ตอนที่ 10 คนที่ช่วยข้าไว้ชื่อคุ้นๆ
“แปลกใจหรือหลี่ซิ่วอิง~ เจ้ากล้านัก กล้าที่หนีข้าไปเป็นบ่าวรับใช้จวนอ๋องเว่ย มานี่…มา! ข้าจะพาเจ้าไปขอท่านอ๋องด้วยตัวข้าเอง”
“ทะ…ท่านคือคุณชายสกุลเฉินหรือ”
หลี่ซิ่วอิงเอ่ยด้วยท่าทีตกใจ จากนนั้นสะบัดออกจนหลุดจากการจับกุมของเขาได้ในที่สุด ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางเองก็ไม่ต้องรักษามารยาทมากหนัก เมื่อมองไปรอบๆ พบว่าไม่มีผู้ใดก็ใจชื่นขึ้นมากบ้าง หากมีคนมาคงคิดว่านางกับคุณขายเฉินผู้นี้ทำเรื่องไม่ดีกัน แต่ในเมื่อไม่มีผู้ใดเช่นนี้ขอเพียงนางหนีให้พ้นก็ไม่ปัญหาอันใดแล้ว
“รู้แล้วก็ไปได้แล้ว กลับบ้านไปเป็นอนุของข้าเสีย บ่าวเพียงคนเดียวท่านอ๋องมิเสียดายเจ้าหรอก”
“ไม่เจ้าค่ะ”
หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็งและถอยห่างเขาเรื่อยๆอย่างหาทางหนี ในขณะที่ชายหนุ่มก็ก้าวตามมาไม่ห่าง
“หญิงสาวธรรมดาเช่นเจ้า จะมีค่าอันใดสุดท้ายก็ต้องรองมือรองเท้าคุณชายเช่นข้าอยู่ดี อย่าเล่นตัวหน่อยเลยร่างกายที่ไร้ค่าได้คุณชายอย่างข้าเชยชมก็นับว่าชาตินี้เจ้ามีบุญเพียงใดแล้ว”
“……”
” กลิ่นตัวเจ้าหอมมิเบา อย่างนี้สิเหมาะสมที่จะมาสร้างทายาทให้ข้า”
ใบหน้าหื่นกามจ้องมองมาที่หน้าอกของนาง ชายหนุ่มไม่เอ่ยเปล่าแต่ยังตีเข้าที่ก้นหญิงสาวแต่ก็ทำได้เพียงเฉียดๆ เท่านั้น เพราะนางสามารถหลบได้ทันด้วยความว่องไวของนางและอาการเมามายของเฉินชินหยาง
” หยาบคาย”
หลี่ซิ่วอิงตะโกนด่าด้วยความตกใจ เหตุการณ์ของทั้งคู่ถึงตอนนี้จะไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วยก็จริง แต่นางกลับมิรู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาคมของคนผู้หนึ่งกำลังยืนดูเหตุการของทั้งคู่ด้วยความสนใจ เงาร่างใหญ่ที่คราแรกจะเข้าไปช่วยหญิงสาวและสิ่งที่นางตะโกนเมื่อสักครู่ทำให้เขาต้องชะงักฝีเท้าเอาไว้ ปากหนายกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจ เหมือนกับกำลังดูการแสดงงิ้วที่เขาชอบอยู่
” เจ้าว่าเช่นไรนะ”
ชายหนุ่มตะโกนเอ่ยถามด้วยความหงุดหงิดเมื่อได้ยินสิ่งที่นางเอ่ย
“เฉินชินหยางท่านมันคนหยาบคาย เป็นคุณชายแล้วอย่างไร เป็นคนสกุลเฉินแล้วอย่างไร ท่านเพียงโชคดีที่เกิดมาในจวนขุนนางเท่านั้น อำนาจ เงินทอง บารมี ล้วนเป็นครอบครัวท่านหามาได้ ท่านหรือสอบจอหงวนกี่ปีแล้วเหตุใดยังมิผ่าน วันๆกินเหล้าเมามาย มีสตรีนับสิบ แม้แต่การเอ่ยกับสตรีเพศเดียวกับมารดาท่านยังหยาบคายเช่นนี้ เกิดมาครั้งหนึ่งได้พบท่านล้วนโชคไม่ดีนัก”
หลี่ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห คร่าแรกว่าจะไว้หน้าจวนเว่ยอ๋อง แค่คำพูดของชายหนุ่มทำให้ร่างเล็กทนไม่ได้เสียแล้ว หน้าจวนเว่ยอ๋องไว้ครั้งหน้า ครานี้ต้องไว้หน้าตัวเองก่อนแล้วกัน
” เจ้า!!!”
เฉินชินหยางไม่เอ่ยเปล่าแต่ง้างมือเตรียมตัวฟาดมาที่หญิงสาวสุดแรง
ปั๊ก! ปั๊ก!
เสียงก้อนหินกระทบเข้ากับของแข็งสองครั้ง ครั้งแรกกระทบที่ฝามือใหญ่ที่ง้างจะตีหญิงสาว อีกก้อนกระทบที่ขาข้างหนึ่งของชายหนุ่ม ทำให้ชายร่างโตต้องก้มตัวลงไปที่พื้นด้วยความเจ็บ
“ผู้ใดว่ะ”
“ขออภัยคุณชายเฉิน ข้าเพียงจะดีดใส่กระต่ายตัวสีขาว มันวิ่งมาทางนี้พอดี ทำให้พลาดโดนท่านอย่างมิตั้งใจ”
เสียงนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจเย็นอย่างไม่มีท่าทีรู้สึกผิดแล้วแม้แต่น้อย ก่อนที่จะปรากฎร่างขึ้น ชายหนุ่มส่วมอาภรณ์สีฟ้าครามปักลายงดงาม ใบหน้าของเขาขมคายเกลี้ยงเตียนไร้ตอหนวดแต่กลับแฝงไปด้วยความนุ่มลึก กลิ่นอายที่แพร่ออกมาทำเอาคนที่ได้พบเจอแทบหยุดหายใจ รอยยิ้มจ่างๆ ที่ประดับอยู่บนใบหน้าทำให้เขาดูอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ชายผู้นี้นับว่าดูดีมิแพ้ตัวร้ายอย่างเว่ยตงหยางเลยแม้แต่น้อย
“โจ้วยู่ร์เฟิงเจ้า…”
“โจ้วยู่ร์เฟิง!!!”
หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจเสียดัง เมื่อรู้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร โจ้วยู่ร์เฟิงพระเอกในนิยายเช่นนั้นหรือ เสียงนางดังเสียจนชายหนุ่มหันมาทางหญิงสาวที่เรียกชื่อของเขาตรงๆอย่างที่ไม่เคยมีใครเรียกมาก่อน ตอนนี้ดวงตาของนางกลมโตปานไข่หาน ปากเล็กอ้าปากข้างขณะที่ยกมือเรียวสองข้างปิดไว้อย่างไม่นึกว่าเป็นเขา ท่าทางของนางทำเอาเขารู้สึกเอ็นดูนางมิน้อย
