บทที่5
“เดี๋ยวสิ คุณยังไม่ได้แนะนำห้องนอนให้ผมรู้จักเลย” เขาตะโกนตามหลังฉัน
“ก็พาไปดูแล้วไง คุณจำไม่ได้เหรอ?”
“ผมหมายถึงห้องนอนคุณต่างหาก” นี่ตกลงเขาจะไม่เลิกกวนฉันใช่มั้ย?!
คนยียวนเดินมากวนประสาทอย่างไม่ลดละ
“คุณจะมาดูห้องฉันทำไม!”
“ก็เผื่อคุณอยากได้คนนอนเป็นเพื่อน…”
คำพูดของเขาแทบจะปลิวลอยไปกับสายลมเพราะใบหน้าหล่อเหลาที่เคลื่อนมาใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน ทำเอาฉันลืมหายใจไปชั่วขณะอยู่ดี ๆ ใจก็กระตุกแรงด้วยสาเหตุอะไรฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ฉันรู้แต่ว่าไม่อาจละสายตาไปจากริมฝีปากหนาสีแดงระเรื่อตรงหน้าได้เลย ฉันสะบัดศีรษะเบา ๆ เพื่อไล่ความคิดพิลึกพิลั่นออกจากหัวแล้วรีบถอยออกห่างทันที
“บะ บ้า ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว!”
กริชตฤณ!! คนบ้า!! เขาเป็นผู้ชายอันตรายที่จ้องจะคุกคามฉันตลอดเวลา คิดผิดมั้ยที่ตอบตกลงให้เขามาอาศัยอยู่ด้วย นอกจากคำพูดที่ชวนคิดลึกแล้วเขายังชอบทำสีหน้าท่าทางกรุ่มกริ่มเหมือนฉันเป็นเหยื่ออันโอชะรอให้เขาขย้ำขยี้อยู่บนเตียง!!
“แพรว…..”
ผมร้องเรียกแล้วนั่งลงข้าง ๆ คนขี้เซาพร้อมกับเขย่าตัวเบา ๆ เพื่อให้รู้สึกตัว แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะหลับลึกเหลือเกิน ที่ผมเข้ามาในห้องเธอตอนนี้ก็แค่จะมาบอกว่า ‘ผมจะออกไปทำงานแล้วนะ’
“แพรวตื่น” ผมเรียกเธออีกครั้งและเขย่าแขนเธอเพื่อให้รู้สึกตัว
“อื้ออ” คนขี้เซาเพียงแค่ครางรับแต่ไม่คิดที่จะลืมตาขึ้นมาดู
ผู้หญิงคนนี้รู้ทั้งรู้ว่ามีผู้ชายแปลกหน้ามาอาศัยอยู่ด้วย แทนที่จะระวังตัวแต่นี้กลับปล่อยให้ผมเข้าหาอย่างง่ายได้แบบนี้เขาเรียกจงใจอ่อยรึเปล่า?
ฟู่วว
อ๊ะ..!!
ผมจงใจเป่าลมเบา ๆ ที่ใบหูของเธอ…แพรวตอบสนองด้วยการร้องครางและเอามือขึ้นปิดหูทันที ร่างเล็กค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองอย่างงัวเงีย
“คะ คุณ!....คุณกริช!! คุณเข้ามาได้ยังไง?!” ทันทีที่เห็นหน้าผมเธอก็ตื่นเต็มตาและเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที
ทั้งสีหน้าที่ตื่นตะหนกกับทรงผมยุ่ง ๆ ในยามเช้าช่างดูเซ็กซี่ยั่วยวนซะจริง ๆ เห็นแล้วอดใจไม่ไหวที่จะแกล้งให้คนตัวเล็กปั่นป่วน ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะมาบอกลาแท้ ๆ
“ก็คุณไม่ได้ล็อคประตู เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ถูกเชิญชวน”
แผนของเธออาจจะใช้กับคนอื่นแต่ไม่ใช่กับผม เล่ห์กลร้อยเล่มเกวียนของสาว ๆ น่ะผมเจอมาหมดทุกรูปแบบ แต่บอกเลยว่าไม่มีใครทำได้เนียนเท่ากับแพรวไพลิน
“คุณเข้ามาทำไม” เธอเอ่ยถามพร้อมทั้งกระชับชุดนอนสีขาวที่เหมือนเสื้อเชิ้ตเข้าหาตัว
“มาหาคำตอบที่คุณไม่ได้กรอก” เมื่อได้ยินประโยคที่ผมพูดเธอก็แสร้งปั้นหน้าระแวงใส่ ผมเลยเขยิบเข้าไปใกล้ชิดเธอมากขึ้น “ผมอยากรู้ว่า….คุณชอบใส่ชั้นในสีอะไร”
“คุณ!” เธอตะโกนใส่ผมพร้อมกับกระชับเสื้อที่ใส่ให้แนบตัวมากยิ่งขึ้น
ซึ่งมันทำให้ผมเห็นว่า’เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน’ ยอดอกสีหวานทักทายผมผ่านเนื้อผ้าบาง ๆ ที่เธอใส่ สิ่งที่เห็นทำให้ผมตื่นตัวขึ้นมาทันที เพลย์บอยอย่างผมผ่านผู้หญิงมาก็มากร่างกายเปลือยเปล่าของสาว ๆ ผมก็เห็นมานักต่อนัก แต่ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้ผมอยากจะเข้าไปสัมผัสได้มากเท่าครั้งนี้
“ที่แท้…คุณก็ไม่ชอบใส่นี่เอง” สายตาผมจับจ้องอยู่ที่หน้าอกคู่สวยไม่วางตา
แพรวก้มลงสำรวจตัวเองแล้วร้องอุทานอย่างตกใจก่อนจะดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาปิดไว้ แต่ด้วยเพราะผ้าห่มของเธอมันไปกองอยู่ด้านข้างหมดจึงเผยให้เห็นขาอ่อนขาวนวลเนียน
ต้องยอมรับเลยว่าเธอคือสุดยอดปรมาจารย์ด้านการอ่อย แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาปิดนู้นปิดนี่ แต่ก็มีของดีโผล่มาให้ดูตลอด ซึ่งผมไม่เคยเห็นใครอ่อยเนียนเท่านี้มาก่อนเลยและแน่นอนว่ามันมีผลต่ออวัยวะใต้สะดื้อของผมด้วย!
ในเมื่อเธอชวนเชิญขนาดนี้ผมก็ไม่ขัดศรัทธา
“อะ ออกไปเลยนะ” เธอเอ่ยปากไล่เมื่อเห็นผมคืบคลานเข้ามาใกล้
ช่างเป็นกลยุทธที่ปลุกอารมณ์ได้ดีจริง ๆ มันเหมือนกับว่ายิ่งต่อต้านก็ยิ่งอยากได้ เธอมีวิธีสร้างมูลค่าให้ตัวเองแบบแนบเนียน ไม่แปลกเลยที่เจ้าสัวหลงถึงขึ้นยกมรดกให้
“คุณอยากให้ผมอยู่ต่อ…เชื่อสิ”
.อ๊ะ!
เธอร้องอุทานเมื่อลงมาอยู่ใต้ร่างผม…กลิ่นตัวหอม ๆ ของคนตัวเล็กปลุกปั่นอารมณ์ให้ผมอยากสัมผัสเธอมากขึ้น เนื้อตัวเธอสั่นสะท้านเมื่อโดนลูบไล้ ใบหน้าสวยหวานกำลังตื่นตระหนกกับการคุกคามที่ไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากอวบอิ่มเม้นเข้าหากันแน่นซึ่งสำหรับผมมันหมายถึงการท้าทายให้ลองลิ้มชิมรส
“อื้อออ”
คนใต้ร่างทำได้แค่ส่งเสียงร้องในลำคอเพราะปากอวบอิ่มของเธอโดนริมฝีปากร้อน ๆ ของผมทาบทับไว้จนมิด อื้มมม…เธอหวานละมุมเหมือนเหล้ารัมชั้นดีที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ผมส่งเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปตักตวงความหวานเพิ่มเติมในโพรงปากอ่อนนุ่ม
เธอเลิกต่อต้านแล้วตอบรับสัมผัสของผมด้วยการโอบรัดที่ต้นคอ ความหวามไหวทำให้เธอจิกเล็บลงมาเป็นระยะ ๆ แต่นั่นไม่ทำให้ระคายผิวเลยสักนิดตรงกันข้ามกลับกระตุ้นความต้องการของผมให้มากขึ้นไปอีก เมื่อเธอเริ่มจูบตอบผมก็ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงมากขึ้น เรียวลิ้นเล็กเกลี่ยกวัดอย่างเงอะงะความไร้เดียงสาที่เธอแสดงออกมาปลุกปั่นผมจนเมามัว
