บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 สลัดทิ้ง

“อย่าลืมไปจัดการให้เรียบร้อยอย่าให้มากวนใจฉันอีก” คลินท์สั่งคนสนิทที่เดินตามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่ราเนียมาก่อกวนการทำงานของพนักงานเพื่อให้ตามหาเขาทั้งที่เขายกเลิกนัดเธอไปแล้วจะว่าเขาใจดำก็ได้แต่ข้อตกลงมันมีว่าต่างฝ่ายแลกเปลี่ยนความสุขกันและเขาก็ให้ของขวัญหากใครอยากได้อะไรเมื่อทำให้เขาพอใจคลินท์ก็ให้เยอะแต่คนไหนที่ทำตัวน่ารำคาญก็แค่ครั้งเดียวจบไม่มียืดเยื้อก่อนจะไปต้องรับลูกค้าวีไอพีที่มาเสี่ยงโชคในคืนนี้

เวลาผ่านไปสี่ปี

รัตติยากรและเพื่อนๆเรียนจบปริญญาตรีตามที่ได้ตั้งใจไว้วันนี้จึงชักชวนกันมาจัดปาร์ตี้ที่ไร่คุณยายก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านและหาที่เรียนต่อจะเจอกันอีกครั้งก็ตอนรับปริญญา

“ยัยริมาแกได้อะไรบ้างเนี่ย อี้ ไม่เอาอ่ะแกมันน่ากลัวมากนะ” เมษยาเบ้หน้าแล้วขนลุกเมื่อเห็นเพื่อนกำลังคีบกั้งตัวโตราคากิโลเป็นพันดิ้นดุ้กดิ๊กใส่ถุง เมษยา พฤกษาเวช สาวห้าวท่าทางการแต่งตัวเหมือนทอมบอยแต่เธอยืนยันว่าเป็นผู้หญิงไม่ได้พิศสมัยเพศเดียวกันเป็นหลานสาวเจ้าของThe BangKoK Skyตึกสูงเสียดฟ้าสถานที่ที่ทำให้พ่อแม่ของรัตติยากรเลิกกัน พวกเธอรู้จักกันตอนเรียนมัธยมปีที่หนึ่งโรงเรียนสตรีชื่อดังที่ลูกท่านหลานเธอและลูกเศรษฐีมีเงินมาเรียน

“แกก็หลบไปสิยะยัยเมย์จะมาดูทำไม ท่าทางก็ออกจะแมนแต่ทำไมกลัวกั้งล่ะยะ เนื้อมันอร่อยพอๆกับกุ้งมังกรเลยนะแก คิกๆคิกๆ” สิริมาตอบเพื่อนแล้วชูกั้งตัวใหญ่เนื้อแน่นที่อยู่ในตูกระจกที่จับเป็นๆขึ้นมาใส่ถุงยื่นให้เพื่อนดูแล้วหัวเราะชอบใจ สิริมา จันทรเดชา สาวสวยตาคมผมยาวลูกผสมแม่เป็นคนใต้พ่อเป็นคนสุพรรณพูดเหน่อหน่อยนิดหน่อยรู้จักกันตอนเรียนปีหนึ่งเป็นทายาทโรงแรมดังที่สุพรรณและคุณปู่ก็เป็นนักการเมืองชื่อดังของเมืองสุพรรณ

“ไม่เอาอ่ะ ฉันไปดูปลาดีกว่า” เมษยาชอบกินปลาเหมือนรัตติยากรจึงเดินดูอาหารสดในซุปเปอร์มาเก็ตของห้างดังมีหนุ่มหล่อเข็นรถให้

“เราว่าพวกเธอแยกกันซื้อดีมั้ย เมย์ ริมา ให้เราเข็นรถตามมันเวียนหัวว่ะ” ภูพิงค์ ณ.เมืองแมน หนุ่มหล่อเชื้อสายจีนยูนานที่ปู่อพยพมาจากยูนานมาตั้งรกรากสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่เชียงแสนและแต่งงานกับสาวชาวไทยเมื่อก่อนปู่เขาปลูกฝิ่นและปลูกผักขายตอนหลังถูกทางการกวาดล้างจึงหันมาปลูกกาแฟเพราะส่วนมากจะปลูกชากันเยอะปู่ของภูพิงค์จึงเลือกปลูกกาแฟทำให้ตอนนี้เมล็ดกาแฟของไร่ ณ.เมืองแมน มีชื่อเสียงมากที่สุดและส่งขายทั่วประเทศตอนนี้พ่อของเขาเป็นผู้ดูแลต่อจากปู่ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็กเพราะติดฝิ่น

“เออๆ งั้นนายไปกับริมาละกัน” เมษยาบอกเพื่อนทั้งสองเพราะเธอชอบเดินเลือกของเองมากกว่า

“ก็ได้ ซื้อเสร็จแล้วก็ไปหาลูกหว้าและอุ้งอิ้งเลยนะ” สิริมาพูดจบก็เดินไปกับภูพิงค์

รัตติยากรเข็นรถที่มีน้ำอัดลมและเครื่องดื่มประเภทสปายไวน์คูลเลอร์และบาคาดี้ที่มีแอลกอฮอล์น้อยไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินพวกเธอช่วยกันแชร์กันซื้อของไปทำกินกันเองและขออนุญาติคุณยายแล้วแต่ตัวท่านไม่อยู่ไปทำบุญที่อินเดียกับหม่อมยายอุ๋มและกลุ่มเพื่อนของท่านสิบวันจึงต้องมาเลือกซื้อของกันเอง

“คนละครึ่งนะลูกหว้า” อิงจันทร์ยื่นแบงค์พันให้เพื่อนที่เตรียมจ่ายเงินค่าสินค้าในรถเข็น

“เครจ้า” รัตติยากรรับเงินจากเพื่อนก่อนจะยื่นต่อให้แคชเชียร์เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็ไปยืนรอเพื่อนที่จุดนัดพบเพราะขี้เกียจเดินตามหาเมื่อทุกคนมารวมตัวกันครบก็พากันกลับไปบ้านไร่ขของคุณยายเพ็ญนภา

“เดี๋ยวป้าทำให้ค่ะหนูลูกหว้า” สมพรบอกหลานสาวเจ้านายที่เดินนำเพื่อนหิ้วของพะรุงพะรังมาที่ครัว

“ไม่เป็นไรค่ะป้าพร เดี๋ยวพวกเราช่วยกันทำดีกว่าค่ะ” ทุกคนวางของแล้วยกมือไหว้ป้าพรที่มาเมื่อไหร่ก็มีอาหารแปลกๆมาให้ชิมตลอด

“แล้วจะทำอะไรกันคะวันนี้”

“ทำปิ้งย่างหมูจุ่มค่ะป้าพร พวกเรารบกวนทำน้ำจิ้มให้หน่อยนะคะ” เมษยาเดินไปอ้อนป้าพรลูบแขนจับมือบีบนวดเอาใจแม่ครัวเอกจนป้าพรขำ

“ได้สิคะ จะเอาน้ำจิ้มแบบไหน มีของทะเลด้วยต้องน้ำจิ้มซีฟู้ด กับน้ำจิ้มแจ่วก็แล้วกันนะคะ” ป้าพรมองอาหารสดที่หนุ่มสาวทั้งห้าซื้อมาราวกับจะเลี้ยงคนทั้งไร่

“นี่แหละค่ะที่พวกเราต้องการ ขอบคุณค่ะป้าพร” เสียงขอบคุณดังไปทั่วห้องครัวแล้วทั้งหมดก็ช่วยกันล้างผักล้างอาหารสดทั้งหลายเตรียมพร้อม

“ทำอะไรกันอยู่คะพี่ๆ” ดวงใจหรือนุ่นเพิ่งเลิกเรียนมาถึงก็เห็นรถเพื่อนของพี่ลูกหว้าอยู่ที่ลานจอดก็เดินตามเสียงมาที่ครัว

“มาแล้วเหรอนุ่น นี่เลยเจ้นำเนอ แอ่น แอ้น อาหารเย็นนี้เราจะทำปิ้งย่างหมูจุ่มกันจ้า” สิริมาดึงแขนดวงใจมาดูอาหารสดที่พวกเธอเตรียมไว้

“โอ้โห ทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะคะ” ดวงใจร้องเสียงดังเมื่อเห็นอาหารสดที่วางอยู่ในชามใบใหญ่นับสิบใบอาหารทะเลครบกุ้งหอยปูปลาหมึกและกั้ง บนบกก็มีหมู ไก่ ลูกชิ้น ตับไตไส้พุงครบ ไหนจะผักกะละมังใหญ่

“พวกเรามีเป็นสิบนะยัยนุ่น แล้วนี่พี่ชายเราไปไหนทำไมยังไม่มาเดี๋ยวมันได้อดแน่ๆ” รัตติยากรถามหาน้องชายคนสนิทเธอกลับมาเกือบชั่วโมงแล้วยังไม่เห็น

“ไอ้หนุ่มมันไปดูท่อน้ำแตกในไร่จ้ะหนูลูกหว้าเดี๋ยวคงมา”

“แล้วไป หว้านึกว่ามัวแต่ไปจีบสาว งั้นเดี๋ยวเราย้ายของพวกนี้ไปริมลำธารเลยนะคะ พิงค์นายยกเตาไปและจัดการด้วย เดี๋ยวหว้าจะไปยกเตาไฟฟ้าไปเอง” ลูกหว้าบอกเพื่อนที่รู้หน้าที่กันดีเพราะมากินประจำจนคุณยายให้ช่างมาสร้างซุ้มนั่งเล่นนอนเล่นและโต้ะอาหารไว้ให้หลานสายกับเพื่อนๆมาพักผ่อนและทำการบ้านทำรายงานส่งอาจารย์จนเป็นที่โปรดปรานของเพื่อนๆและอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุดขับรถไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว

“ลงมือกันได้” เสียงของสิริมาดังขึ้นเมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งเตาถ่านเตาไฟฟ้าและน้ำจิ้มที่วางเรียงราบนโต้ะ

“มาเลยครับ ใครจะกินอะไรสั่งหนุ่มมาเลยครับ พี่พิงค์พร้อมนะครับ” หนุ่มรับหน้าที่ปิ้งย่างกับภูพิงค์ที่คีบกุ้ง หมึกปูวางบนตะแกรง

“เครื่องดื่มมาแล้วจ้า” ดวงใจหยิบเครื่องดื่มมาแจกทุกคนรวมทังป้าสมพรลุงต้อยและคนในคนทำความสะอาดบ้านคนใช้ในบ้านคุณยายอีกสามคนที่มาร่วมวงกับหลานสาวเจ้านายและเพื่อนอย่างสนุกสนานอย่างเป็นกันเองทั้งที่เป็นลูกคนมีเงินกันทุกคนแต่ไม่มีใครรังเกียจหรือพูดจาดูถูกคนของคุณยายเลย เสียงกีต้าร์เสียงร้องเพลงดังไปทั่วบริเวรริมลำธารจนสามทุ่มก็หมดฤทธิ์กันด้วยความอร่อยและอิ่มหนำกันทุกคน

“หนูลูกหว้าพาเพื่อนขึ้นไปอาบน้ำนอนกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวของพวกนี้ป้าจะช่วยกันเก็บเองค่ะ” สมพรบอกหลานสาวเจ้านายกับเพื่อนๆที่ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปคงมึนกันไม่น้อยเห็นหน้าแดงกันทุกคน

“หว้ารบกวนป้าพรกับพี่ๆด้วยนะคะ วันนี้คงอยู่ช่วยกันไม่ไหวค่ะ” รัตติยากรมองเพื่อนแล้วยังสงสัยว่าคืนนี้จะมีใครอาบน้ำหรือเปล่าเพราะสภาพแต่ละคนพร้อมจะนอนทันที

“ไปเถอะจ้ะ นุ่น หนุ่มไปส่งพี่เขาหน่อยสิ” สมพรเห็นภูพิงค์ที่นั่งหลับตาจึงคิดว่าไม่ไหวแน่จึงบอกลูกชายให้ไปส่งปกติทุกคนจะดื่มคนละขวดสองขวดเท่านั้นนี่คงจะดีใจที่เรียนจบกันแล้วเลยฉลองกันจนมึนยังดีกว่าไปเมาที่อื่นซึ่งมันอันตราย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel