ตอนที่ 2 ฉันช่วยพี่ได้นะคะ
หลังจากนั้น ตะวันก็มักจะไปที่ร้านกาแฟกับภาวิชญ์ นี่ก็เป็นเรื่องยืนยันได้แล้วว่า เพื่อนของเขาสนใจเด็กคณะมนุษย์จริง ๆ เขาเองก็มากับตะวันทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้บอกว่ามาเพราะอะไร
“ขอบคุณมากนะครับ ถ้าสำเร็จ รับรองว่าผมมีค่าคอมมิชชั่นให้พี่ชมพู่อย่างงาม”
“ยินดีมากเลยน้องตะวัน เรื่องแบบนี้พี่ถนัด เอาไว้พี่จัดการให้เอง”
ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาจะลงมือแล้ว ตะวันก็เป็นหนุ่มเจ้าชู้ตัวพ่อคนหนึ่ง ภายนอกดูเป็นคนนิ่ง ๆ เหมือนเจ้าชายที่เย็นชา แต่ที่จริงแล้วเขาเป็นคนเจ้าชู้ กินไม่เลือก แค่ไม่กินสาว ๆ ในมหาลัยเดียวกัน
แต่ก่อนหน้านี้ ภาวิชญ์มักจะเห็นเขาไปหาสาว ๆ ที่คณะมนุษย์บ่อยพอเห็นหน้าเพื่อนของอันตรา ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ครั้งหนึ่งตอนพวกเขาอยู่ปีสาม ตะวันเคยตะลึง เมื่อเด็กปีหนึ่งที่เดินผ่านหน้าคณะ ซึ่งก็คือ “มะปราง” คนนี้
“เรียบร้อยแล้วเหรอ”
“เรียบร้อย เหลือแค่รอเวลาเท่านั้น”
“นี่จะปิดเทอมแล้ว คงไม่มีปัญหาหรอก ห้องระดับไฮเอนด์ ที่ราคาถูกขนาดนั้น หาไม่ได้แล้ว"
“ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ กูไปถามมาแล้ว พี่ชมพู่บอกว่า พวกเธอมาที่นี่ทุกวัน ว่าแต่มึงพกปากกาหรูแบบนั้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“นี่เหรอ ไม่มีอะไร ก็แค่ของที่ระลึกบริษัทเพื่อนพ่อน่ะ”
“อ่อ ของพรีเมี่ยมนี่เอง”
ภาวิชญ์ไม่ได้ตอบอะไรไป เขารู้นิสัยของตะวันดี ไม่ถามไม่ตอบ ถ้าถามก็จะตอบเท่าที่ถาม ไม่เซ้าซี้ ไม่ล้วงลึกเรื่องส่วนตัว ซึ่งเขาชอบนิสัยตรงนี้ของตะวัน ที่ไม่เหมือนกองทัพ เพราะเพื่อนสนิทคนนั้น ชอบสรรหาข่าวและอัปเดตเรื่องในมหาลัยอยู่ตลอดเวลา
เดือนถัดมา / สนามแข่งรถ
“ครับแม่ ว่ายังไงนะครับ โธ่แม่ก็รู้ว่าคืนนั้นผมมีแข่ง… ก็ได้ครับ”
“ว่าไงไอ้ภีม ชนะอีกแล้ว ทำลายสถิติเชียวนะ”
“พรุ่งนี้กูไม่ว่างแล้วว่ะ แข่งไปเลยนะไม่ต้องรอ”
“เอ้า ฉิบหาย มึงไม่อยู่แล้วใครจะแข่งแทนกูล่ะ”
“ในทีมมีตั้งหลายคน มึงเอาใครแข่งแทนไปก่อนก็ได้ ก็แค่เด็กใหม่เองไม่ใช่เหรอ”
“กูอุตส่าห์โม้เสียดิบดีเลย”
“ครั้งนี้เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ พ่อกับแม่มาจากระยอง เพราะเรื่องนี้เลย”
“ถึงกับทิ้งงานที่ท่าเรือมาเลยเหรอวะ เรื่องอะไรจะด่วนปานนั้น”
“ไม่รู้ว่ะ กลับก่อนนะ หมดอารมณ์แล้ว”
“แล้วน้อง ๆ พวกนั้นล่ะ”
ก้องภพชี้ไปที่สาว ๆ ที่หันมามองพวกเขา พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่หนุ่ม ๆ ชอบมาที่สนามแข่งรถ เพราะถ้าไม่เดิมพันด้วยเงิน รถ ก็มักจะมีสาว ๆ ที่เสนอตัวเป็นตัวเดิมพันให้คนชนะ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับ ความยินยอมของทั้งสองฝ่าย
“มึงจัดการไปละกัน กูไม่มีอารมณ์ กลับล่ะ”
“เสียดายนะเว้ย มีแต่แจ่ม ๆ ทั้งนั้นเลย”
“เบื่อแล้ว”
“เออ ๆ กลับดี ๆ ล่ะ ส่วนกู ขอไปทางโน้นก่อน”
ภาวิชญ์ยิ้มออกมา และรีบเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้อง ไม่คิดว่าจะเจอน้องเค้กในห้อง
“เข้ามาทำอะไร”
“เค้กก็แค่อยากคุยกับพี่ภาวิชญ์”
“เราคุยกันไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องคุยอีก”
“พี่ครีมกำลังจะกลับมาเมืองไทยค่ะ”
เขาหันหลังให้เธอ และได้ยินเต็มสองหู เมื่อเห็นว่าภาวิชญ์นิ่งไป เค้กก็รีบพูดต่อ
“เค้กรู้ค่ะว่าไม่ควรพูด แต่ว่าพี่ภาวิชญ์ไม่อยาก… เอาคืนพี่ครีมบ้างเหรอคะ เรื่องนี้เค้กช่วยพี่ภีมได้นะคะ”
เธอเดินเข้ามากอดเขาจากด้านหลัง ภาวิชญ์ดึงแขนเธอออกและสลัดอย่างแรง
"โอ๊ย! พี่…"
“เรียกฉันว่าภาวิชญ์ ฉันไม่เคยอนุญาตให้ใครเรียกด้วยชื่อนี้ได้”
"แต่ว่าเค้กคิดว่า เรื่องนี้เค้กช่วยพี่ได้"
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องการ เรื่องที่ผ่านมาไม่มีค่าอะไรกับฉัน”
“พี่แน่ใจเหรอคะ! ว่าลืมพี่สาวของเค้กได้ ทำไมพอบอกว่าเธอจะกลับมา พี่ก็นิ่งไปเลยล่ะ พี่โกหกนี่”
“เค้ก! พอเสียที อย่าให้ฉันหมดความอดทนกับเธอมากกว่านี้ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกจะดีกว่า เพื่อตัวเธอเอง”
“พี่ไม่สนใจจริง ๆ เหรอ ถึงพี่ครีมจะกลับมา พี่แน่ใจเหรอคะ ว่าจะไม่หวั่นไหวกับเธอ”
“ทำไมฉันต้องสนใจผู้หญิงสำส่อน ที่อ้าขาให้เงินแบบนั้นด้วย ผู้หญิงแบบนั้น ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับฉันเลยสักนิด เธอเองก็เหมือนกัน หัดทำตัวให้สมกับคำว่าดาวคณะสักหน่อยเถอะ อย่าให้ใครพูดลับหลังได้ว่า “พี่กับน้อง…ง่ายพอกัน” เธอก็รู้ว่าที่นี่ไม่เหมาะกับผู้หญิง”
“พี่ภีม!”
ภาวิชญ์กระชากเธอออกไป และปิดประตูห้องเปลี่ยนชุดของเขาเสียงดัง เค้กที่ยืนอยู่นอกประตู รีบเดินออกมาจากตรงนั้นทันที หลายคนเริ่มมองหน้าเธอ เค้กจดจำความอับอายครั้งนี้เอาไว้แล้ว
“พี่ภีม ยังไงเค้กก็ไม่มีทางยอมแพ้ ไม่ว่าพี่ครีม หรือว่าผู้หญิงหน้าไหน ก็ไม่มีทางแย่งพี่ไปจากเค้กได้”
วันถัดมา / บ้านของอันตรา
“อัน แม่เข้าไปได้ไหม”
“ค่ะแม่”
“อันตรา” ลูกสาวคนเล็กของคุณ “นิลญา” และคุณ “เสกสรรค์” เจ้าของโครงการหมู่บ้าน และคอนโดหลายแห่งในกรุงเทพ ฯ วันนี้เป็นวันที่พ่อแม่ของเธอ จะพาไปทานข้าวกับเพื่อนสนิทของคุณพ่อ ซึ่งเดินทางมาจากระยอง
“ลูกสาวแม่สวยจริง ๆ ไหนดูสิ”
“แม่คะเอาอีกแล้ว นี่อย่าบอกนะคะ ว่างานเลี้ยงในวันนี้มีเลศนัย”
“จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ ลูกยังจำคุณป้า “วิชุดา” กับคุณลุง “ภาษิต” ได้ใช่ไหม เจ้าของท่าเรือส่งสินค้าที่ระยอง”
“ป้าวิเหรอคะ เคยเจอในงานเลี้ยงเปิดตัวคอนโดย่านทองหล่อ”
“ใช่ ๆ คนนั้นแหละ เอาล่ะเรียบร้อยแล้วก็รีบไปเถอะ ให้พวกเขารอนานไม่ดี”
“ต้องรีบขนาดนี้เลยเหรอคะแม่ นี่พึ่งจะหกโมงครึ่งเอง”
“ลูกก็รู้ว่ารถในกรุงเทพติดขนาดไหน ออกเร็วหน่อยไม่เป็นไรหรอก ไปก่อนก็ดีจะได้ไม่เสียมารยาท”
“นัดที่โรงแรม K ที่นี่…”
“ใช่จ้ะ ของคุณลุงภาษิต คุณลุงกับคุณพ่อกำลังจะร่วมมือกันสร้างคอนโดหรูในกรุงเทพ ลูกก็รู้ว่างานนี้เป็นงานใหญ่”
“ค่ะ ทราบแล้วค่ะ ยิ้มแบบธุรกิจ”
“เอาน่า รีบไปกันเถอะ”
อันตราไม่ได้ถามอะไรอีก เธอมักจะต้องออกงานแบบนี้ กับพ่อแม่อยู่บ่อย ๆ เพราะแม่เธอมักจะบอกว่า หลังจากที่อันเรียนจบแล้ว ก็ต้องมาช่วยพ่อกับแม่ทำงานที่บริษัท การรู้จักคนเยอะ ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอ ซึ่งอันตราไม่เคยปฏิเสธ
โรงแรม K
โรงแรมหรูใจกลางเมืองหลวง ซึ่งเธอเคยมาที่นี่แค่สองครั้ง เพราะคุณแม่มักจะใช้ที่นี่ จัดงานเลี้ยงรับรองลูกค้าระดับสูง เธอมาช่วยดูแลแขก และเป็นประชาสัมพันธ์ให้กับแขกในงานไปด้วยในตัว
เมื่อเดินเข้าไป ก็พบว่าอีกฝ่ายยังมาไม่ถึง พวกเขาพักอยู่ที่โรงแรมนี้เหมือนกัน แต่นิลญาไม่ได้ใส่ใจ เพราะพวกเธอมาก่อนเวลานัดถึงครึ่งชั่วโมง
“อันขอเดินไปสูดอากาศหน่อยนะคะแม่”
“อย่ามาช้าล่ะ เดี๋ยวคุณลุงภาษิตกับป้าวิชุดาจะมาแล้ว”
“รู้แล้วค่ะแม่ อันก็แค่จะไปเข้าห้องน้ำ”
“รีบไปเถอะ”
เธอเดินออกมาทันที ดูเหมือนว่าวันนี้ เธอจะหลงกลพ่อกับแม่เข้าให้แล้ว เพราะการที่มาโรงแรม และจองห้องส่วนตัวเอาไว้แบบนี้ คงไม่ใช่การคุยธุรกิจธรรมดาแน่นอน
อันตราต้องการปรับอารมณ์ จึงไปนั่งในห้องน้ำ สักพักจึงเดินออกมา และต้องสะดุดกับคนที่เจอหน้าห้องน้ำ เขาคือ “ภาวิชญ์” รุ่นพี่คณะวิศวะ ที่อยู่มหาลัยเดียวกันกับเธอ แต่อันตราไม่ได้หยุดทักเขา แม้ว่าอีกฝ่ายจะมองหน้าเธอก็ตาม
“เดินตามมาทำไมเนี่ย”
อันตราในชุดเดรสสีอ่อนที่เข้ารูปสีน้ำเงิน ผูกผมยกหางม้าสูง อวดคอระหงที่เนียนขาว สวมเครื่องประดับที่ผมเล็กน้อย แต่ราคาแพง ทำให้ภาวิชญ์นึกสะดุดตา เมื่อเห็นเธอทันที อันตรารีบเร่งฝีเท้า จนมาหยุดที่หน้าห้องส่วนตัว ภาวิชญ์เองก็หยุดเหมือนกัน
“ขอโทษนะคะ คุณเดินตามฉันมาทำไม มีธุระอะไรเหรอคะ”
ภาวิชญ์มองเธอหัวจรดเท้า และส่งยิ้มเหยียดมาให้ เขาไม่ตอบแต่กลับเดินมาเปิดประตูตัดหน้าเธอ ซึ่งอันตราที่ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจากเขา ก็รู้สึกวูบวาบในช่องท้องทันที และก็ได้ยินเสียงคนในห้องร้องทัก
“อ้าวภีมมาพอดีเลย แม่กำลังจะโทรตามอยู่เชียว เร็ว ๆ เข้ามาทักทายคุณอาเสกสรรค์ กับคุณน้านิลญาก่อน”