ep3
บ้านไร่เรือนรักร้อย
ค่ำคืนที่มีแสงดาวพราวพร่างเต็มฟ้า กับสายลมโชยอ่อยเอื่อยเลื้อยเลาะเล็มอยู่กับทุ่งหญ้าที่เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ เหมือนใครโบกมือเรียกอยู่ในเงามืด โธมัสมองภาพนั้นอย่างชาชิน เพราะเห็นจนคุ้นตาและชินใจ จนไม่อยากมองด้วยซ้ำ ทว่าหญิงสาวคนหนึ่งกลับเฝ้ามองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเคลิ้มฝัน เธอนั่งห้อยขาที่ริมระเบียง มองไปยังท้องฟ้ากว้างที่มีแสงดาวระยิบระยับเกลื่อนฟ้า นานๆ ทีก็จะหันมายิ้มให้กับเขา
“คุณอา...ไม่ชอบหรือคะ?”
“ก็ชอบ”
“ชอบแล้วทำไม คุณอาทำหน้าเบื่อๆ”
“ก็อาเห็นทุกวัน ไม่ใช่นานๆ ถึงจะมานั่งดูดาวแบบนี้เหมือนเฟิร์นนี่ ที่กรุงเทพฯ ไม่มีให้ดูหรือไง”
“ดาวที่ไหนก็สู้ที่ไร่ของคุณอาไม่ได้หรอกค่ะ”
เฟิร์นหรือใบเฟิร์นหันมายิ้มให้ พร้อมโชว์ลักยิ้มที่มุมแก้มซ้ายที่เป็นรอยบุ๋ม อย่างที่ใครต่อใครก็มักจะมองว่า มันช่วยให้ใบหน้าหวานสวยของเธอดูเก๋ไก๋มากขึ้น
“คุณอาคิดอะไรอยู่เหรอคะ เงียบเชียว”
เสียงหวานใสปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ เขาหันมายิ้มให้อย่างเสียไม่ได้ นี่หรือคือภาระที่เขาจำต้องรับไว้
“อาถามหน่อยเถอะ ทำไมถึงอยากจะมาอยู่กับอานัก ทำไมไม่อยู่กับแม่ที่ต่างประเทศ โอกาสก้าวหน้าเยอะแยะ?”
หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเล่าสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ
“ไม่ใช่เฟิร์นไม่อยากอยู่ แต่ถ้าเฟิร์นไป คุณย่าจะอยู่กับใคร?”
โธมัสนิ่งอึ้ง....
“บางทีคุณย่าอาจจะอยากกลับไปเมืองนอก อย่าลืมซิ คุณย่าเป็นคนอเมริกันนะ”
“คุณย่าชอบเมืองไทยค่ะ คุณย่าบอกเฟิร์นว่า ไม่กลับไปที่นั่นหรอก คุณย่าอยู่เมืองไทย จนกลายเป็นคนไทยไปแล้ว”
โธมัสนิ่งอึ้งไป เขารู้มาคร่าวๆ เท่านั้นว่า แม่ของใบเฟิร์นเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส แต่ไม่คิดว่าจะปัญหาเรื่องครอบครับจนหย่าร้าง ทิ้งลูกให้แม่ของเขาเลี้ยง ทั้งที่....แม่ก็ไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของผู้ชายคนนั้น
“ถ้าปู่ยังอยู่....เฟิร์นก็คงไม่ได้มาที่นี่หรอกค่ะ”
หญิงสาวก้มหน้าลงมองพื้น ดาวบนฟ้าถึงจะสวย ก็สวยเพียงชั่วครู่ชั่วคราว เพราะในจิตใจของเธอนั้นบ่มเพาะไปด้วยความเศร้าสะเทือนใจมากมาย หากไม่ถูกกวนให้ขุ่น เธอก็คงจะกลบเกลื่อนมันไว้ได้บ้าง
โธมัสมองหญิงสาวที่นั่งหงอยๆ อยู่ตรงหน้าแล้วรู้สึกสงสาร เขาไม่ได้สนิทกับครอบครัวใหม่ของแม่ ก็แค่เคยเห็นหน้า เพราะดนัย พี่ชายต่างพ่อต่างแม่อายุห่างจากเขาหลายปี และเขาก็ชิงหนีไปเรียนต่างประเทศก่อนที่จะสนิทสนมกันเสียอีก
“อาโทร.คุยกับคุณย่าแล้ว เขาบอกว่าเราเพิ่งจบพาณิชย์”
“ค่ะ จบปุ๊บก็มาสมัครงานปั๊บ”
“ทำไมไม่เรียนต่อ”
“ไม่ล่ะค่ะ ไม่อยากผลาญเงินคุณย่าอีก”
ยิ่งถาม โธมัสก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาปวดใจมากขึ้น กับข้อมูลที่ได้รับรู้เกี่ยวกับแม่
“นี่ก็ดึกมากแล้ว เราขึ้นไปนอนเถอะ”
“แล้วคุณอาละคะ”
โธมัสมองหน้าหญิงสาวอย่างอึดอัด สายตาที่เธอมองเขามันสดใสบริสุทธิ์ แต่เขาซิ...มันหวั่นไหวประหลาด ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยๆ เขาเห็นมาเยอะ แต่เขาก็ไม่เคยให้พวกผู้หญิงเหล่านั้นเข้าใกล้เลยสักคน และใบเฟิร์น น่าจะเป็นคนแรกที่ใกล้ชิดเขามากกว่าคนอื่น ในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ๑๐ ปีที่เขาหันหลังให้กับผู้หญิงใจโลเล
“คุณอา...ท่าทางเครียดๆ นะคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก อาจะคิดเรื่องงานที่มันค้างๆ อยู่ เราไปนอนได้แล้ว”
“ได้ค่ะ เฟิร์นจะถือว่าอาสั่ง...เฟิร์นยินดีรับคำสั่งของคุณอาค่ะ งั้นกู๊ดไนท์ค่ะ”
หญิงสาวก้าวเข้ามาหาเขาแล้วเขย่งขึ้นจุ๊บแก้มเขาเบาๆ อย่างรวดเร็วอย่างที่เขาตั้งตัวไม่ติด
“เฟิร์น!”
สีหน้าเขาเครียดขึ้นทันที รีบผลักหญิงสาวออกไกลตัว
“ทำอะไรน่ะ”
หญิงสาวทำหน้าตาเหรอหรา ตาเบิกกว้าง มิหนำซ้ำยังแอบยิ้มนิดๆ ที่ทำให้โธมัสตกใจขนาดนั้นได้
“กู๊ดไนท์ไงคะคุณอา”
ใบเฟิร์นเอามือไขว้หลังแล้วโน้มตัวเข้ามาหาเขาอีกที ขณะที่ชายหนุ่มขยับออกห่าง
“วันหลัง แค่บอกก็พอ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเมินๆ
“คุณอา....ไม่ชอบหรือคะ?”
เธอยังเซ้าซี้ แล้วยิ้มทะเล้นอยู่กับเขา
“เป็นสาวเป็นนาง ทำตัวแบบนี้ไม่เหมาะ ไม่มีใครสอนเธอหรือไง?”
“ไม่เหมาะยังไงคะ? เวลาที่เฟิร์นกู๊ดไนท์แด๊ดกับมามี๊ ก็แบบนี้ทุกที” หญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“แต่อาไม่ใช่...”
