บท
ตั้งค่า

บทนำ

‘เจ้าสัวมานพ สินสมุทร เจ้าของกิจการเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจ………’

เสียงข่าวจากโทรทัศน์เครื่องเล็กตรงหน้าทำให้ฉันต้องแหงนหน้าขึ้นมอง ในจอสี่เหลี่ยมปรากฏภาพชายสูงวัยหน้าตาใจดี

ในชุดสูทเป็นภาพที่ถ่ายเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ ฉันได้แต่มองแล้วถอนใจอย่างปลง ๆ เช้า ๆ แบบนี้แทนที่จะเป็นข่าวสดใสรับวันใหม่ นี่อะไรดันเอาข่าวคนตายมาอ่านให้ฟัง

ฉันละสายตาจากหน้าจอแล้วมาใส่ใจกับการถ้วยกาแฟหอมกรุ่นยามเช้า กาแฟเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานมากที่สุดรองจากหนังสือ ดังนั้นฉันจึงมุ่งมั่นที่จะมีร้านเป็นของตัวเองให้ได้เริ่มตั้งแต่เก็บเล็กผสมน้อยมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยบวกกับกู้เงินจากธนาคารมาเปิดร้าน Café Library แห่งนี้

ร้านของฉันเป็นตึกแถวสองคูหามีสองชั้น….ชั้นแรกฉันเปิดเป็น Café มุมหนังสือและมุมออฟฟิตเล็ก ๆ สำหรับฟรีแลนด์ที่ชอบทำงานแบบ Outdoor ส่วนชั้นสองเป็นที่พักอาศัย Café Library เปิดมาได้เกือบสามเดือนแล้ว…อย่าถามถึงรายได้เลย มันไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรอก แต่ฉันก็ภูมิใจมากเพราะเป็นร้านที่ฝันอยากมีมาตั้งแต่เด็ก

อย่างที่บอกว่ารายได้ไม่มากนักฉันจึงไม่สามารถจ้างพนักงานได้ งานทุกอย่างตกเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียวในส่วนของมุม Café ไม่มีปัญหาอะไรเพราะฉันเรียนคหกรรมมาเรื่องเครื่องดื่มกับเบอเกอรี่เอาอยู่ แต่เรื่องทำความสะอาดร้านนี่สิเหนื่อยเอาเรื่อง

ดังนั้นทุกเช้าฉันจะลงมาตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะเปิดร้าน แล้วก็เตรียมทำขนมไว้บ้างเพื่อต้อนรับแขก ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าส่วนใหญ่จะเป็นฟรีแลนด์ มีบ้างปะปลายที่ตั้งใจมาอ่านหนังสือบางคนที่มาก็เน้นทานขนมเพราะติดใจในฝีมือสุดอร่อยของฉัน

ไม่ได้อวยตัวเองนะแต่มันเรื่องจริง! ไม่เชื่อดูบนฝาผนังหลังเคาน์เตอร์สิ

‘ประกาศนียบัตรสถาบันกรูเมท์มอบให้…..นางสาวแพรวไพลิน สุรเกียรติ…..’ ใบประกาศนียบัตรของฉันไง การันตีจากสถาบันสอนทำอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกเลยนะ!!

10.00 นาฬิกา

ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดร้าน อากาศด้านนอกกำลังร้อนได้ที่เลยแดดประเทศไทยนี่สุดยอดจริง ๆ ฉันเดินไปขยับป้ายเมนูให้พ้นแสงกระทบจากดวงอาทิตย์ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในร้าน เพื่อลองปรุงกาแฟสูตรใหม่ที่คิดค้นขึ้นเอง

กิ๊งงงง

เสียงพวงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้นนั่นหมายความว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน ฉันเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานให้กับแขกคนแรกของวัน…..

เขาเป็นผู้ชายรูปหล่อร่างสูงใหญ่แต่งตัวภูมิฐาน มือข้างซ้ายถือกระเป๋าเอกสารสีดำอยู่….แสดงว่ามาทำงานนอกสถานที่สินะ เมื่อลูกค้าเดินมาถึงเคาน์เตอร์ฉันจึงเอ่ยต้อนรับ

“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ”

“คุณแพรวไพลินรึเปล่าครับ?” คำถามของร่างสูงตรงหน้าทำให้ฉันแปลกใจ แล้วต้องมองสำรวจการแต่งกายเขาอีกครั้ง….อืมมม เสื้อเชิ้ตสีดำสุดเนี๊ยบที่ดูแล้วน่าจะเป็นของแบรนด์เนม เข็มขัดนั่นก็แบรนด์เนม กางเกงสีดำสุดฟิตนั่นก็ด้วย….ผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะใช่พนักงานจากแบงค์ แล้วอีกอย่างยังไม่ครบกำหนดวันชำระเงินสักหน่อย แล้วชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เป็นใครกันล่ะ?

“ใช่ค่ะ คุณมีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ?” บอกตรง ๆ ว่าไม่ค่อยไว้ใจ ไม่ใช่ว่าไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้านะ เพราะฉันเปิด Café ฉะนั้นในแต่ละวันเจอคนมากหน้าหลายตาอยู่แล้ว แต่กับผู้ชายคนนี้รู้สึกแปลก ๆ ยังไงชอบกล

“คุณได้รับมรดกสามสิบล้าน” เขาพูดพร้อมกับวางกระเป๋าขึ้นมาไว้บนเคาน์เตอร์

แต่เดี๋ยวนะ…. นี่มันเรื่องอะไรกัน ประโยคชวนอึ้งจากผู้ชายแปลกหน้าที่อยู่ดี ๆ ก็มาบอกว่าฉันได้มรดก นี่มันรายการเกมโชว์หรือซ่อนกล้องอะไรรึเปล่าเนี่ย!! เอ๊ะ! หรือว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นพวกมิจฉาชีพมาต้มตุ๋น โถ่คนสมัยนี้มองแต่ภายนอกไม่ได้จริง ๆ เหมือนที่ข่าวออกบ่อย ๆ พวกนี้จะแต่งตัวดูดีเหมือนมีเงินแต่เบื้องหลังเป็นสิบแปดมงกุฎ หลายคนโดนหลอกเสียเงินเสียทองแทบหมดตัว

“มรดกงั้นเหรอ จากใครคะ?” ฉันแค่อยากรู้ว่ามิจฉาชีพแบบเขาจะมาไม้ไหน

“ตระกูลสินสมุทรครับ เจ้าสัวมานพทำพินัยกรรมถึงคุณ” สายตาคม ๆ ที่มองมาแทบจะบาดให้ฉันเป็นแผลไปทั้งตัว แล้วถ้ามองไม่ผิดฉันเห็นเขายกยิ้มเล็กน้อย

เจ้าสัวมานพเหรอ…..เอ๊ คุ้น ๆ เหมือนได้ยินที่ไหน ฉันพยายามนึกเพราะมันคุ้นมากและก็จำขึ้นมาได้ว่าฉันรู้จักชื่อนี้จากข่าวเมื่อเช้า เขากล้าเอาคนตายมาอ้างเลยเหรอเนี่ยตามกระแสใช่เล่น เจ้าของกิจการเดินเรือรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศเนี่ยนะ จะมายกมรดกให้ฉัน….ใครเชื่อก็บ้าแล้ว

“นี่คุณ คนรวยระดับนั้นฉันไม่รู้จักหรอกนะ อยู่ดี ๆ เขาจะมายกมรดกให้ฉันได้ยังไง อย่ามาหลอกเสียให้ยาก” ถึงฉันจะกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินแต่ก็ไม่ได้ขาดสติยั้งคิด

เขาถอนหายใจอย่างหน่าย ๆ ก่อนจะพูด “ผมเป็นทนายความ” หลังจากแนะนำตัวเสร็จชายตรงหน้าก็ยื่นนามบัตรให้ฉันดู

“กริชตฤณ โภคินบริภัทร” ฉันอ่านเบา ๆ ออกแนวพึมพำกับตัวเองมากกว่า

นอกจากชื่อแล้วในนามบัตรระบุไว้ว่าเป็นทนายความของ ‘สินสมุทรกรุ๊ป’ มีเบอร์ติดต่อแล้วก็ที่อยู่ของบริษัท…แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเป็นของจริงรึเปล่า

ฉันเงยหน้าขึ้นแล้วหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจสุด ๆ “ของแบบนี้ใคร ๆ ก็ปลอมได้”

“ลองโทรไปตามเบอร์ในนามบัตรดูก็ได้”

“พวกคุณอาจจะปลอมเบอร์ด้วยก็ได้ อุปโลกน์ว่าเป็นสินสมุทรกรุ๊ป” ก็อย่างพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นข่าวไง พ่วงเบอร์เพื่อหลอกเหยื่อ หึ…ฉันไม่หลงกลง่าย ๆ หรอกนะ

“ทำไมคุณขี้ระแวงจัง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด

“ก็อยู่ดี ๆ ได้มรดกจากคนไม่รู้จัก มันน่าสงสัยมั้ยล่ะคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel