่มีเวลาให้คิดนานเพราะเธอต้องรีบไป ก่อนที่ชายชุดดำจะตามลงมา เธอไม่รู้จุดประสงค์ของมัน

รู้เพียงว่าไม่ปลอดภัย

“ไปเถอะ เดี๋ยวมันจะตามทัน”

“เธอรู้?”

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน รีบไปดีกว่ารถมารอแล้ว”

เอเลนาดันร่างแคลร์ไปตามทางเดิน ในขณะที่มองหน้ามองหลังไปด้วย จนกระทั่งถึงรถที่เตรียมไว้ รีบพาหญิงสาวคนสำคัญขึ้นไปนั่งแล้วตามขึ้นไปติดๆ สั่งการให้คนขับรถรีบออกเดินทางอย่างรวดเร็ว

“แอล เธอเป็นใครน่ะ?” เมื่อรู้สึกว่าปลอดภัยแล้ว แคลร์จึงถามสิ่งที่สงสัย อยู่ๆ หล่อนก็มาปรากฏตัวที่อพาร์ทเมนท์ แล้วก็พาขึ้นรถที่เหมือนกับเตรียมการเอาไว้แล้ว เอเนลาไม่ใช่แค่พนักงานทั่วไปหรอกเหรอ?

“เรียบร้อยค่ะนาย ปลอดภัยดีค่ะ” เอเลนาไม่ได้ตอบแคลร์ แต่หล่อนคุยสายกับใครบางคนอยู่ ‘นาย’ ที่ว่าเป็นใครกัน แอลเป็นคนของครบครัวเธอหรือเปล่านะ หรือว่าเป็นคนของ....แดน

“นี่ เธอทำงานให้ใคร บอกให้ฉันอุ่นใจหน่อยสิ”

“ต้องขอโทษคุณแคลร์ค่ะ คุณแดร์เรนส่งฉันมาคุ้มกันคุณ”

“เธอไม่ใช่พนักงานเหรอแอล?”

“ฉันเป็นบอดี้การ์ดสังกัดคุณลูวิสค่ะ เจ้านายส่งฉันมาตามที่คุณแดร์เรนขอ” เอเลนาบอกความจริง เพราะสถานการณ์แบบนี้คงปิดบังไม่ได้แล้ว

เธอได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยของเคลซีย์ แดนไม่อยากให้ดูโจ่งแจ้งจนเกินไป เลยสมมติให้เอเลนาเป็นพนักงานในบริษัท คอยติดตามแคลร์ในช่วงเวลาทำงาน แดร์เรนมีศัตรูในที่มืดเยอะ และเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเคลซีย์ เธออยู่ใกล้ตัวเขามากจึงต้องมีการคุ้มกันแบบลับๆ

“แดนต้องการให้เธอมาคุ้มครองฉันเหรอ ทำไมล่ะ?” เคลซีย์ก็ยัง

ไม่เข้าใจอยู่ดี เธอไม่ได้สำคัญขนาดนั้น และเธอก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหนสักหน่อย....

คิดไปคิดมาก็มีแล้วล่ะหนึ่งคน

เมื่อลองย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ลองพิจารณาดูตั้งแต่ต้น เธอตื่นมาเห็นเงาชุดดำกำลังเดินออกไปจากห้อง เป้าหมายของมันไม่ใช่เธอ

แต่เป็นอย่างอื่น...หรือว่าเป้าหมายของมันจะเป็นแดน เพราะอพาร์ทเม้นท์นั้นเป็นของเขา แต่มันบีบคอเธอด้วยนะ....ตกลงยังไงกันแน่

“คุณแดร์เรนกลัวว่าคุณจะเป็นอันตราย”

“ฉันอยู่มาเป็นเดือน เพิ่งจะมีเรื่องก็ตอน....” หรือว่ามันมาเพราะเธอ!

แคลร์พยายามหาจุดบอดของตัวเอง ว่าทำอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือไม่ บางทีมันอาจเป็นคนของราลีโอนก็ได้ ถ้าฝ่ายนั้นรู้ตัวว่าถูกแฮก และตามไอพีมา...แต่หญิงสาวมั่นใจว่ารอบคอบมากแล้วไม่มีทางสืบเจอที่อยู่ไอพีแน่นอน

“ตอนอะไรคะ?” เอเลนาจับพิรุธทุกคำพูดของเคลซีย์

“ตอนนี้ไง”

แคลร์ตอบเรียบๆ แล้วนั่งสงบปากสงบคำ เพราะกลัวจะเป็นฝ่ายถูกซักบ้าง เธอขยับกระเป๋าสะพายมาไว้อีกฝั่ง เพื่อไม่ให้แอลจับสังเกตได้ สิ่งเดียวที่คว้ามาได้คือกระเป๋าเก็บฮาร์ดดิสและไดร์ฟสำรอง ตัวรถเคลื่อนที่ไปตามถนนที่โล่งว่าง ไม่นานก็ถึงเพนท์เฮ้าส์ซึ่งมันเป็นของแดน

เอเลนามาส่งที่ด้านล่าง โดยมีแดร์เรนและคนของเขายืนรออยู่ก่อนแล้ว เขาคว้าตัวแคลร์ไปสำรวจอย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นรอยเลือดแห้งกรังที่มือเธอ

“ฉันฟาดหัวมันค่ะ เลือดเลยติดมา”

“บาดเจ็บไหม?” ขณะถามก็มองสำรวจไปทั่วร่างกายหญิงสาว

“ไม่ค่ะ”

แดร์เรนพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะพาเธอขึ้นไปยังที่พัก มีหลายเรื่องที่เขาต้องการซักถาม เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแววตาที่ตื่นตระหนก แต่มันก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น เมื่อเธอมองตาเขาสักพัก ความตื่นกลัวนั้นก็จางหายไป

บนเพนท์เฮ้าส์ของเขากว้างขวาง และมีบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ คนของเขาที่อยู่ด้านล่างเมื่อสักครู่ไม่ได้ตามขึ้นมาด้วย มีเพียงเลขาคนสนิทของเขาเท่านั้น ที่ยืนรอต้อนรับอยู่ที่โถงรับแขก แดนพาเธอมานั่งที่โซฟา ก่อนจะเริ่มต้นซักถาม

“เกิดอะไรขึ้น?” น้ำเสียงราบเรียบแต่เปี่ยมไปด้วยอำนาจ

คนฟังเสียวสันหลังวาป รีบหลุบตาลงต่ำ ไล่เรียงลำดับในสมองอย่างรวดเร็ว ว่าอะไรที่ควรเล่าอะไรที่ไม่ควรเล่า เธอตัดสินใจว่าจะเริ่มเล่าแค่ตอนหลังจากนอนแล้วเท่านั้น

“ฉันนอนอยู่ แล้วรู้สึกเหมือนมีใครอยู่ในห้องเลยลุกมาดู เห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ที่ประตู จากนั้นมันก็เข้ามาใกล้ ฉันเลยรีบวิ่งออกมา” เธอเล่าแบบย่อๆ รวบรัดตัดตอน

“รอยอะไร?” แดร์เรนสำรวจร่างกายคนตัวเล็กไปด้วยระหว่างฟังความ เห็นที่คอมีรอยแดงคล้ายกับรอยนิ้วมือ เขาปัดเส้นผมนุ่มสลวยไปทางด้านหลัง แล้วก้มลงมองใกล้ๆ อีกครั้ง

“มันบีบคอฉันค่ะ ฉันเลยเอาโคมไฟฟาดหัวมัน”

“อืม”

เขาถามเพื่ออยากฟังความจริงจากปาก อยากรู้ว่าเธอมีอะไรปิดบังเขาหรือไม่ แดนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ที่ไอ้โม่งดำเข้ามาในห้องนอน เพราะตอนนั้นเขากำลังดูเธอผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บนแชนเดอเรีย แดร์เรนเพิ่งเสร็จจากงานและอยากเช็คดูว่าเธอนอนหรือยัง

แต่ไอ้ชายชุดดำดันเข้ามาในจังหวะนั้นพอดี เขาเลยรีบโทรสั่งให้เอเลนาไปที่อพาร์ทเมนท์โดยด่วน ใจเขาเต้นตุบไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นแคลร์วิ่งหนีลนลานออกมาที่ประตู ตรงนั้นมีกล้องอีกตัวที่ซ่อนไว้เหนือประตูบานใหญ่ จึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แดนร้อนใจมากสั่งการให้คนของเขาเข้าไปเคลียร์พื้นที่ด่วน และเมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยเขาจึงรีบลงมารอรับ

“ในนั้นมีอะไร?” แดร์เรนสังเกตเห็นตั้งแต่ข้างล่างแล้ว เคลซีย์จับกระเป๋าไว้แน่นเหมือนกับว่ามันจะหายไป เขาคิดว่าในนั้นคงมีของสำคัญมาก

“เอ่อ มีฮาร์ดดิสกับไดร์ฟสำรองค่ะ” แคลร์ตอบไปตามตรงและกำมันไว้แน่นกว่าเดิม

“สำคัญ?”

“ค่ะ งานฉันทั้งนั้นนะคะ”

“มีเวลามาก?” สิ่งที่เขาเห็นในกล้องวงจรปิด ก็คือแคลร์วิ่งหนีออกมาพร้อมกระเป๋าสะพายใบนี้ มันไม่กี่วินาทีเท่านั้น จากห้องนอนที่เธอวิ่งออกมา แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปถอดอุปกรณ์?

“เอ่อ คือ....คือฉัน ถอนมันออกตั้งแต่ก่อนนอนแล้วค่ะ” พูดไปก็ลนลานกลัวจะถูกจับได้ คนอย่างแดนฉลาดเป็นกรด ถ้าเขารู้ความเคลื่อนไหว ในห้องนอน เขาก็ต้องรู้ความเคลื่อนไหวในจุดอื่นด้วย และวันนี้เธอเพิ่งแฮกกล้องตรงส่วนที่ทำงาน เขาเลยไม่เห็นว่าเธอถอดมันออกมา