บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ตามติดชีวิต(ว่าที่)เมีย

ตอนที่ 2 ตามติดชีวิต(ว่าที่)เมีย

แล้วเช้าวันนี้ ข้อมูลที่เขาอยากได้เกี่ยวกับว่าที่เจ้าสาวที่แม่พยายามยัดเยียดให้ก็มาอยู่ในมือเขา ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อตื่นแต่เช้ามืดเพื่อขับรถมายังบ้านของเธอตามที่อยู่ที่เขาได้มา

รถยนต์คันหรูขับมาถึงบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ เขาขับเข้ามาจอดที่ริมรั้วที่เป็นไม้ระแนงโปร่งด้านข้างของตัวบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นหลังริมไม่ได้ติดกับบ้านของใคร ข้างรั้วจึงมีพื้นที่ให้เขาไปจอดรถแอบซุ่มดูเจ้าของบ้านได้

ชายหนุ่มปิดไฟหน้ารถแต่ไม่ดับเครื่องยนต์ นั่งเงียบรออยู่ว่าจะมีใครเดินออกมาให้เขาได้เห็นบ้างหรือไม่ คิดแล้วก็ขำตัวเอง ถึงขนาดยอมตื่นแต่ไก่ยังไม่โห่ เพื่อมาดักซุ่มดูเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอจริงๆ หรือเปล่า หรือจะคว้าน้ำเหลวเสียเวลานอนก็ไม่รู้

พริบตาเดียว ชั้นล่างของบ้านฝั่งที่เขาจอดรถแอบซุ่มอยู่ก็เปิดไฟสว่างจ้า ด้วยความที่บริเวณบ้านด้านนี้ไม่ได้มีเนื้อที่มากนัก ห้องๆนี้จึงอยู่ใกล้รั้วจนเขาสามารถมองทะลุเข้าไปข้างในได้ชัดเจน ประตูและหน้าต่างกระจกที่ผ้าม่านแบบบานเกล็ดถูกชักรูดขึ้นเอาไว้ทำให้รู้ว่าห้องนี้คือห้องครัว

ตาคมเบิกกว้างขึ้นเมื่อร่างงามร่างหนึ่งเข้ามาอยู่ในสายตา หญิงสาวสวยจัดรูปร่างสะโอดสะองในชุดนอนกระโปรงแขนยาวสีขาว ชายกระโปรงสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเกือบคืบ ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวเลยกลางหลังดัดลอนใหญ่ตรงปลาย เธอใส่ผ้าคาดผมสีเดียวกับชุดนอนโชว์หน้าผากโหนกนูนน่ารัก ดวงหน้ารูปไข่ คิ้วสวยที่ถูกกันให้เป็นรูปทรงนิยม ดวงตากลมโตหวานหยด จมูกโด่งรั้นน่าบีบ ปากกระจับได้รูปสีสดแม้จะยังไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆเลย ผิวพรรณขาวเนียนราวน้ำนมเกลี้ยงเกลา ชวนสงสัยว่าถ้าเขาเอามือไปสัมผัสลูบไล้จะให้ความรู้สึกนุ่มลื่นเหมือนผ้าแพรเนื้อดีไหม

ร่างงามก้มๆ เงยๆ หยิบของในตู้เย็นออกมาวางแล้วจัดเรียงอย่างคล่องแคล่ว ดูจากวัตถุดิบที่เขาเห็นจากตรงนี้เดาว่าเธอน่าจะทำแซนด์วิชไปส่งขาย ไม่นานแซนด์วิชก็ถูกจัดวางเรียงเต็มสองตะกร้าใหญ่ เธอจึงเปิดประตูออกมาที่สวนข้างบ้านที่ใกล้กับบริเวณที่เขาจอดรถมากที่สุด ชายหนุ่มจึงรีบดับเครื่องยนต์ทันทีเพราะกลัวเธอจะสงสัยว่ามีใครมาจอดรถติดเครื่องยนต์อยู่ข้างรั้วบ้านเธอ

ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้ามาสักพักแล้ว ทำให้เขายิ่งมองเห็นเธอได้อย่างชัดเจนในระยะใกล้ หญิงสาวร่างบางเดินออกมาเปิดน้ำผ่านสายยางแล้วรดน้ำพืชผักสวนครัวที่เรียงรายอยู่เต็มพื้นที่ข้างรั้ว มุมปากกระจับสีสวยของเธอยกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข

ดวงตาคมกริบจ้องมองร่างงามไม่กะพริบ มองจากมุมไกลในห้องครัวก็ว่าสวยบาดตาแล้ว มามองมุมใกล้ชิดขนาดนี้ยิ่งสวยบาดใจ วงหน้าอ่อนเยาว์แก้มอมชมพูนั่นยิ่งทำให้เขาอยากจะหอมแก้มแรงๆ สูดกลิ่นกายสาวให้ชุ่มปอด

แต่แล้วไม่นานเธอก็รดน้ำต้นไม้เหล่านั้นเสร็จและหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านไป ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อถอนหายใจอย่างแสนเสียดายที่ไม่ได้มองหน้าสวยๆ ของเธออีก

“ยาหยี”

ปากหยักได้รูปพึมพำเสียงเบาดั่งละเมอ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไป

หนุ่มหล่อมองขึ้นไปบนบ้านชั้นสอง เพื่อมองหาว่าห้องนอนของสาวน้อยอยู่ตรงไหน แล้วพระเจ้าก็ช่างเป็นใจให้เขา เพราะประตูระเบียงห้องนอนฝั่งที่เขาจอดรถอยู่ถูกเปิดออกมาโดยสาวน้อยที่จิตใจเขากระหวัดถึง เธอเดินออกมาเก็บผ้าเช็ดตัวที่ตากไว้ริมระเบียงแล้วเดินเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว แล้วผ้าม่านที่ประตูกระจกริมระเบียงก็ถูกปิดจนสนิทอีกครั้ง

ท่านประธานหนุ่มหล่อถอนหายใจออกมาอย่างแสนเสียดายอีกครั้ง ดวงตาคมมีแววหวานมองไปยังประตูระเบียงอยู่นานก่อนตัดสินใจกลับรถออกไปจอดรอเธอทางด้านหน้าบ้านเพื่อจะตามเธอไปยังบริษัทที่เธอทำงาน ซึ่งบริษัทนั้นเขารู้จักดีเพราะเป็นบริษัทของเพื่อนรักที่เรียนมาด้วยกัน เมื่อก่อนเขาไปเที่ยวหาบ่อย แต่หลังๆ มาเมื่อเขาได้ขึ้นมานั่งแท่นบริหารเต็มตัว ก็งานรัดตัวจนแทบไม่มีเวลากระดิกตัวไปทำเรื่องไร้สาระที่ไหน

“คุณแพร วันนี้ผมเอาจจะไม่ได้เข้าบริษัทนะ หรืออาจจะไปอีกทีช่วงบ่ายๆ เดี๋ยวขอดูก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรด่วนก็โทรมาครับ”

ท่านประธานหนุ่มโทรแจ้งเลขาสาวเอาไว้ เพราะมีธุระสำคัญที่จะต้องทำให้เสร็จ อาจใช้เวลาทั้งวันก็ได้ เขาไม่แน่ใจ

“รับทราบค่ะ ท่านประธาน”

เมื่อวางสายเขาก็เห็นรถยนต์คันกะทัดรัดขับออกมาจากประตูบ้านของเธอ เขาจึงขับตามออกมาติดๆ เพราะกลัวคลาดกันกับเธอและจะไม่รู้ว่าเธอเอาขนมไปส่งที่ไหน

แต่ที่ไหนได้เธอขับตรงยิงยาวไปจนถึงบริษัทของเธอเลย เมื่อทั้งคู่หาที่จอดรถได้ เขาก็เร่งเดินตามเธออย่างห่างๆ ร่างงามในชุดเดรสสั้นแค่เข่ากระโปรงทรงสอบ คลุมทับด้วยเสื้อสูทตัวสวยดูทะมัดทะแมง เดินถือตะกร้าแซนด์วิชสองตะกร้าใหญ่ออกมาจนถึงตึกข้างเคียงที่เป็นร้านกาแฟสไตล์คาเฟ่น่ารัก ที่มีลูกค้ามาใช้บริการเนืองแน่นแทบทุกวัน เธอเปิดประตูเอาขนมเข้าไปส่งให้ข้างในทั้งหมด ก่อนเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงกระดาษใบเล็กหนึ่งใบซึ่งเขาคาดว่านั่นน่าจะเป็นอาหารเช้าของเธอ

ท่านประธานหนุ่มทำตัวเหมือน Stalker เข้าไปทุกที ดวงตาคมจับจ้องไปที่ร่างบางนิ่ง ก่อนเดินตามเธอแทบทุกฝีก้าวจากระยะไกล จนเมื่อเข้ามาภายในชั้นล่างของอาคารก็เห็นพนักงานจำนวนมากรอขึ้นลิฟต์โดยสาร เขาจึงไปยืนอยู่อีกมุมหนึ่งเพื่อแอบมองเธอ

หญิงสาวกล่าวทักทายเพื่อนร่วมงานด้วยรอยยิ้มกว้างแสนหวาน จนคนที่แอบมองอยู่เผลอยิ้มตาม เขาเคยได้ยินเพื่อนๆ พูดกันถึงคนรักว่าเวลาเธอยิ้มแล้วโลกสว่างไสวน่าอยู่ เขาเคยแค่นหัวเราะใส่ว่าไร้สาระ แต่มาบัดนี้เขาเชื่อแล้วว่ารอยยิ้มแบบนั้น มันมีอยู่จริง

จนเมื่อเธอขึ้นลิฟต์ไปได้เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานทันที

“เห้ย ไอ้เสือ ทำไมวันนี้มึงโทรหากูได้วะ”

ตะวัน ประธานบริษัทที่เธอทำงานอยู่ พวงตำแหน่งเพื่อนรักเพื่อนเที่ยวของเขาเอ่ยทักทายทันทีที่รับสายเขา

“ก็กูคิดถึงเพื่อน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะมึง วันนี้ว่างไหม กูกำลังไปหามึง จะถึงแล้วเนี่ย”

“สำหรับมึงว่างเสมอ มึงมีอะไรหรือเปล่า มาหากูถึงนี่”

หนุ่มหล่อนามว่าตะวันเกิดความสงสัย ร้อยวันพันปีแทบไม่ค่อยจะมาหา จะนัดเจอกันก็ตอนเที่ยวกลางคืน ท่องราตรีและหาสาวๆ มานอนกอดเท่านั้น

“เออน่า คิดถึงเพื่อนไม่ได้หรอวะ”

“ห่า กูขนลุก”

“เออ ถึงละ มึงมาทำงานหรือยัง”

“มาละ ช่วงนี้มาเช้าทุกวัน”

“ทำไมวะ งานเยอะหรอ”

“เปล่า มากินข้าวเช้าที่ทำงาน”

“อะไรวะ เออๆ กูกำลังขึ้นไป เจอกัน”

ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร ภายในนั้นปรากฏชายหนุ่มรูปหล่อร่างสูงใหญ่ในชุดสูทภูมิฐานสีกรมท่า ผิวพรรณขาวสะอาดราวผู้หญิง ใบหน้ารูปไข่ยาวที่รับกับคางเหลี่ยมมนกำลังดี เข้ากับผมรองทรงที่ด้านข้างไถสั้น แต่ด้านบนยาวซึ่งได้รับการจัดทรงเปิดหน้าผากแต่ยังดูอ่อนเยาว์ตามสมัยนิยม คิ้วเข้มดกดำ ดวงตายาวเรียวไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่คมกริบ จมูกโด่งจัดเป็นสันและริมฝีปากที่หยักได้รูปสวยพอเหมาะสีสดนั้น ทำเอาเลขาสาวที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้มารอรับแขกพิเศษ ตกตะลึงมองตาค้างเหมือนตกอยู่ในภวังค์

“เอ่อ สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเลขาของคุณตะวัน ท่านให้มารับคุณไปที่ห้องค่ะ”

รินรดา ภักดีกาญจน์กุล หรือ ยาหยี พนมมือก้มหน้าลงไหว้แขกของท่านประธานอย่างนอบน้อม พร้อมผายมือเชิญเขาให้เดินนำเธอเข้าไปในห้องท่านประธานทันที

“ลมอะไรหอบมึงมาถึงนี้วะ ไอ้ปรินซ์”

เพื่อนรักตรงเข้าสวมกอดกันอย่างคิดถึง เพราะช่วงหลังๆ ก็งานยุ่งกันทั้งคู่จริงๆ จนไม่ได้มีเวลามาเจอและสังสรรค์กันเหมือนเดิม

“ก็ คิดถึงดิวะ วันนี้กูว่าง เลยมาหาเพื่อนคุย”

“หาเพื่อนคุยหรือหาเพื่อนแดกเหล้า เอาดีๆ”

“เออ แสนรู้ ทั้งสองอย่างโว้ย”

“เพื่อนคุยพอได้ แต่แดกเหล้าวันนี้ไม่ได้จริงๆ ว่ะ แม่กูนัดบอดให้ ไม่ไปไม่ได้ โดนแหกอกแน่”

“อะไรวะ นี่มึงจะโดนจับแต่งงานหรอวะเนี่ย”

“ยังไม่ถึงขนาดนั้นโว้ย แค่แม่พยายามหาแฟนให้ กูบอกไม่เอาๆ ก็ไม่เคยฟัง แฟนน่ะ กูหาเองได้ เล็งๆ ไว้แล้วคนนึง”

“ใครวะ”

“เออน่า จีบติดเมื่อไหร่กูบอกมึงเอง”

ก๊อก ก๊อก การพูดคุยของหนุ่มโสดถูกขัดจังหวะด้วยการนำกาแฟและแซนด์วิชมาเสิร์ฟให้กับหนุ่มหล่อทั้งสองคนในห้อง

“ขอบคุณมากครับ ยาหยี”

เสียงอ่อนหวานพร้อมดวงตาที่แพรวพราวหวานเชื่อมทำเอาปรินทร์คิ้วกระตุกทันใด เขารีบหันไปมองหน้าว่าที่เจ้าสาวที่แม่ยัดเยียดให้ ก็พบกับดวงหน้าหวานที่อมยิ้มตอบรับการของคุณของเพื่อนรักของเขา ช่างน่าหมั่นไส้นัก จะแต่งงานมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว ยังหว่านเสน่ห์ให้เพื่อนรักของเขาอยู่อีกหรือ

เขาสัมผัสได้ว่าเพื่อนรักคงชอบว่าที่เจ้าสาวของเขาเข้าแล้วเต็มเปา และถ้าเดาไม่ผิด ผู้หญิงที่มันเอ่ยถึงเมื่อครู่ ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสาวสวยร่างบางตรงหน้าเขานี้ และถ้าคนทั้งคู่ได้คบกันจริง เธอก็ไม่มีความจำเป็นต้องแต่งงานเพื่อล้างหนี้และช่วยชีวิตแม่เธอให้มีเงินผ่าตัดหัวใจอีกต่อไปแล้ว เพราะเพื่อนเขาก็ร่ำรวยไม่ต่างจากเขาเลย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ปรินทร์ก็เกิดความปวดหนึบในใจอย่างประหลาด เธอคนนี้ต้องเป็นของเขาเท่านั้น เพราะแม่เขารักเธอมาก ถ้าไม่ได้เด็กคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้คงผิดหวังและเสียใจแย่ เขาในฐานะลูกชายคนโต ควรเป็นลูกกตัญญูสานฝันของแม่ให้เป็นจริง ด้วยการยอมแต่งงานกับเธอสินะ

ร่างบางเดินออกจากห้องไปแล้ว เพื่อนรักของเขาจึงหันกลับมาสนใจเขาอีกครั้ง

“กินสิวะ แซนด์วิชเนี่ย ยาหยีทำเอง เธอทำมาส่งขายคาเฟ่ด้านข้างนี่ทุกวัน โคตรอร่อย สวยและขยันมากๆ เลย จริงไหม”

สายตาชื่นชมเคลิ้มฝันอย่างปิดบังความรู้สึกไม่มิดของเพื่อน ทำเอาเขาเริ่มหนักใจ ถ้าเขาต้องแต่งงานกับเธอจริงๆ จะบอกเพื่อนรักอย่างไร รอให้เขาแน่ใจกว่านี้ก่อน ก็คงต้องบอกความจริงไปนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะมาเสียเพื่อนเพราะเรื่องผู้หญิงเสียเปล่าๆ

ปรินทร์หยิบแซนด์วิชที่หน้าตาน่ากินขึ้นมากัดคำใหญ่ อืม เป็นจริงอย่างที่เพื่อนว่า ขนมปังนุ่มนิ่มเนื้อละเอียด น้ำสลัดกลมกล่อมรสดี พร้อมด้วยผักสดและวัตถุดิบที่เข้ากันอย่างลงตัวทำให้แซนด์วิชชิ้นนี้อร่อยมากจริงๆ

“อืม ใช้ได้ แฟนมึงหรอ”

ปรินทร์หยั่งเชิงถามออกไป ก่อนได้รับคำตอบที่ทำให้โล่งใจขึ้นมาหน่อย

“แฟนเฟินอะไรกันวะ กูอ่อยมาตั้งนาน จีบโต้งๆ ก็แล้ว จีบทางอ้อมก็บ่อย ไม่เคยมีท่าทีอะไรกับกูเลย เห็นสวยๆ แบบนั้นนะ โสดสนิท วันๆทำแต่งาน วางตัวโคตรดี ขนาดอย่างกู รูปหล่อพ่อรวยมาทอดสะพานให้ถึงที่ ยังไม่ยอมปีนทางลัดความรวยขึ้นมาเลย ยอมทำงานงกๆ ทำแซนด์วิชมาขายทุกเช้า แต่ไม่ยอมคบกับกู มึงคิดดู เป็นคนอื่นมึงว่าจะเหลือหรอ เผลอๆ อ่อยกูก่อนด้วยซ้ำ กูเลยปลื้มเขามากขึ้นทุกวันแล้วเนี่ย”

“ขนาดนั้นเลยหรอวะ”

“เออ ขนาดนั้นเลย แม่กูเคยมาเจอก็ชอบเขานะ ยุให้กูจีบ แต่พอแม่มาบ่อยๆ เห็นท่าทีของเธอว่าท่าทางจะยุไม่ขึ้น เลยพยายามหาสาวๆ มาใส่พานให้กูเนี่ย บอกอยากมีหลานใจจะขาด”

“เหมือนแม่กูเลย”

“เห้ย อย่าบอกว่ามึงก็จะโดนบังคับมีเมียเหมือนกัน”

“อืม กูก็ดูๆอยู่ ถ้าโอเคก็อาจทำตามความต้องการของคุณนายญาดา”

“อะไรวะไอ้เสือ ใครกันที่ทำให้ผู้ชายผู้ไม่เคยอยากผูกมัดกับใคร มีท่าทีจะยอมโดนคลุมถุงชน”

“รอให้กูแน่ใจก่อนว่าจะยอมแต่งแน่ กูจะบอกมึงเอง ตอนนี้กูยังไม่ชัวร์อะไรทั้งนั้น”

“เออ เข้าใจ ยังไงก็ดูดีๆ ส่วนกูก็ไม่รู้จะรอดไปได้อีกสักกี่วัน แม่กูท่าทางเอาจริงว่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel