บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 [N&Z] สูญเสีย

Nakrop Talk

หนึ่งปีที่แล้ว

ช่วงต้นปี...พ่อของผมเริ่มมีอาการปะหลาด จะว่าป่วยก็ไม่ใช่ จะว่าโดนของก็ไม่เชิง ด้วยอายุที่มากขึ้นทุกปีๆ ของท่าน อาจจะมีเจ็บออดๆ แอดๆ บ้าง เป็นธรรมดาของชายสูงวัย เพราะท่านตรวจพบว่าเป็นความดันสูงตั้งแต่อายุห้าสิบปี จนตอนนี้ท่านอายุได้เกือบหกสิบปีแล้ว ก็ยังต้องกินยาควบคุมความดันเป็นประจำทุกวัน

แต่แปลกที่ว่าแต่ละปีที่ผ่านไป พ่อของผมจะซูบผอมลงเรื่อยๆ ผิวพรรณที่ดูแทนเนียนแบบผู้ดีก็เริ่มจะหมองคล้ำลง ผมกับแม่พาท่านไปพบแพทย์ตลอด แต่จนแล้วจนเล่าก็หาสาเหตุอาการที่ท่านป่วยไม่พบเลย อาหารที่เคยทานได้เกือบทุกอย่าง ก็เริ่มทานยากและน้อยลงไปทุกที ทำให้แม่เป็นห่วงมากจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน

กระทั่งแม่คิดว่าการรักษาทางวิทยาศาสตร์ อาจไม่ได้ผลที่จะทำให้พ่อของผมมีอาการดีขึ้น แม่จึงปรึกษากับเพื่อนๆ และบอกเล่าถึงอาการที่พ่อเป็น ทุกคนต่างแนะนำให้พ่อไปพบกับพระเกจิท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเก่งเรื่องแก้คุณไสยมนต์ดำ ผมกับแม่จึงพาพ่อไปพบกับพระเกจิท่านนี้

....

อ่อ...ผมลืมเล่าไปเรื่องหนึ่ง ผมทราบบางเรื่องที่พ่อปิดบังเอาไว้ โดยที่ท่านไม่ต้องการให้ครอบครัวรู้ ก็คือ...ท่านแอบมีบ้านเล็ก ซึ่งแม่ของผมไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน มีเพียงแค่ผมเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่รู้เพราะความบังเอิญนะ ไม่ได้ตั้งใจอยากจะไปรู้เท่าไหร่ พ่อของผมแอบคบกับเด็กเกือบจะเป็นรุ่นลูกก็ว่าได้ ท่านเลี้ยงดูส่งเสียฝ่ายนั้นอยู่เป็นระยะเวลานานพอสมควร และไม่รู้ว่าท่านตั้งใจหรือผิดพลาดประการใด เธอคนนั้นกลับตั้งครรภ์ขึ้นมาเสียได้ ในขณะที่เธอกำลังท้อง พ่อของผมก็มีอายุราวๆ สี่สิบห้าปีแล้ว เรียกได้ว่าพ่อดันมามีลูกเล็กตอนแก่เสียได้

ซึ่งท่านก็ไม่ได้ทอดทิ้งฝั่งนั้นแต่อย่างใด ยังเลี้ยงดู ซื้อบ้าน ซื้อรถ และออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในบ้านให้ แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านไม่สามารถให้กับเธอคนนั้นได้ก็คือ ใบทะเบียนสมรส เพราะพ่อของผมไม่คิดจะหย่ากับแม่ จะว่าท่านรักแม่มากก็พูดแบบนั้นไม่ได้เต็มปาก เพราะถ้ารักมากแล้วทำไมถึงมีอีกบ้าน ผมเองก็ไม่อาจทราบความรู้สึกของท่านได้ แต่เอาเป็นว่าเธอคนนั้น ทั้งรักทั้งเกลียดพ่อของผมมาก จนความรักที่มีให้พ่อ คงเริ่มลดน้อยถอยลง หรือความรักที่มีมันกลับรุนแรงมากขึ้นทวีคูณ ทำให้เธอเสียสติหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่อาจคาดเดาได้เลย

ทั้งที่เธอรักพ่อผมมาก มากเสียจนยอมขึ้นชื่อเป็นเมียน้อยอยู่นานหลายปี จนกระทั่งเธอตั้งท้องและสุดท้ายเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวออกมา ซึ่งน้องสาวต่างแม่ของผม อายุห่างจากผมเกือบยี่สิบปี

พ่อก็ยังให้สิ่งที่เธอต้องการไม่ได้อีก ไม่ว่ายังไงพ่อก็ไม่มีทางหย่ากับแม่ของผม ทำให้ความรักที่เธอคนนั้นมีให้กับพ่อ แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น ซึ่งยากเกินกว่าจะควบคุมไว้ได้ และนั่นทำให้ผมรู้จักคำว่ามนต์ดำคุณไสย ในวันที่ทุกอย่างมันสายเกินไป ผมต้องสูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน เพราะผู้หญิงคนนั้นเพียงคนเดียว ที่พรากท่านไปจากผมและแม่

จิตใจของเธอช่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์...เธอคงคิดว่าหากสุดท้ายแล้วเธอไม่สามารถครอบครองพ่อผมได้ งั้นก็ทำลายให้พ่อสิ้นลมหายใจ โดยที่ไม่ต้องมีผู้หญิงคนไหนได้พ่อไปสักคน และนั่นคือความคิดที่แสนโหดร้ายของเธอ เมียน้อยของพ่อผม เธอมีชื่อว่า...แอนนี่

ใช่ครับ...แอนนี่ ผู้หญิงต้นเรื่องที่ผมเกริ่นนำไปให้ฟังแล้ว สาวที่ผมเจอในผับนั่นแหละ คนที่ผมพาไปขึ้นสวรรค์ที่บ้าน เธอคนนั้นเข้าหาผมด้วยจุดประสงค์บางอย่าง เป้าหมายของเธอคือ...พ่อของผมเอง

...

หนึ่งวันก่อนที่พ่อจะสิ้นลม

ในห้อง ICU ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพมหานคร ซึ่งแม่ของผมเป็นแพทย์ประจำที่โรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย ตอนนี้อาการของพ่อทรุดลงอย่างหนัก แม้ว่าสามเดือนที่แล้ว...แม่จะพาพ่อไปพบพระเกจิ แต่พระอาจารย์บอกกับพวกเราว่า...ผมกับแม่พาพ่อมาพบท่านสายเกินไป อวัยวะภายในของพ่อ ถูกของต่ำกลืนกินไปเกือบหมด ตอนนี้ทำได้แค่เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น จากวันนั้นถึงวันนี้ เพียงระยะเวลาแค่สามเดือน อาการของพ่อค่อยๆ ทรุดลงเรื่อยๆ พ่อเข้ามานอนแอดมิทรักษาตัวที่โรงพยาบาลในห้องพัก VIP ได้หนึ่งเดือนแล้ว แต่เมื่อร่างกายพ่อทรุดหนักจนใกล้จวนเจียนสิ้นลม แม่ได้สั่งย้ายพ่อเข้าห้อง ICU อย่างเร่งด่วน

อาการของพ่อคือไม่สามารถจำใครได้อีกแล้ว ดวงตาแข็งกร้าวราวกับไม่ใช่พ่อของผม ธาตุไฟแตกออกทวารทั้งเจ็ด ภาพที่ผมกับแม่เห็นตรงหน้า ทำเราสองคนต้องหลั่งน้ำตา จิตใจของแม่ผมแตกสลาย แต่ผมต้องแสร้งทำเข้มแข็งเพื่อเป็นหลักให้แม่ สิ่งที่พ่อพูดออกมาวันนั้น...ผมยังจำได้ดี

"ฮ่าๆๆๆ ร่างของมันเป็นของกู!!! อวัยวะภายในของมัน กูกินไปหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆ" เสียงที่พ่อพูดออกมา เหมือนไม่ใช่เสียงของพ่อ มันเป็นเสียงของผู้หญิง แค่ผมคิดก็ทำเอาขนแขนขนขาลุกไปหมด ขนาดว่าแม่นำพระพุทธรูปองค์เล็กมาตั้งไว้หัวเตียง ยังไม่สามารถช่วยอะไรพ่อผมได้ จนกระทั่งแม่ต้องถอดสร้อยพระออกมาและสวมเข้าที่คอของพ่อ และนั่นทำให้พ่อผม ซึ่งเป็นดั่งวีรบุรุษในเครื่องแบบ กรีดร้องโหยหวนออกมาเยี่ยงคนเสียสติ

"พี่...หลับพักผ่อนให้สบายเถอะค่ะ อย่าได้ทุกข์ทรมานหรือเป็นกังวลอะไรทั้งนั้น บุญกุศลที่น้องทำมาทั้งหมดในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ น้องขอยกให้พี่ และขออโหสิกรรมให้พี่ทุกเรื่อง เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน พี่จงเดินไปตามทางแสงสว่าง อย่าได้หันหลังกลับมามองอะไรอีก น้องกับลูก...เราสองคนอยู่ต่อกันได้ค่ะ" คำพูดที่แม่เอื้อนเอ่ยออกมา พร้อมน้ำตาที่ไหลอาบพวงแก้มทั้งสองข้าง ทำให้ดวงจิตของพ่อ ละจากร่างที่ทุกข์ทรมานนี้ และวินาทีนั้น...พ่อก็สิ้นลมลงอย่างสงบ

______________________________________

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel