บท
ตั้งค่า

เกาเทียนเฉิน

ผ่านไป 3 เดือน

หลังจากที่ข้าได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้เเละขอให้ท่านสงรับสั่งให้ข้าเป็นคนฝึกวิชากระบี่ให้กับรัชทายาทหลินเฟยด้วยตัวเอง ข้าก็ได้ตั้งใจฝึกเขารวมถึงฝึกควบคุมปราณตนเองไปด้วย ซึ่งเเน่นอนว่าที่นี่มีทรัพยากรณ์ดีกว่าโลกเเห่งเซียนมาก ข้าขออะไรหลินเฟยเขาก็ให้คนจัดหาให้ข้าหมดทุกอย่าง รวมถึงฮ่องเต้เองก็เช่นกัน ราวกับในตอนนี้ข้าเป็นคนที่ถูกทุกคนช่วยกันเลี้ยงดูให้เติบโต ในสามเดือน เพียงเเค่สามเดือนเท่านั้นข้าสามารถเลื่อนระดับบ่มเพาะไปถึงระดับเทพสงครามได้สำเร็จ เเต่ก็ไปได้เพียงเทพสงครามขั้นที่ 5 ส่วนจิตของข้า ข้าได้ปล่อยเจ้าลูกเเก้วบำเพ็ญในส่วนนั้นไปนิดหน่อย ทำให้จิตของข้าอยู่ในระดับเเยกจิตขั้นที่ 7 ส่วนกายของข้ายังคงเป็นร่างศักดิ์สัทธิ์ขั้น 1 เช่นเดิม

"อัจฉริยะ…'' ราชครูกล่าว ที่ผ่านมาสามเดือนข้าก็ได้ไปพูดคุยกับเขาบ่อยพอสมควร เพราะอยากรู้หลายๆเรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ เนื่องจากในเกมส่วนมากข้าสนใจเเต่เพียงทำเช่นไรให้ตนเเข็งเเกร่ง ไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง เเต่ในตอนนี้ข้ามีศิษย์น้องที่ต้องช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นเเล้วข้าก็ไม่ลังเลที่จะยื่นมือเข้ามายุ่งในการเเก่งเเย่งชิงดีชิงเด่นกันในราชวงศ์ ซึ่งถึงข้าจะไม่ได้ประกาศตัวไปว่าข้าอยู่ฝ่ายเดียวกับองค์หญิงหลินเฟยเฟิ่ง เเต่ข้าก็เเสดงจุดยืนให้พวกเขาเห็นก็เพียงพอ หลังจากนั้นพวกองค์ชายก็ไม่ได้มายุ่งกับข้าอีก พวกเเม่ทัพเเละขุนนางก็มองข้าแปลกๆไปด้วย

"ในตอนนี้ข้าคิดว่าเจ้าพอจะสู้กับองค์ชายลำดับที่หนึ่งได้เเล้ว'' ข้ากล่าวกับหลินเฟย เพราะข้าได้ไปเห็นกระบวนท่าขององค์ชายลำดับที่หนึ่ง เขาต้องไปโชว์ความสามารถให้กับเหล่าขุนนางมากมายดู ข้าที่นั่งมองอยู่ไม่ไกลได้เห็นข้อบกพร่องหลายอย่างของเขา เเละข้าก็ได้มาสอนเคล็ดการเอาชนะวิชาดาบของเขาให้กับหลินเฟย ส่วนองค์ชายลำดับที่หนึ่งเมื่อทราบว่ารัชทายาทมีข้าเป็นคนฝึกกระบี่ให้ เขาก็ต้องให้แม่ทัพหลิ่งกวางสอนเข้มกว่าเดิม

โดยที่หลิ่งกวางมีความคิดว่าจะให้ลูกสาวของเขาเเต่งงานกับองค์ชายลำดับที่หนึ่งอย่างหลินหานเจ๋อ เเละหลินหานเจ๋อจะให้หลิ่งจีเป็นพระมเหสี ทำให้หลิ่งกวางสนับสนุนองค์ชายลำดับที่หนึ่งอย่างเต็มที่ เขาทำเพราะคิดว่าจะทำให้ลูกสาวของเขาสบายไปตลอดชีวิต แต่เขากลับไม่ถามลูกสาวของเขาสักคำ

"วันพรุ่งนี้จะมีการประลองราชวงศ์''

"ท่านศิษย์เซียนสวรรค์คิดว่ารัชทายาทจะชนะหรือไม่?'' ราชครูกล่าว ซึ่งราชครูนั้นรู้ว่าข้าเป็นศิษย์เซียนสวรรค์ลำดับที่หนึ่ง เขารู้มาจากน้องชายของเขาที่ติดตามรัชทายาทอยู่ตลอดเวลา

"ถ้าหากเป็นวิชากระบี่เเล้ว…ข้าคิดว่าอย่างมากเขาอยู่ในระดับเดียวกับศิษย์ภายในของนิกายกระบี่เทพ'' ข้ากล่าวออกไป ซึ่งข้าก็ไม่เเน่ใจหรอกว่าศิษย์ภายในของนิกายกระบี่เทพมีความสามารถถึงเพียงไหน เเต่ข้าลองเอาไปเทียบกับเกาหลิ่งเหวินที่เป็นผู้สืบทอดนิกายกระบี่เทพ ถึงเเม้หลินเฟยจะไม่สามารถเอาชนะเกาหลิ่งเหวินได้ เเต่ก็ใช่ว่าเกาหลิ่งเกวินจะสามารถเอาชนะหลินเฟยได้อย่างง่ายดายเช่นกัน อย่างน้อยเเล้วก็พอจะกดดันเกาหลิ่งเหวินได้บ้าง เพราะข้าสอนเคล็ดวิชาที่เอาไว้ทำลายวิชาจากนิกายกระบี่เทพโดยตรง

“เช่นนั้นเเล้วท่านก็ต้องเตรียมตัว”

“เพราะเจ้านิกายกระบี่เทพ…เกาเทียนเฉินก็มางานประลองในครั้งนี้ด้วย” ราชครูกล่าวเตือนข้า เพราะที่ผ่านมาเกาเทียนเฉินเขาไม่ค่อยเข้าสังคมสักเท่าไหร่ มีงานอะไรแบบนี้ก็จะส่งเพียงรองเจ้านิกายมาเเทน เเต่ในครั้งนี้เขามาด้วยตัวเอง น่าจะเป็นข้าที่เป็นต้นเหตุ เขาน่าจะต้องการมาพบเจอข้าที่สามารถเอาชนะศิษย์หลักของนิกายกระที่เทพอย่างหลิ่งกวางได้ เเละยังมีข่าวลือว่าข้ามีวิชากระบี่เเข็งเเกร่งกว่าหลิ่งกวางอยู่หลายขุม เเต่ที่จริงเเล้วเขาเพียงเเค่อ่อนเเอเเละสู้กำลังข้าไม่ไหวเท่านั้นกระมั้ง? หรือในตอนนั้นข้าไม่ได้เอาจริงด้วย?

"ขอบคุณที่กล่าวเตือน…ข้ายินดีมาก'' ข้ากล่าวออกไป เพราะข้าเองก็มันส์มือสุดๆอย่างจะสู้กับใครที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับข้าอย่างเฮียบัญชาเทพ หรือพี่อาร์เธอ เเต่ในโลกนี้ยังไม่มีสักคนที่ข้าพบเจอ

"ตั้งเเต่ท่านมา…เจ้าพวกนักฆ่าก็ไม่ค่อยปรากฏ''

"มันเป็นเรื่องดีมาก'' ราชครูกล่าว เพราะการปรากฏตัวของข้า เเละความเเข็งเเกร่งของข้ารวมถึงข้าที่ตัวติดกับรัชทายาทหลินเฟยเเทบจะตลอดเวลาทำให้พวกนักฆ่าไม่กล้าลงมือ มีบางครั้งที่พวกมันจะเล่นงานข้าเเละหลินเฟยด้วยพิษ เเต่ข้าเองก็มีสิ่งที่หนิงเอ๋อมอบให้มา นั่นก็คือกระดาษตรวจสอบพิษ นางเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง ซึ่งนางตั้งใจจะมอบให้กับศิษย์พี่ทุกคน

"ท่านเเม่ทัพเล่อปิง!'' เสียงทหารนายนึงเรียกข้าอยู่หน้าห้องสอนหนังสือของหลินเฟย

"เข้ามา'' ข้ากล่าวตามด้วยทหารนายนั้นที่ข้ามาพร้อมกันถึงสองคน พวกเขาทั้งคู่ช่วยกันแบกกระบี่มาให้ข้า

"หืม…'' ข้าเองก็ได้รับสั่งจากฝ่าบาทเเล้วว่าจะมีกระบี่ให้ประจำตัวข้า เป็นกระบี่ที่เขาเริ่มสร้างตั้งเเต่ข้าได้เป็นเเม่ทัพ จนถึงตอนนี้เพิ่งจะเสร็จเเละนำมาส่งให้กับข้า? พรุ่งนี้ก็วันประลองเเล้วฮ่องเต้คงจะอยากให้ข้าสู้กับเกาเทียนเฉินจริงๆสินะ เพราะข้าได้ยินมาว่าฮ่องเต้ทรงรับสั่งให้ช่างตีเหล็กช่วยกันเพิ่มขึ้นจากสามคนเป็นห้าคนในการหลอมอัญมณีสีดำอันลึกลับ

"ท่านเเม่ทัพโปรดระวัง!'' ทหารกล่าวเตือนข้าก่อนที่จะข้าจะยกกระบี่ขึ้น

ฟึบๆ

ข้ายกกระบี่สีดำทมิฬขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้นราชครูเคยบอกกับข้าว่าอัญมณีสีดำนี้มันทำให้คนที่สัมผัสจะมีนิสัยดุร้ายขึ้นมาในทันที เขาเองก็กลัวว่าข้าจะต้องตกอยู่ใต้อำนาจมัน ซึ่งอัญมณีสีดำนี้ไม่เคยมีเเม่ทัพคนไหน หรือจอมยุทธคนไหนควบคุมมันได้ มีเพียงข้าที่เมื่อลองสัมผัสมันดูเเล้วปรากฏว่ามันไม่ได้ทำอะไรกับข้า ไม่เพียงเเค่นั้นมันกลับเสริมพลังให้ข้าอีกด้วย

"ดี…ดีมาก!'' ข้ากล่าวออกมา ความคงทนของมันถึงขนาดที่ข้าออกเเรงไปพอสมควรเพื่อลองทุบมันดู ปรากฏมันเเข็งเเรงเเละทนทานถึงขนาดที่ไม่มีรอยเเม้เเต่นิดเดียว นี่เเหละคือความต้องการของข้า เเต่ติดเพียงเเค่อย่างเดียวคือมันไร้คม มันไม่สามารถลับให้คมได้ ทำให้มันเป็นทรงกระบี่ได้ก็ยากมาพอเเล้ว ที่จริงตอนเเรกมันมาเป็นเเท่งเสียด้วยซ้ำ เเต่ข้ามิชอบ

"ขอบใจมาก'' ข้ากล่าวออกไป ซึ่งเเท้จริงเเล้วพวกเขาไม่ได้แบกกันมาเพียงสองคน เเต่มากันถึงสี่คน น่าจะผลัดกันหลายยกอยู่จนมาถึงที่นี่ ข้าจึงให้เงินพวกเขาไปเล็กน้อย

"จะว่าไปเจ้ามิต้องการเงินหรือบ้านงั้นรึ?'' ราชครูกล่าวถามข้าเป็นครั้งที่ห้า ที่จริงเขากล่าวถามข้าหลายอย่าง ทั้งบ้าน ทั้งเงิน เเละเครื่องประดับ ซึ่งข้าก็ปฏิเสธไปทั้งหมด มันไม่จำเป็นสำหรับข้า ข้าขอเพียงมีที่พักสบายๆให้ข้าก็พอเเล้ว

"มันมิจำเป็นสำหรับข้า'' ข้ากล่าวออกไป เพราะบ้านของข้ามีเพียงบ้านตระกูลหลี่กับต้นไม้น้อยๆของเล่อปิงก็เพียงพอเเล้ว ส่วนเงินข้าค่อยไถรัชทายาทหรือศิษย์น้องข้าเอา ที่จริงเเล้วข้าก็พอมีอยู่บ้างในเเหวนมิติ เเต่ก็ไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้หลังจากได้รับตำเเหน่งเเม่ทัพ

"เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน'' ข้ากล่าวเมื่อข้าต้องการจะไปบำเพ็ญกายต่อ เมื่อข้าเบื่อบำเพ็ญจิต ข้าก็จะไปควบคุมปราณ เมื่อข้าเบื่อคุมปราณ ข้าก็จะไปบำเพ็ญกาย ส่วนวิชาดาบข้าเริ่มเบื่อมันเเล้วสิ เพราะข้าไม่เจอเป้าหมายที่จะให้ข้าผ่านอีกต่อไป…

วันถัดไป

ณ งานประลองราชวงศ์หลิน

"ฮ่องเต้เสด็จ!!'' เสียงประกาศดังลั่นพร้อมกับทุกคนที่คุกเข่าเเละก้มกราบลงบนพื้น ซึ่งฮ่องเต้นั้นมาพร้อมกับรัชทายาทหลินเฟย

“เเม่ทัพเล่อปิง”

"ท่านเเม่ทัพเล่อปิง…'' ฮ่องเต้เสด็จยังไม่เท่ากับข้าที่เดินตามหลังพวกเขามาอีกที เเละใช่ข้าได้ไปนั่งที่ของเหล่าเเม่ทัพด้วยกัน พวกเขาไม่ได้ทักข้า เเต่มีเพียงหลิ่งกวางที่เมื่อข้ามองเขาเขากลับหลบหน้าข้า?

ในตอนนี้ทั่วทั้งสนามประลอง ผู้คนมากมายต่างจ้องมองข้า สตรีที่เเข็งเเกร่งจนได้ขึ้นไปรับตำเเหน่งเเม่ทัพ ทั้งยังสามารถเอาชนะเเม่ทัพหลิ่งกวางที่เป็นศิษย์หลักของนิกายกระบี่เทพได้ นิกายกระบี่เทพเองก็เสียชื่อไม่น้อยที่ข้าเป็นจอมยุทธที่มาจากไหนไม่รู้อยู่ดีๆก็มาเอาชนะเขาไปซะงั้น โดยที่พวกเขาได้เริ่มตัดข้อสงสัยที่ว่าข้าเป็นศิษย์เซียนสวรรค์ออกไปเพราะเรื่องที่เเม่ทัพเหวินเจี้ยนได้ปล่อยข่าวออกไปว่าข้าเคยปะทะกับเขามาก่อนที่เมืองเจียวลู่ ทั้งยังสามารถเอาชนะเขาด้วยจิตเเห่งดาบไปได้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นทำให้เกาเทียนเฉินอาจจะสนใจในจิตดาบของข้า

ซึ่งก็ใช่ มีลูกน้องเขามากมายมาเป็นพยาน ในตอนนั้นข้าใช้ร่างเล่อปิงไปจริงๆ เเละข้าก็ได้ทำให้พวกเขาต้องพ่ายเเพ้ด้วยจิตดาบของข้า ทั้งพละกำลังของข้ายังสามารถกดดันคนอย่างเเม่ทัพเหวิจเจี้ยนได้ด้วย เเละนี่ทำให้ตัวตนของข้าเริ่มมีชื่อเสียงขึ้น เเต่ชื่อเสียงของข้าก็ยังคงต้องขุดคุ้ยต่ออยู่ดีว่าข้าไปปะทะกับเหวินเจี้ยนเพราะเหตุใด ส่วนเรื่องของศิษย์น้องเล็กเพิ่งจะเกิดการปะทะครั้งยิ่งใหญ่กับอีกฝ่ายขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เเละก็เป็นศึกตัดสินสุดท้าย ซึ่งมันก็ทำให้นางได้กลายเป็นประมุขพรรคมารไปอย่างเต็มตัวเพราะนางสามารถเอาชนะอีกฝ่ายลงได้

‘เมื่อใดกันนะ…ที่มันจะถึงคิวของข้า’ ข้ามั่นใจขึ้นไปอีกว่าที่เกาเทียนเฉินมา เขาต้องการจะเเลกเปลี่ยนวิชากระบี่กับข้าอย่างเเน่นอน เพราะตั้งเเต่ข้ามานั่งที่เเม่ทัพ เขาก็จ้องมองข้าไม่หยุด ซึ่งเกาหลิ่งเหวินเองก็มาด้วย เกาหลิ่งเหวินก็มองข้าเเละยิ้มบางๆให้กับข้า เขารับรู้อย่างเเน่นอนว่าข้าคือใคร ในตอนนี้มีโพธิ์ดำรวมตัวอยู่ที่นี่ถึงห้าใบด้วยกัน

ผ่านไปสักพักใหญ่

“มะ…ไม่จริง!'' หลินหานเจ๋อ องค์ชายลำดับที่หนึ่งไม่สามารถทำอะไรรัชทายาทหลินเฟยได้ ซึ่งในงานประลองนี้ทุกคนไม่สามารถใช้กำลังภายในเข้าต่อสู้ มีเพียงวิชาเเละทักษะเฉพาะตัวเท่านั้น ในตอนเเรกเขามีสีหน้ามั่นใจเป็นอย่างมาก หลิ่งกวางเองก็ได้สอนทักษะลับให้กับเขาไปด้วย เพราะหลินหานเจ๋อจะไม่สามารถพ่ายเเพ้ให้กับรัชทายาทหลินเฟยได้ในงานประลองนี้ เพราะถ้าหากเขาพ่ายเเพ้ เจ้านิกาย เเละเจ้าสำนักต่างๆที่มารวมง่านคนไหนจะสนับสนุนเขากัน? ถ้าหากเขาเเพ้เด็กที่ห่างกันเกือบเจ็ดปี

‘หลินหานเจ๋อเเพ้งั้นหรือ!?’ มิใช่เพียงเเม่ทัพหลิ่งกวางเท่านั้นที่ตกใจ เเต่เป็นทั้งเหล่าขุนนางเเละเจ้าสำนักเจ้านิกายต่างๆด้วย เพราะได้ยินมาว่าหลินหานเจ๋อที่เป็นอัจฉริยะ ทั้งทะลวงขั้นบ่มเพาะได้ว่องไว เเละมีวิชาดาบที่มีศิษย์หลักของนิกายกระบี่เทพเป็นคนสอนด้วยตัวเอง พวกเขามั่นใจมากว่าจะสามารถเอาชนะรัชทายาทหลินเฟยที่มีเเม่ทัพคนใหม่สอนได้อย่างเเน่นอน

‘เป็นฝีมือของเเม่ทัพเล่อปิง’ เกาเทียนเฉินคิดในใจ ทักษะพวกนี้มันลึกลับเป็นอย่างมาก เเละจากที่เขาดู ทักษะพวกนี้เป็นทักษะที่เอาไว้เเก้ทางวิชาของนิกายกระบี่เทพโดยเฉพาะ ในยุทธภพด้วยกันยังไม่มีใครคิดค้นได้ในตอนนี้ เพราะฉะนั้นเเล้วบุคคลที่เคยเอาชนะหลิ่งกวางที่ใช้วิชาของนิกายกระบี่เทพมาได้อย่างง่ายดายมีเพียงคนเดียว นั่นก็คือเเม่ทัพคนใหม่ เเม่ทัพเล่อปิง

ในตอนนี้ทุกคนล้วนคิดสิ่งเดียวกันนั่นก็คือเเม่ทัพเล่อปิงเป็นผู้สั่งสอนวิชาดาบให้กับหลินเฟย เล่อปิงผู้นี้มีวิชาดาบที่เเข็งเเกร่งเเละลึกลับเป็นอย่างมาก รวมถึงวิชาที่เล่อปิงใช้บางวิชายังไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วย เจ้าสำนักเจ้านิกายมากมายพากันจ้องมองไปที่เกาเทียนเฉิน นอกจากข้าที่รู้เเล้วว่าเกาเทียนเฉินมาที่นี่เพราะอะไร ทุกคนเองก็รับรู้เช่นกัน

"ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสอนทักษะวิชากระบี่กับท่าน!'' เกาเทียนเฉินลุกขึ้นเเละกล่าวถามองค์รัชทายาทด้วยความนอบน้อม

"เป็นเเม่ทัพเล่อปิง'' หลินเฟยกล่าวออกมา หลายคนตื่นเต้นมาก ฮ่องเต้เองก็เช่นกัน เขายกยิ้มอยู่บนบัลลังก์

"ไม่ทราบว่าข้าขอเเลกเปลี่ยนวิชากับท่านเเม่ทัพได้หรือไม่!?'' เกาเทียนเฉินกล่าวถามข้าในทันที ทุกคนจึงหันมามองข้า เกาหลิ่งเหวินเองก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเขารู้ดีว่าทักษะกระบี่หรือดาบของข้าเเข็งเเกร่งถึงเพียงไหน เขาเองก็รอคอยที่จะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างข้ากับพ่อของเขามานาน

"เป็นเกียรติเเล้วที่ท่านเจ้าสำนักนิกายกระบี่เทพเกาเทียนเฉินจะสั่งสอน'' ข้าลุกขึ้นเเละคารวะให้เขา

"เช่นนั้นท่านต้องการเวลาเตรียม-''

ฟึบๆ

"มิต้อง…ข้าพร้อมเเล้ว'' ข้ากล่าวเเทรกเขาเมื่อข้าได้ถอดอาภรณ์เเละเสื้อที่รุงรังออกไป มันน่ารำคาญมาก จะว่ามันสวยก็สวยเเหละ ทำให้หลายคนตกใจมาก เพราะในตอนนี้ข้าสวมเพียงเสือธรรมดาที่เปิดเเขนอันขาวเนียนของข้าทั้งสองข้าง

"สมเเล้วที่ท่านเป็นเเม่ทัพ'' เขากล่าวเมื่อข้าไม่สนใจเรื่องความงามเเต่อย่างใด เเละสัมผัสได้ถึงความอยากสู้ของข้า การเเลกเปลี่ยนวิชาในครั้งนี้ผู้คนมากมายต่างอยากดู ว่าใครกันเเน่ที่มีทักษะที่เหนือกว่ากัน โดยที่แทบทุกคนจะลงไปที่เกาเทียนเฉิน เพราะเขาเป็นถึงเจ้านิกายกระบี่เทพ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel