บท
ตั้งค่า

มาอยู่ข้างๆฉันสิ

“ไม่ค่ะ ไม่เห็น”

ใบหน้าไร้เครื่องสำอางที่ศิวะมองว่าจืดแล้ว ยิ่งจืดเจือนลงไปอีกเพราะคำพูดของเขา หนึ่งนภาใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม จำได้ดีว่าวันนั้นหยิบเสื้อตัวนั้นไป เพราะมันเป็นตัวเดียวที่เธอพอจะใส่ได้ เสื้อตัวอื่นมันใหญ่มาก เธอเลยเลือกหยิบตัวที่มันซ่อนอยู่ลึกที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตุ แล้วเขาจะหามันไปทำอะไรตอนนี้

“เห้อ สงสัยมีขโมยจริงๆ น่าเสียดาย นั่นเสื้อคนตายแล้วนะนั่น ออกไปก่อนแล้วกัน ฉันจะพาไปซื้อใหม่”

ศิวะมองใบหน้าซีดเผือดแล้วแอบขำในใจ ตอนตัวเองจะโดดลงน้ำฆ่าตัวตายไม่เห็นกลัว แล้วตอนนี้มากลัวอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว

“คะ? เสื้อคนตาย?”

หนึ่งนภารู้สึกว่าตัวเองตัวสั่นนิดๆ ทำไมถึงรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบกับคำพูดเขาแบบนี้ ขนาดตอนน้องสาวตายเธอยังไม่รู้สึกกลัวเลย แล้วทำไมตอนนี้เกิดกลัวขึ้นมาซะงั้น

“เสื้อแฟนฉันที่ตายไปน่ะ ตายโหงด้วยนะ โดดน้ำตายตรงที่ๆเธอจะโดดวันนั้นนั่นแหละ บางทีวิญญาญอาจจะยังวนเวียนอยู่ก็ได้ ยัยนั่นหวงเสื้อตัวนั่นมากเลยล่ะ”

เขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องผี แต่คนที่ยืนตัวสั่นตรงหน้าคงเชื่อพอสมควร ถึงได้ดูหวาดกลัวขนาดนี้ ตอนที่คิดจะตายไม่กลัวตัวเองเป็นผีเลยรึไง ตลกดีแฮะ กลัวผีคนอื่นแต่ไม่กลัวผีตัวเองงั้นเหรอ

“ฉัน ฉันจะเอามาคืนค่ะ ฉันหยิบไปเอง” หนึ่งนภาสารภาพด้วยความหวาดกลัว ดวงตาสวยรื้นน้ำตานิดๆ เมื่อคิดถึงละครที่เคยดูเกี่ยวกับวิญญาณอาฆาต เธอยังไม่อยากตายตอนนี้ อยากค้นหาความหมายของชีวิตที่เหลือต่ออีกสักนิด

“หึ!”

ศิวะเหยียดยิ้มให้หัวขโมยที่สารภาพบาปออกมา ดึงร่างสั่นเทานั่นมาใกล้นิดๆ ก่อนจะฝังริมฝีปากลงกับแก้มเธอเบาๆ

“อ๊ะ คุณ” หนึ่งนภายกมือกุมแก้มไว้เบาๆ ขยับหนีจากท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา แต่ขยับได้เพียงนิดเดียวก็ถูกดึงเข้าไปใกล้ทั้งตัว

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเหตุผลที่เธอมาเสนอตัวให้ฉันคืนนั้นคืออะไร แต่ฉันติดใจ และเธอยังคิดค้างฉันอยู่ มาอยู่ข้างๆฉันสิ แล้วฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ”

ศิวะพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าผู้หญิงในคืนนั้นคือเธอ พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้เธอเพื่อผูกมัดเธอไว้ข้างกาย

“นานแค่ไหนคะ” หนึ่งนภาถามเสียงเบา เธอต้องอยู่ข้างเขานานแค่ไหน เธออยากจะรู้เพียงแค่นั้น

“จนกว่าฉันจะเบื่อ หรือไม่ก็จนกว่าฉันจะแต่งงาน”

ใบหน้าหล่อเหลายิ้มอย่างถูกใจเมื่อคนตรงหน้า มีท่าทีโอนอ่อนกับข้อเสนอของเขา แต่คนที่ได้ฟังคำตอบเขากับนิ่งขึ้น หัวใจดวงน้อยชาวาบ ข้อเสนอที่เขาให้มา ไม่ต่างจากของเล่นแก้เบื่อเลย แล้วเธอจะปฎิเสธได้ยังไง ในเมื่อชีวิตที่เหลืออยู่นี่ คือชีวิตที่เขาช่วยไว้

“ฉันขอฟังเงื่อนไขอย่างละเอียด และสิ่งที่ฉันต้องทำได้ไหมคะ” ใบหน้าสวยเงยขึ้นถามคนที่ตัวสูงกว่า แววตาสวยคลอน้ำตานิดๆ เมื่อความคิดในหัวไม่มีเรื่องดีๆเลย เธอเป็นแค่ของเล่น เป็นแค่ผู้หญิงข้างกาย แต่ไม่มีวันได้เป็นผู้หญิงในหัวใจของเขา

“ก็ใช้ชีวิตปกติของเธอนั่นแหละ ถ้าอยากทำงานที่นั่นก็ทำ ทำเสร็จแล้วมาทำงานที่นี่ต่อ แต่ถ้าวันไหนฉันต้องการเธอก็แค่ทำเหมือนคืนนั้นก็พอ ห้ามมีคนอื่นด้วย เพราะฉันไม่ชอบ”

ศิวะก้มลงคลอเคลียแถวๆแก้มใส ใบหน้าที่แต่งแต้มวันนั้นดูสวยดี แต่แบบนี้ดีกว่า เวลาชิมจะได้ไม่ต้องมีเครื่องสำอางค์ติดลิ้นเข้าไป

“แล้วอย่างอื่นละคะ” หนึ่งนภาย่นคอหนี เขาไม่มีเงื่อนไขอย่างอื่นเหรอ แล้วทำไมต้องเลียเธอด้วย เป็นหมาไปแล้วรึไง มันจักจี้ไม่รู้เหรอ

“ไม่มี” ไม่มีจริงๆ เพราะไม่เคยทำแบบนี้ ไม่เคยเสนอให้ใครมาเป็นอะไรแบบนี้ ทุกทีมีแต่พวกเธอเสนอมาเอง เขาแค่คิดและตอบตกลง แต่ครั้งนี้เขาเป็นคนเสนอตัวเอง และสิ่งที่คิดได้มีเพียงแค่นั้น

“ฉันวางตัวไม่ถูกเลยค่ะ” เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องวางตัวยังไง เป็นลูกน้อง หรือเป็นเพียงผู้หญิงที่ต้องนอนกับเขา

“แค่มาอยู่ข้างๆฉันและทำตามใจฉันก็พอน่า จะคิดอะไรมากมาย”

ขนาดเขายังไม่ต้องคิดอะไรเลย เธอจะคิดอะไรนักหนา บอกให้มาอยู่ข้างๆ ไม่ได้บอกว่ามาให้เอาสักหน่อย ทำไมต้องทำหน้ายุ่งยากด้วย แค่อยากให้มาอยู่ใกล้ๆ เวลาอยากขึ้นมาจะได้จับมาทำอะไรๆง่ายๆหน่อย ก็แค่นั้นเองที่เขาคิด

“ค่ะ”

“ไปรอในห้องทำงานสิ เดี๋ยวจะพาไปซื้อชุด” ศิวะมองชุดของเธอนิ่งๆ รสนิยมเห่ยมาก ชุดวันนั้นยังน่าดูกว่านี้ แต่เขาไม่ซื้อแบบนั้นให้ใส่หรอก เพราะไม่อยากให้ใครมามองผู้หญิงของเขา

ศิวะแต่งตัวเสร็จก็ออกมาหาคนที่เขาไล่ออกมารอในห้องทำงาน ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางเงยหน้าจากเอกสารของเขามามอง ในขณะที่ผมยาวๆที่มันเคยเปียกก่อนหน้านั่น ระลงมาตามกรอบหน้านิดๆ ใบหน้าแบบนั้นไม่ต้องแต่งหน้า ก็ควงไปไหนมาไหนได้สบาย แต่ชุดนี่สิ จะให้ใส่แบบไหนดีล่ะ

“ปกติใส่เสื้อผ้าแบบนี้เหรอ” เขาไม่เคยเลือกเสื้อผ้าให้ใคร ล่าสุดที่ทำแบบนั้น ก็คือตอนที่เลือกให้แฟนที่ตายไป แต่เขาไม่เห็นเธอใส่เสื้อผ้าที่เขาเลือกให้เลยสักครั้ง หลังจากนั้นเขาจึงปล่อยให้หน้าที่นั้นเป็นของเลขา เพราะไม่ชอบความวุ่นวายของผู้หญิง

“ฉันใส่แบบไหนก็ได้ค่ะ” ขอแค่มันปกปิดร่างกายได้เธอใส่ได้หมด เพราะไม่เคยซื้อเสื้อผ้าเอง ที่ใส่ๆมาจนตอนนี้ก็มีแค่คนเอามาให้ทั้งนั้น มันจึงมีทั้งแนวที่ทันสมัยและแนวที่ย้อนยุคไปมากพอสมควร

“ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาใส่เสื้อผ้าที่เหมะกับตัวเอง ไม่รู้หรอ” ศิวะถามด้วยเสียงราบเรียบ สนใจตัวเองหน่อยเถอะ จะให้เขาเลือกเองทั้งหมดมันก็ไม่ไหวนะ

“ฉันไม่รู้ค่ะว่าตัวเองเหมาะจะใส่เสื้อผ้าแบบไหน” หนึ่งนภาตอบเสียงเบา ไม่รู้จริงๆว่าตัวเองเหมาะกับเสื้อผ้าแบบไหน

“งานหนักแฮะ” ศิวะพึมพำเบาๆ มองคนที่ยังนั่งนิ่งอย่างคิดไม่ตก ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ งานก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่ไม่คิดจะสนใจงานสักนิด ป่านนี้เลขาแอบด่าเขาในใจแล้วมั้ง ที่หนีการประชุมแบบนี้

ปึ่ง !

“จะประชุมไหมศิวะ” ภิภพเปิดประตูเข้ามาถามด้วยใบหน้าบึ้งตึงเป็นปกติ หลังจากรอเจ้านายกับพนักงานคนใหม่อยู่หน้าห้องทำงานนานสองนาน จนเลยการประชุมไปหลายนาทีแล้ว

“พี่ภีม นี่น้อง” ศิวะเอ่ยปรามรุ่นพี่ของตัวเองเบาๆ ไอ้นี่เวลาโมโหนี่ไม่คิดว่าเขาเป็นเจ้านายเลยแฮะ

“ครับ จะประชุมไหมครับ ถ้าไม่ก็ยกตำแหน่งประธานมา” คำพูดหยอกล้อของเลขาคนสนิท ทำให้ศิวะยิ้มกว้าง แค่ใช้งานหนักนิดหน่อย งอนจนอยากได้ตำแหน่งประธานเลยแฮะ

“ยกให้วันนึง ฝากด้วยนะ”

ศิวะเดินมาดึงคนที่นั่งเงียบให้เดินตามออกไป เมื่อเลขาของเขาเดินออกไปทันทีที่เขาพูดจบ บ่อยครั้งที่เขาทำแบบนี้ การยกตำแหน่งให้เลขา นั่นหมายถึงว่าเขามีอำนาจตัดสินใจแทนทั้งหมดนั่นเอง และการประชุมวันนี้ ถ้าไม่มีเขา ภิภพก็เป็นประธานการประชุม และจัดการทุกอย่างเหมือนๆที่เขาทำ และคอยรายงานให้เขาฟังทีหลัง

ศิวะเลือกขับรถของตัวเองพาเธอออกไปที่ห้าง มองคนข้างกายอยู่ตลอดอย่างขบขัน เธอทำเหมือนเด็กเห็นของเล่น ใบหน้าดูตื่นเต้นตั้งแต่ขึ้นรถของเขา

เก็บอาการหน่อยก็ได้ เสแสร้งบ้างก็ดี เพราะเขากลัวตัวเองจะแพ้กับอะไรแบบนี้เข้าสักวัน ความแปลกใหม่มันตื่นเต้น เขายังไม่อยากหวั่นไหวกับอะไรเพียงชั่ววูบ เขาอยากให้มันมั่นคง เหมือนที่พยายามกับทุกสิ่ง

“ไม่เคยนั่งรถยนต์รึไง” ศิวะถามเด็กตัวเล็กที่นั่งเงียบ ดวงตาสีดำสนิทแวววาวอยู่ตลอด จนเขารู้สึกเอ็นดู เธออายุเท่าไหร่แล้วเนี้ย ทำไมต้องตื่นเต้นกับอีแค่ได้นั่งรถยนต์ของเขา

“ไม่ค่ะ เคยนั่งแต่รถเมล์ รถเมล์ฟรีค่ะ”

หนึ่งนภาตอบออกไปตามตรง เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น หอพักกับที่ทำงานก็ใช้สองเท้าเป็นพาหนะ ส่วนรถเมล์มีโอกาศได้นั่งก็ตอนที่ไปเรียน ไม่เคยมีโอกาศได้นั่งรถแบบนี้หรอก อ้อ! มีครั้งนึงที่ได้นั่ง ก็คือตอนที่รถฉุกเฉินพาร่างน้องสาวที่ถูกรถชนไปโรงพยาบาลนั่นแหละ แล้วก็วันสุดท้ายที่น้องสาวมีชีวิตอยู่ ไม่เคยได้นั่งรถหรูแบบนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel