บทย่อ
เขาไม่ชอบเธอเพราะไม่ใช่สเปก เธอไม่ชอบเขาเพราะความเจ้าชู้ จากคู่หมั้นที่พ่อแม่จัดหาให้ กลายเป็นคนที่ทำให้หัวใจว้าวุ่น จนตามติดเธอไปทุกที่ ดูแลทุกเวลา "นั่นแฟนนายเหรอ" "ไม่ใช่แฟน เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน" เรื่อง หลงกลรัก คู่หมั้นวิศวะ (อันตรา & ภาวิชญ์) เซต หลงกลรัก (เรื่องที่ 2) "อันตรา" เด็กเนิร์ดคณะมนุษยศาสตร์ ปี 2 เรียบร้อย พูดน้อย เรียนดี ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น "ภาวิชญ์" หนุ่มหล่อคณะวิศวะปี 4 เขาเป็น 1 ใน จตุรเทพคณะวิศวะ ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ ชอบผู้หญิงอายุมากกว่า ไม่ชอบผูกมัด ฉลาด แต่แพ้น้ำตาผู้หญิงอย่างอันตราที่สุด ""อะไรนะ หมั้นเหรอคะ / ครับ"" นั่นเป็นสิ่งที่พ่อแม่ของทั้งคู่จัดการเอาไว้ แต่เธอไม่ยอมและไม่มีทางยอม เพราะภาวิชญ์เจ้าชู้มาก และเธอก็พึ่งจะได้ยินเขา ทำอะไรบางอย่าางกับผู้หญิง ส่วนเขา ผู้หญิงอย่างอันตรา อย่าว่าแต่ชอบเลย เธอห่างไกลคำว่า "สเปก" ของเขามาก.... ทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะบอกพ่อแม่ ว่ายังไม่อยากหมั้น แต่ในวันนั้น จู่ ๆ คนที่เป็นรักแรกของเขา กลับปรากฏตัว “พี่ภีม ทำไมถึงมาที่นี่ได้ละค่ะ แล้วผู้หญิงคนนี้คือใคร” “น้องอัน นี่รุ่นน้องคณะพยาบาลชื่อเค้ก กับพี่สาวของเธอ ส่วนคนนี้คืออันตรา เธอเป็น “คู่หมั้น” ของผม” หลังจากตกกะไดพลอยโจน เธอกับเขาจึงต้องเป็น "ว่าที่คู่หมั้น" กันนับจากวันนั้น เมื่อคอยดูแลเธอ เขาก็เริ่มรู้ว่า อันตราไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คิด ยิ่งนานวัน ยิ่งอยากอยุ่ใกล้ อยากดูแล จนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้น.... ฝากติดตามความรักของอันตรา กับ ภาวิชญ์ ด้วยนะคะ คู่นี้เป็น 1 ในนิยายเซต "หลงกลรัก" ของไรต์เอง ตามไปดูความละมุน ความคลั่งรักของพวกเขาได้เลยค่ะ ทุกเรื่องสามารถอ่านแยกกันได้ แต่เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะนำให้อ่านทุกเรื่อง เริ่มจากเรื่องของ "หลงกลรัก วิศวะข้างห้อง"
ตอนที่ 1 ภาวิชญ์ Vs อันตรา
คณะวิศวะ
“โชคร้ายจริง ๆ ทำไมต้องโดนใช้เอาของมาเก็บให้อาจารย์ด้วยนะ”
“เอามานี่เถอะ รีบกลับไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวเราเอาไปเอง”
“จะดีเหรออัน ไปด้วยกันเถอะ”
“ไม่เป็นไร พอดีเราจะแวะไปที่นั่นอยู่แล้ว อีกอย่างของแค่ซองเดียวเอง นุ่นกลับไปก่อนเถอะ”
“งั้นเราไปก่อนนะ ขอบใจมากนะอัน”
“รีบไปเถอะ”
“อันตรา” นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ปีสอง เธอและเพื่อนในคลาส ถูกอาจารย์ใช้ ให้นำเอกสารมาส่งที่คณะวิศวะ ซึ่งอยู่ห่างจากคณะของเธอพอสมควร อันตราเป็นคนเงียบขรึม เด็กเนิร์ดที่เรียนดี เป็นที่รักของอาจารย์ ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไร อาจารย์ก็มักจะวานเธอบ่อย ๆ เพราะความมีน้ำใจ อันตราจึงไม่ค่อยปฏิเสธ
“ห้องไหนนะ อ้อ ห้องนี้เอง”
เธอเปิดเข้าไป และนำเอกสารไปวางบนโต๊ะของอาจารย์ ที่แจ้งอยู่หน้าซอง และกำลังเดินออกจากห้อง ก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ตรงสุดทางเดิน
ปึง!
เสียงเหมือนประตูกระแทกกับอะไรสักอย่าง เธอจึงเดินไปดูใกล้ ๆ แต่ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่ ก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ลอดออกมา ซึ่งเป็นเสียงเหมือนคนกระซิบกันอยู่ข้างใน ประตูสั่นอีกครั้งพร้อมกับเสียง
“อย่านะคะ ไม่อย่างนั้นเค้กจะ…อ๊ะ! พี่ภาวิชญ์!”
“ภาวิชญ์” เธอคุ้นกับชื่อนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะใช่คนที่เธอรู้จักหรือเปล่า เขาเป็นหนุ่มหล่อของคณะวิศวะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ "จตุรเทพคณะวิศวะ" ที่โด่งดังไปทั้งมหาลัย
แกร๊ก!
อันตราตกใจ จนทำของในมือเธอตก จึงรีบโกยทุกอย่างตรงหน้า และวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที โดยที่ไม่คิดว่าในวันนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องวุ่น ๆ ระหว่างเธอกับเขา….
“AUN กรุ๊ป…. โลโก้นี้คุ้นตามากเลยแฮะ”
“พี่ภาวิชญ์คะ เรายังคุยกันไม่จบ”
“จบไปแล้ว บอกให้ไปให้พ้น อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก”
“ไม่ค่ะ! ทำไมคะ พี่ยังไม่ได้บอกเลยว่า เค้กสู้พี่ครีมไม่ได้ตรงไหน เค้กเป็นดาวคณะพยาบาล ถึงจะไม่สวยเท่าพี่ครีมแต่ก็เรียนดี และหนุ่ม ๆ คนอื่นก็ตามจีบ ทำไมพี่ถึง…”
“นั่นมันเรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน อีกอย่างก็เลิกเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบได้แล้ว”
“พี่จะไม่มีทางลืมพี่ครีมได้เลยเหรอคะ ทำไมพี่งี่เง่าขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่พี่ครีมแค่หลอกพี่ และสุดท้ายก็หนีไปต่างประเทศกับผู้ชายคนอื่น”
ปัง!!
“โอ๊ย! พี่ภาวิชญ์ เค้กเจ็บนะ”
ภาวิชญ์ทนฟังสิ่งที่ “เค้ก” พูดออกมา มากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว พี่สาวของเธอ “ครีม” เป็นคนรักคนแรกของเขา เธอสวย เซ็กซี่ ทำงานเก่ง เป็นอดีตเลขาพ่อของเขา
จนเมื่อสองปีก่อน ที่เขาจับได้ว่าเธอคบกับผู้ชายอีกคน ซึ่งเป็นนักธุรกิจดังของไต้หวัน เธอเลือกที่จะทิ้งเขาไป พร้อมกับลาออกจากงานที่ทำมาเกือบห้าปี
“อย่าเอาเรื่องนี้มาพูดกับฉันอีก ถ้ายังอยากเรียนที่นี่อยู่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ว่าตำแหน่งดาวกับเกรดเอของเธอ มันได้มายังไง”
“พี่ภูวิชญ์!”
เขามองเธอด้วยสายตารังเกียจ ก่อนจะเดินออกมาทันที และไม่นึกอยากเจอเธออีก เค้กเป็นน้องสาวของครีม เธอพึ่งสอบติดมหาลัยในคณะพยาบาลในปีนี้ ซึ่งเขาพยายามเลี่ยงที่จะไม่พบเธอ แต่เธอเหมือนจะประกาศว่ารู้จักเขา วันนี้ก็ตามเขามาถึงที่นี่ เพื่อนสนิทของเขาเริ่มสงสัย ดังนั้นก่อนที่มันจะบานปลาย เขาจะต้องหยุดไว้ก่อน
คณะวิศวะ
“ไอ้ภีม ทางนี้!”
“ก้องภพ” เพื่อนสนิทของเขา เรียกเขาอยู่หน้าคณะ “ภีม” คือชื่อเล่นของเขา ซึ่งมีไม่กี่คนที่เรียก เพราะส่วนใหญ่ก็จะเรียกติดปากว่าภาวิชญ์ ซึ่งเป็นชื่อจริง
“ไอ้ตะวันบอกว่า โปรเจคจบใกล้เสร็จแล้ว เหลือแค่ส่วนของมึง ใกล้หรือยัง”
“กูส่งให้มันไปตั้งแต่เช้าแล้ว”
“อ้าวเหรอ แหะ ๆ”
“มึงพึ่งมาสินะ”
“นิดหน่อย เมื่อคืนเลิกดึก ก็เลย…”
“มึงไปสนามแข่งมาอีกแล้วเหรอวะ”
“เออ...เฮ้ยนั่น น้องครีม ดาวคณะพยาบาลไม่ใช่เหรอ มาทำอะไรที่นี่ มาหามึงเหรอ”
“มาหาพ่อมึงมั้ง ไม่รู้โว้ย!”
“อ้าวไอ้ภีม มึงจะไปไหนล่ะ”
“ไปหาอะไรสนุก ๆ ทำ มึงจะไปไหม”
“ไปสิวะ เรื่องสนุก ๆ แบบนี้กูไม่พลาดอยู่แล้ว ว่าแต่มึงจะไปไหน”
“ร้านกาแฟ”
“ห๊ะ!”
ร้านกาแฟ
ร้านนี้อยู่หน้ามหาลัย ซึ่งอยู่ใกล้คณะวิศวะของเขา ภาวิชญ์ต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง ก็เลยอยากไปที่นั่น ซึ่งเขาเคยเจอเธอและเพื่อน ๆ ไปนั่งเป็นประจำ ไม่ใช่ว่าพวกเธอชอบใครที่คณะของเขาหรอก แต่ร้านนี้กาแฟอร่อยและบรรยากาศดี พวกเธอจึงชอบมา
“สาว ๆ เพียบเลยว่ะ อ้าวนี่มึงจะไปไหน ไม่นั่งเหรอ ทำไมเลือกนั่งโต๊ะหลืบนั้นทุกทีเลยวะ ไอ้ตะวันก็ชอบไปนั่งโต๊ะนั่นประจำเลย”
“เงียบหน่อย ไปสั่งกาแฟไป”
“กูทุกทีเลย เอาอะไร เหมือนเดิมไหม คาปูร้อน”
“อืม”
ก้องภพเดินไปสั่งกาแฟ ในบรรดาเพื่อนสี่คน ภาวิชญ์สนิทกับก้องภพมากที่สุด เพราะพวกเขาชอบแข่งขันความเร็ว สนามแข่งรถยนต์ เป็นที่ประจำของพวกเขา พ่อของก้องภพเป็นนักการเมืองชื่อดัง และตอนนี้ยังมีตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีอีกด้วย แม้ว่าตะวันเพื่อนของเขา จะมีธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู แต่ตะวันไม่ได้ชอบแข่งรถ เหมือนพวกเขาสองคน
“กาแฟมาแล้ว”
ก้องภพเอากาแฟมาวาง ระหว่างที่นั่งคุยกันเรื่องสนามแข่ง เป้าหมายของเขาก็เดินเข้ามา ดูเหมือนว่าวันนี้ พวกเธอจะมากันครบสี่คน ซึ่งเขาคุ้นกับรุ่นน้องกลุ่มนี้ดี เพราะเหมือนว่าเพื่อนของเขา จะชอบมองหนึ่งในกลุ่มพวกเธอเอาไว้ เพียงแต่ว่าเธอคนนั้น… มีแฟนแล้ว
“จริงเหรอ แล้วแกจะเอาไงต่อมะปราง”
“ฉันตัดสินใจแล้วว่า จะย้ายออกมาทันที แต่ตอนนี้ยังหาห้องไม่ได้”
ภาวิชญ์นั่งเงียบ ก้องภพซึ่งมองแต่สาว ๆ ในร้านไม่ได้ตั้งใจฟัง เขาเหมือนกำลังดูอะไรบางอย่างที่มือถือ และยื่นให้ภาวิชญ์ดู
“ดูนี่ คืนนี้มีแข่ง เดิมพันน่าสน ไปไหม”
“คืนนี้ไม่ไป มีธุระ”
“เชี่ย! ถ้ามึงไม่ไปก็น่าเสียดายนะโว้ย น้องครีมก็ไปด้วย นั่นระดับดาวคณะเลยนะ”
“แล้วไง”
เขามองไปที่กลุ่มนักศึกษาหญิงอีกโต๊ะหนึ่ง แต่พวกเธอไม่เห็นพวกเขา เพราะมัวสนใจเรื่องของเพื่อนอยู่ ดูเหมือนว่าจะมีคนหนึ่ง ที่กำลังวนหาของอยู่ จนเพื่อนอีกคนของเธอถามขึ้นมา
“ไอ้อัน มึงเป็นอะไรเนี่ย เห็นหาอะไรอยู่พักใหญ่ละ”
“ฉัน... เหมือนจะทำปากกาที่พ่อให้หายไปน่ะ”
“อะไรนะ แล้วไปตกที่ไหน นึกดี ๆ สิ”
“ช่างเถอะ คงหล่นที่หอสมุดละมั้ง แค่ปากกาด้ามเดียวช่างมัน เอาไว้ไปขอด้ามใหม่ก็แล้วกัน ว่าแต่มะปรางเถอะ ตอนนี้เรื่องนี้สำคัญกว่านะ”
พวกเธอหันไปสนใจเพื่อนสนิท ภาวิชญ์นั่งฟังจนพวกเธอได้กาแฟ และพากันเดินออกไป ก้องภพรับสาย เขาจึงเดินออกไปคุยด้านหลังร้าน ภาวิชญ์ล้วงกระเป๋าและเอาปากกาด้ามทอง ซึ่งมีสลักชื่อและโลโก้ของบริษัทที่คุ้นเคยขึ้นมาดู
“ใช่เธอจริง ๆ ด้วยสินะอันตรา… แค่ชื่อก็น่าแกล้งแล้ว น้องอัน…”
ภาวิชญ์ไม่ลืมที่จะดึงมือถือของเขาออกมา และกดโทรหาเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง เสียดายวันนี้ที่เขาไม่ได้มาด้วย แต่เรื่องนี้ภาวิชญ์คิดว่า “ตะวัน” คงสนใจไม่น้อย
“ว่าไงวะไอ้วิชญ์ มีอะไรถึงโทรหากูตอนนี้”
“มึงยุ่งอยู่เหรอ”
“เปล่าหรอก กำลังจะไปบริษัทพ่อน่ะ โดนเรียกตัวด่วน มึงอยากหารถใหม่ไปแข่งเหรอถึงโทรหากู”
“เปล่า กูคิดว่ามีเรื่องบางอย่าง ที่มึงน่าจะสนใจมากกว่ารถ เรื่องของน้อง “มะปราง” คณะมนุษย์ที่มึงเคยบอกว่ายิ้มสวยคนนั้น จำได้ไหม”
