บท
ตั้งค่า

ขอแค่เปิดใจ

ไอเดีย...

ตอนนี้นักศึกษาทุกคนมาถึงเชียงใหม่กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วและตอนนี้เรากำลังจะเดินเข้าไปในหมู่บ้านซึ่งระยะทางก็ไกลพอสมควร ที่ต้องเดินเพราะรถไม่สามารถเข้าไปได้ แต่เดินมาได้สักพักฉันก็เริ่มมีอาการปวดท้องประจำเดือน คือทุกครั้งที่ประจำเดือนมาฉันจะมีอาการปวดท้องทุกครั้งบางเดือนปวดมากบางเดือนปวดน้อยซึ่งครั้งนี้ฉันปวดมากปวดจนเดินไม่ไหว อันที่จริงฉันปวดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ก็กินยาแก้ปวดไปอาการก็ดีขึ้นแต่มาตอนนี้อาการปวดท้องกำเริบอีกแล้ว

"แกไหวไหมเดีย"

"ไหวๆ" ฉันบอกยัยปุ้ยว่าไหวแต่ฉันรู้ว่าไม่ไหว ฉันก็เลยเดินไปนั่งตรงโขดหินข้างทาง

"เป็นอะไรไอเดียทำไมหน้าซีดๆไม่สบายหรือเปล่า" นักรบวิ่งมาโดยมีซีวิ่งตามหลังเขามองหน้าฉันแล้วถามฉันด้วยสายตาเป็นห่วงก่อนจะเอามือมาแต่หน้าผากฉันเพื่อวัดไข้

"ยัยเดียปวดท้องประจำเดือนน่ะเป็นแบบนี้มานานแล้ว" ยัยปุ้ยตอบแทนฉันเพราะตอนนี้ฉันไม่มีแรงจะพูดแล้ว คนที่ปวดประจำเดือนบ่อยๆน่าจะรู้ว่าเวลาที่ปวดมันไม่อยากทำอะไรเลย

"แล้วทำไมไม่บอกปวดตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วเนี่ย"

"เมื่อวาน" ฉันบอกเขาไป

"แล้วทำไมไม่บอกฉันวะ ก็ว่าอยู่ทำไมวันนี้เธอดูเงียบๆเอาแต่นอนหลับมาตลอดทางที่แท้ก็ปวดท้องนี่เอง" 

"ก็ฉันคิดว่ากินยาแล้วมันจะดีขึ้นนี่นา"

"เห้ออ เธอนี่นะทำให้ฉันเป็นห่วงอีกแล้วแล้วนี่เดินไหวไหม" จะบอกว่าตอนนี้เขาไม่เรียกฉันว่ายัยป้าไม่เรียกที่รักไม่เรียกตัวเองไม่เรียกไอเดียแล้วเขาเรียกฉันๆเธอๆราวกับว่าเราอายุเท่ากันอย่างงั้นแล่ะ ซึ่งฉันก็ขี้เกียจแย้งเขาจะเรียกยังไงก็เอาที่เขาสบายใจก็แล้วกัน

"ไหว" ฉันฝืนตัวเองแล้วลุกขึ้นเพื่อเดินต่อเพราะตอนนี้คนอื่นๆพากันนเดินไปไกลแล้ว

"ไม่ไหวอย่าฝืน อ่ะ ไอ้ซีกูฝากมึงสะพายกระเป๋าไอเดียให้หน่อย ส่วนกูจะเอาไอเดียขึ้นขี่หลัง"

"ไม่ต้อง"

"แกเดินไม่ไหวก็อย่าฝืนเดินเลยขี่หลังแฟนแกน่ะดีแล้วจะได้ถึงหมู่บ้านไวๆ ถ้ามัวแต่รอแกเดินมีหวังถึงหมู่บ้านตอนกลางคืนโน่นแล่ะ" สุดท้ายฉันก็ต้องขึ้นขี่หลังนักรบ อยากจะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราใกล้ชิดกันขนาดนี้  ระหว่างที่เดินไปฉันก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆมาจากตัวของเขาอยากจะบอกว่านักรบเป็นผู้ชายที่มีรสนิยมค่อนข้างดีน้ำหอมที่เขามันไม่ได้ฉุนจนเวียนหัวแต่มันเป็นน้ำหอมที่มีความหอมแบบอ่อนๆสำหรับผู้ชาย ฉันแอบสุดดมไปตลอดทางโดยไม่ให้เขาจับได้

"ถ้าง่วงก็ซบลงมาที่ไหล่แล้วก็หลับได้เลยนะครับที่รัก" เขาหันหน้ามาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนทำให้ใจฉันเต้นแรง อยากจะบอกว่าฉันแพ้น้ำเสียงอบอุ่นของเขามาก อาจจะเป็นเพราะปกติเขาไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับฉัน พอได้ยินก็เลยรู้สึกดีจนใจเต้นแรง

"นายไม่หนักเหรอ"

"หนัก"

"......"

"555พูดเล่นเธอก็ตัวเท่าลูกแมวจะหนักอะไรล่ะ"

"แต่นายก็ให้ฉันขี่หลังมานานเกือบชั่วโมงแล้วนะ ฉันกลัวนายจะปวดหลัง"

"ฉันทนได้เธอไม่ต้องห่วง"

"ขอบคุณนะ"

"ครับ^^"

"นายอย่าพูดเพราะแล้วทำน้ำเสียงแบบนี้ได้ไหม"

"ทำไมเหรอ"

"ก็มันทำให้ฉันหวั่นไหวน่ะสิ" ฉันบอกเขาด้วยความเขินทั้งที่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ควรจะมาเขินเพราะตอนนี้ยัยปุ้ยกับซีเดินนำหน้าไปไกลแล้ว

"จริงอ่ะ แบบนี้ฉันจะพูดทุกวันเธอจะได้ใจอ่อนยอมเป็นแฟนของฉันจริงๆสักที"

"ทำไมถึงอยากเป็นแฟนฉันนัก ฉันอายุมากกว่านายตั้งหลายปีไม่เหมาะกับนายหรอกนายน่าจะไปจีบผู้หญิงที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนายนะ

"ฉันรู้สึกพิเศษแค่กับเธอคนเดียวจะให้ฉันไปจีบคนอื่นเพื่ออะไรแล้วเธอก็เลิกเอาเรื่องอายุมาเป็นข้ออ้างได้แล้ว สำหรับฉันถ้าจะรักใครสักคนฉันก็จะรักเขาที่เป็นเขาไม่เกี่ยวกับอายุหรือความเหมาะสม รักก็คือรัก" นั่นสินะรักก็คือรักทำไมต้องเอาเรื่องอายุมาเป็นข้ออ้างด้วยล่ะ เขาอายุน้อยกว่าฉันแต่เขากลับมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าฉันอีก

"เธอลองเปิดใจให้ฉันได้ไหมไอเดีย ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาเธอระหว่างเราเธอปิดกั้นตัวเองมาตลอดอาจจะเพราะเธอกลัวที่เราอายุห่างกัน ฉันขอได้ไหมขอให้เธอลองเปิดใจมองฉันเป็นผู้ชายคนนึงแล้วฉันจะทำให้เธอเห็นว่าฉันจะเป็นแฟนที่ดีของเธอได้"

ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าฉันจะลองเปิดใจให้เขาดูเพราะฉันเองก็รู้สึกว่าตัวเองก็รู้สึกดีกับเขาไม่น้อย แต่ไม่ทันได้พูดจู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนักอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นักรบรีบพาฉันวิ่งเพื่อหาที่หลบฝน จนกระทั่งมาเจอเพิงไม้เก่าๆหลังนึงที่ตั้งอยุ่กลางป่า น่าจะเป็นของชาวบ้านที่ทำเอาไว้หลบฝน เขาวางฉันลงที่แคร่ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกฉันเห็นเขาเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง

"นายมองหาอะไร"

"ฉันกำลังมองว่าเมื่อกี้ฉันพาเธอวิ่งมาทางไหนซ้ายหรือขวา"

"หมายความว่าไง"

"ฉันจำทางตอนวิ่งมาไม่ได้น่ะสิ"

"แปลว่าเราจะหลงทางเหรอแล้วแบบนี้เราจะไปถึงหมู่บ้านได้มั้ย" ฉันเริ่มรู้สึกกังวลกับการเดินทางเพราะถ้านักรบจำทางที่วิ่งมาไม่ได้นั่นก็เท่ากับว่าเราจะต้องเดาทางกันเองว่าจะต้องไปทางไหน ถ้าไปผิดก็คือหลง

เราสองคนนั่งรอจนฝนหยุดตกซึ่งพอดูเวลาที่ข้อมือตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้วคนอื่นๆน่าจะถึงหมู่บ้านกันแล้วตามกำหนดการแต่ฉันกับนักรบนี่สิตอนนี้อยู่ตรงจุดไหนของป่าก็ไม่รู้

"เราเดินทางกันต่อเถอะเดี๋ยวมันจะมืดไปกว่านี้" นักรบเดินมาหาฉันแล้วนั่งยองๆตรงหน้าเพื่อให้ฉันขึ้นขี่หลังแต่ฉันไม่ขึ้นเพราะตอนนี้เริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้วฉันก็เลยเดินจับมือกับเขาแทน

เราเดินมากันมาได้สักพักใหญ่ๆฟ้าก็เริ่มมืดแล้วเสียงสัตว์เล็กๆร้องระงมดังทั่วผืนป่าจนฉันเริ่มรู้สึกกลัว อยากจะบอกว่าฉันกลัวความมืดแล้วก็กลัวผีมากๆด้วยยิ่งฟ้ามืดลงมาเท่าไหร่ความกลัวก็ยิ่งเพิ่มขึ้นฉันจับมือนักรบแน่นเดินกอดแขนเขาไม่ยอมห่าง

"กลัวเหรอ"

"ใช่กลัวฉันกลัวความมืดแล้วก็กลัวผีด้วยนายอย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่นะ"

"ใครมันจะไปทิ้งลงพูดไปเรื่อยดูหนังเยอะไปป่ะเนี่ยหื้มมม" เขาพูดพร้อมกับเอามือมาขยี้ผมฉันเล่นเหมือนฉันเป็นเด็ก

"ถ้ากลัวก็ขึ้นมาขี่หลังฉันดีกว่า"

"จะดีเหรอ" ตอนนี้ฉันไม่เกรงใจหรือกลัวเขาเมื่อยแล้วเพราะตอนนี้ฉันกลัวผีมากกว่า

"ดีสิ"

"ขอบคุณนะแล้วก็ขอโทษที่ทำให้นายต้องมาลำบาก" พูดจบฉันก็ขึ้นขี่หลังเขาแล้วกอดคอเขาแน่นเอาหน้าซบลงที่ไหล่แล้วมองซ้ายมองขวาเพื่อช่วยเขาจำทาง

"เพื่อเธอฉันยอมลำบากได้อยู่แล้วไอเดีย" ได้ฟังอะไรแบบนี้มันยิ่งทำให้ฉันหวั่นไหวมากขึ้นมากขึ้นโอ๊ยฉันจะทำยังไงดี ฉันอาจจะต้องมีแฟนเด็กอย่างงั้นเหรอแล้วก็เป็นแฟนคนแรกด้วย

เราเดินกันมาสักพักก็เจอแสงสว่างเหมือนควันไฟมาจากที่ไม่ไกลมากนัก หรือเรามาถึงหมู่บ้านกันแล้ว ฉันรีบชี้ให้นักรบดูพอเขาเห็นเขาก็รีบพาฉันเดินไปตามทางจนกระทั่งเรามาถึงหมู่บ้านแต่มันไม่ใช่หมู่บ้านที่เรามาเข้าค่ายอาสากันแต่มันเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง

"หมู่สูสองคนเป๋นไผเข้ามาในหมู่บ้านนี้ได้จะได" (พวกเธอสองคนเป็นใครเข้ามาในหมู่บ้านนี้ได้ยังไง) ฉันกับนักรบตกใจเมื่อจู่ๆก็มีชายวัยกลางคนเดินถือปืนด้ามยาวเข้ามาใกล้แล้วใช้ปืนเล็งมาทางฉันกับนักรบฉันกลัวมากจนตัวสั่นไปหมดเกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นปืนจริงครั้งแรก 

"ผมสองคนหลงทางมาครับเราเป็นนักศึกษาจากมหาลัยKมาเข้าค่ายอาสาหมู่บ้านต้นน้ำครับ" ฉันไม่รู้ว่านักรบฟังภาษาเหนือออกได้ยังไงเพราะฉันฟังไม่เข้าใจ

"หมู่สูมาเข้าค่ายอาสาตี้หมู่บ้านต้นน้ำกา ถ้าจะอั้นสูสองคนก่อขะไจ๋ออกไปจากหมู่บ้านนี้บะเดี่ยวนี้ ไป๊!!!" (พวกเธอมาเข้าค่ายอาสาที่หมู่บ้านต้นน้ำอย่างงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นพวกเธอสองคนก็รีบออกไปจากหมู่บ้านนี้ตอนนี้ ไป๊!!!)  ฉันกับนักรบตกใจที่จู่ๆลุงแกก็ไล่พวกเราเหมือนโกรธ

"แต่ตอนนี้มันมืดแล้วพวกผมคงเดินทางลำบากยังไงผมกับ..เอ่อแฟนขอพักที่หมู่บ้านนี้สักคืนจะได้มั้ยครับ"

"บะได้ มาตางไดก่อไปตางนั้นไป๊!!!" (ไม่ได้มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น ไป๊!!!)

"อะหยังกั๋นล้ำเหลือเสียงดังไปจ๋นถึงบนเฮือนหาไอ่ชัย ละเอ็งสองคนเป๋นไผ"  (อะไรกันเสียงดังไปถึงข้างบนบ้าน แล้วสองคนนี้เป็นใคร)

ในขณะที่พวกเราสองคนกำลังถูกคุณลุงที่อาศัยในหมู่บ้านไล่จู่ก็มีคุณยายท่านหนึ่งเดินถือไม้เท้าลงมาจากข้างบนบ้านโดยมีเด็กผู้ชายอายุน่าจะราวๆสิบขวบเดินตามท่านถามฉันกับนักรบ

"ผมสองคนหลงป่าน่ะครับเรากำลังจะไปเข้าค่ายอาสาที่หมู่บ้านต้นน้ำแต่ระหว่างทางที่เดินผมเดินหลงทางจนมาเจอหมู่บ้านนี้ผมก็เลยอยากจะขออาศัยนอนที่นี่สักคืน คุณยายกับคุณลุงจะคิดเงินเท่าไหร่ก็เรียกมาได้เลยนะครับผมยินดีจ่ายขอแค่ให้ผมกับแฟนมีที่นอนสำหรับคืนนี้เพราะตอนนี้แฟนผมเธอไม่สบายปวดท้องมากผมอยากให้เธอได้นอนพักผ่อนเยอะๆ" เขาทำไมถึงน่ารักขนาดนี้นะห่วงฉันมากขนาดนี้แล้วแบบนี้จะให้ฉันใจแข็งกับเขาได้ยังไง

"แล้วพอถึงพรุ่งนี้เช้าพวกผมจะรีบเดินทางออกจากหมู่บ้านแต่เช้ามืดเลยครับคุณยาย" 

"อื้มมม ได้ก่าลูก" (อื้มม ได้สิลูก)

"แม่อุ้ย มันสองคนคือคนของหมู่บ้านปู๊นนาจะหื้อมานอนตี้หมู่บ้านเฮาได้จะได"

"คนเปิ้นเดือดร้อนมาเฮาก่อต้องมีน้ำใจช่วยเหลือ ละแห๋มอย่าละอ่อนสองคนนี้เขาเป็นนักเรียนนักศึกษาบะไจ้คนของหมู่บ้านต้นน้ำละยะหยังเขาจะมานอนตี้นี่บะได้ แม่อุ้ยว่าคิงปิ๊กบ้านไปเต๊อะ ค่ำมืดดึกดื่นละ ส่วนละอ่อนสองคนนี้แม่อุ้ยจะจัดการดูแลเอง"(คนเขาเดืออร้อนมาเราก็ต้องมีน้ำใจช่วยเหลือ อีกอย่างเด็กสองคนนี้ก็เป็นแค่นักศักษาไม่ใช่คนของหมู่บ้านต้นน้ำแล้วทำไมจะให้เขานอนที่นี่ไม่ได้ แม่อุ้ยว่ากลับบ้านไปก่อนดีกว่ามืดแล้ว ส่วนเด็กสองคนนี้แม่อุ๊ยจะจัดการดูแลเอง)

"แม่อุ้ยแต่ว่า.."

"บะมีแต่ถ้าเกิดอะหยังขึ้นแม่อุ้ยจะรับผิดชอบเอง" 

นักรบ...

จากที่ผมฟังๆดูผมคิดว่าระหว่างหมู่บ้านนี้กับหมู่บ้านต้นน้ำที่เราจะไปเข้าค่ายอาสามันต้องมีอะไรแน่นอนดูแล้วน่าจะไม่ถูกกัน แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะตอนนี้ผมอยากให้ไอเดียได้อาบน้ำพักผ่อนก่อนเพราะใบหน้าของเธอตอนนี้ซีดมาก

พอคุณลุงคนนั้นถูกแม่อุ้ยไล่ก็หันมาทำหน้าตึงมองมาที่ผมกับไอเดียด้วยสีหน้าไม่พอใจแล้วเดินหายไปในความมืดพร้อมคบไฟในมือ

"คืนนี้นอนบนเฮือนอุ้ยก่อนเน่ออาจจะคับแคบไปน่อยแต่ก็นอนได้"

"ขอบคุณครับแม่อุ้ย" ถามว่าผมฟังภาษาเหนือรู้เรื่องได้ยังไง คือแม่ผมท่านเป็นคนเหนือครับเวลาแม่คุยกับตากับยายแม่ก็จะพูดภาษาเหนือตลอดผมก็พอเลยฟังรู้เรื่องบ้างแต่ไม่เคยพูด

หลังจากนั่้นผมกับไอเดียก็เดินตามแม่อุ้ยขึ้นมาบนเรือนซึ่งเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงแบบคนสมัยก่อน แม่อุ้ยเรียกหลานชายของแกให้มาช่วยเอาที่นอนหมอนผ้าห่มรวมถึงมุ้งมาให้ผมปูนอนตรงชานบ้าน ระหว่างที่ผมกำลังช่วยหลานชายแม่อุ้ยกางมุ้งซึ่งเกิดมาผมก็เพิ่งเคยกางครั้งแรกส่วนไไอเดียก็นั่งให้กำลังใจเพราะผมบอกให้เธอนั่งรอไม่ต้องลุกมาช่วย ผมอยากแแสดงให้เธอเห็นว่าผมก็เป็นที่พึ่งให้กับเธอได้เธอจะได้เลิกมองผมเป็นเด็กสักที

พอจัดการกับที่นอนเสร็จผมก็ชวนไอเดียมาอาบน้ำที่ริมน้ำซึ่งอยู่ด้านหลังบ้านแม่อุ้ยพอดี ตอนแรกไอเดียไม่กล้าอาบเพราะไม่เคยอาบน้ำกลางแจ้งแบบนี้เธอบอกว่าเธออายแต่ผมก็บังคับให้เธอมาจนได้เพราะเราตากฝนกันมาถ้าไม่อาบน้ำสระผมมีหวังพรุ่งนี้ไข้ขึ้นกันทั้งคู่แน่ๆ

"ห้ามหันมามองนะไม่งั้นโกรธจริงๆด้วย" ไอเดียตะโกนบอกผมขณะที่เธอกำลังนุ่งผ้าถุงอาบน้ำสระผมอยู่ริมน้ำ ด้วยความที่ผมไมไ่ด้แกล้งเธอมานานผมก็เลยแอบโดดลงน้ำแล้วซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ จนผ่านไปสักพักเสียงไอเดียก็ตะโกนเรียกหาผมแต่ผมก็แกล้งทำเป็นเงียบ 

"นักรบ!!!"

"..........."

"นักรบนายอยู่ไหน"

"............"

"นักรบไม่เล่นแบบนี้นะ ฉันกลัวนะ" 

"..........."

"ฮึก ฮึก ฮึก นักรบ ฮืออออ ฉันกลัวนะนายอยู่ไหน ฮือออ" น้ำเสียงของไอเดียเริ่มสั่นจนผมเริ่มสงสารไม่อยากแกล้งเธอแล้วเสียงสะอื้นไห้ของเธอทำให้ผมค่อยๆดำน้ำพาตัวเข้าไปใกล้ตรงที่เธอนั่งอาบอยู่ก่อนจะโผล่หัวขึ้นมาอยู่ตรงตรงหน้าเธอพอดี

"กรี๊ดดดดด"

โป๊กกกก!!!

"โอ๊ยยยย!!!" เสียงขันน้ำกระแทกลงบนหัวของเขาอย่างแรงจนเขารู้สึกมึนหัว

"ฮึก ฮึก สมน้ำหน้าอยากแกล้งดีนัก" ไอเดียบ่นไปก็สะอื้นไปผมจะโกรธก็โกรธไม่ลงเพราะผมดันไปแกล้งเธอก่อน

"ขอโทษ แค่อยากให้ตัวเองตื่นเต้นเฉยๆอย่าโกรธเค้านะ^^"

"ห้ามทำแบบนี้อีกนะนายก็รู้ว่าฉันกลัว"

"โอ๋ โอ๋ไม่แกล้งแล้วครับ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ" ผมโอ๋พร้อมกับจูบเพื่อปลอบโยนคนขี้กลัว ซึ่งครั้งนี้เหมือนไอเดียจะโอนอ่อนผ่อนตามผมไม่ขัดขืนแต่พอได้จูบมันเริ่มไม่พอแล้วไงอากาศเป็นใจขนาดนี้ ผมเริ่มเล้าโลมไอเดียซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้อยู่ด้วยกันตามลำพังแบบนี้โดยที่บรรยากาศสุดแสนจะเป็นใจ

"อื้อออ พอแล้ว นี่มันบ้านแม่อุ้ยนะมันไม่ดี" 

"แปลว่าถ้าไม่ใช่ที่นี่เธอจะยอมให้ฉันทำมากกว่าจูบใช่ไหม"

"นายนี่คิดแต่เรื่องพวกนี้ตลอดเวลาเลยใช่ไหม"

"ก็คนมันอยากอ่ะให้ทำไงได้ ยิ่งเห็นเธอนุ่งผ้าถุงเปียกไปทั้งตัวแบบนี้แถมหน้าอกยังพุ่งแทบจะโดนหน้าขนาดนี้จะให้ฉันทนได้ไง"

"ฉันไม่ยอมนายง่ายๆหรอกนะจะบอกให้ถ้านายมาทำอะไรฉันโดยที่ฉันไม่เต็มใจฉันจะไม่แค่เอาขันน้ำฟาดหัวนายแต่ฉันจะเอาสากครกฟาดหัวนายจนเลือดหัวนายออกไม่เชื่อคอยดู"

"แต่ฉันว่าฉันมีวิธีให้เธอยอมและเต็มใจไม่เชื่อก็คอยดู^^"

วันนี้อัพได้แค่ตอนนี้น๊าาา ไรท์รู้สึกปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้ เชียงใหม่ฝนตกทุกวันเลย

.........................................

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel