ตอนที่1
สองสาวพี่น้องยืนมองบ้านหลังหนึ่งที่กำลังจะกลายเป็นบ้านของพวกเธอในไม่ช้า บ้านสองชั้นขนาดกลางตกแต่งสไตล์มินิมอล แต่ราคากลับสูงถึงสิบล้าน
"ว้าว! พี่จันทร์นี่บ้านเราจริงๆ เหรอคะ" ผู้เป็นน้องสาวเขย่าแขนพี่สาวด้วยความตื่นเต้น
"ใช่สิ จะเป็นบ้านใครได้ล่ะ"
"มันไม่แพงไปเหรอคะพี่ ใหญ่กว่าห้องเช่าที่เราเคยอยู่เยอะเลย" เจนจิราทำตาโตด้วยความตกใจ ก่อนหน้านี้เธอกับพี่สาวยังอาศัยอยู่ในห้องเช่าขนาดเท่ารูหนูอยู่เลย แต่มาวันนี้กลับมีบ้านหลังใหญ่เป็นของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ทั้งคู่เป็นพี่น้องที่ถูกครอบครัวแท้ๆ ทิ้งให้อยู่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็ก ทว่าบ้านเด็กกำพร้าที่ภายนอกดูอบอุ่น ใจดี แต่กลับไม่เคยมีใครรู้เลยว่าเด็กที่อยู่ในนั้นโดนทำร้ายสารพัด แถมยังมีการเอาเด็กไปขอทานเพื่อหาเงินอีก ถ้าหาเงินได้ไม่มากพอก็จะต้องอดข้าว จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายปีจารุจันทร์ผู้เป็นพี่ที่โตพอสมควรแล้วจึงได้พาน้องสาวหนีออกมาในที่สุด
แต่การหนีออกมาของทั้งสองคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเธอต้องเริ่มต้นใหม่ โดยที่พี่สาววัยสิบแปดปีเสียสละเป็นคนทำงานเพื่อส่งเงินให้น้องเรียน ในไม่ช้าพวกเธอก็ตั้งหลักได้ จารุจันทร์ที่ค่อนข้างหัวไวจึงเข้าเรียนต่อในหลักสูตรปริญญาตรีจนจบและเข้าทำงานในบริษัทใหญ่ เธอทำงานได้ไม่กี่ปีก็เริ่มมีเงินเก็บ และตอนนี้ยังสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ได้อีกด้วย
"เข้าไปดูข้างในกันเถอะ"
"ข้างนอกว่าสวยแล้ว ข้างในสวยกว่าเยอะเลย" เจนจิราเอ่ยชมไม่ขาดปาก เธอฝันอยากมีบ้านเป็นของตนเองมาตั้งแต่เด็ก แต่เพราะเป็นเด็กกำพร้าความฝันเหล่านั้นจึงหายไป
"ชอบไหม พี่เลือกที่นี่เพราะคิดว่าเจนต้องชอบแน่ๆ" จารุจันทร์หันไปถามน้องสาวซึ่งเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของตนเอง
"ชอบค่ะ! แต่มันแพงมากเลยนะคะพี่จันทร์ พี่เอาเงินมาจากไหน"
"ไม่ต้องห่วงหรอก แฟนพี่เขาช่วยออกให้น่ะ"
"แฟนพี่? คุณชาวินน่ะเหรอคะ"
"ใช่ เขาเป็นคนออกให้ก่อนแล้วพี่ค่อยทยอยจ่ายคืนให้เขาทีหลังน่ะ" จารุจันทร์กำลังคบหาอยู่กับหัวหน้าที่ทำงานของตนเอง น้องสาวอย่างเจนจิรารู้มาตลอดว่าพี่มีคนรัก แต่ไม่เคยรู้เลยว่าทำไมแฟนของพี่ถึงได้รวยจนถึงขั้นซื้อบ้านด้วยเงินสดได้ แถมยังคอยซื้อของแพงๆ มาให้พี่สาวเธออีก
"พี่จะไม่เหนื่อยไปเหรอพี่จันทร์"
"เหนื่อยอะไร สบายมาก บ้านหลังนี้จริงๆ แล้วก็เป็นชื่อของพี่กับเขานะ"
"แล้วเมื่อไหร่พวกพี่จะแต่งงานกันล่ะคะ"
"คงไม่แต่งหรอก ไม่ต้องถามมากแล้วเราน่ะ ไปดูห้องกันดีกว่า" คำถามของน้องสาวทำเอาจารุจันทร์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องทันควัน เธอจะให้น้องรู้ไม่ได้ว่าเธอกำลังแอบคบชู้อยู่กับสามีคนอื่น แถมยังทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยอีกต่างหาก
เมื่อเดินชมรอบบ้านจนหนำใจเจนจิราก็หุบยิ้มแทบไม่ลง เธอดีใจที่ตอนนี้ได้มีบ้านเหมือนอย่างที่เคยฝันแล้ว ได้มีห้องนอนส่วนตัว มีเตียงใหญ่นุ่มและอบอุ่นแค่นี้ก็เกินคาดฝันสำหรับเด็กกำพร้าคนหนึ่งแล้ว
"ว่าแต่ช่วงนี้แฟนพี่ไม่ค่อยมาหาเลยนะคะ เขาไม่ว่างเหรอ"
"อืม เขาติดธุระที่บ้านเขาน่ะ"
"เสียดายจัง น่าจะมากินข้าวที่บ้านเราบ้าง"
"เดี๋ยวถ้าเขาว่างแล้วพี่จะบอกให้นะ แล้วเราเถอะเรื่องเรียนเป็นไงบ้าง"
"จะจบแล้วค่ะ ปีสุดท้ายแล้ว พอเรียนจบเดี๋ยวเจนจะหางานทำช่วยพี่จันทร์หาเงินอีกแรง" เจนจิราเป็นนักศึกษาปีสุดท้าย เธออยากทำงานหาเงินแต่โดนพี่สาวห้ามเอาไว้ก่อนเพราะอยากให้ตั้งใจเรียน เธอจึงขัดความต้องการของพี่สาวที่เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณไม่ได้
"ไม่ต้องหักโหมนักล่ะ" ฝ่ามืออ่อนโยนของพี่ลูบลงบนผมนุ่มของน้องสาวด้วยความเอ็นดู
จารุจันทร์มองหน้าน้องสาวอย่างยิ้มๆ แม้ว่าในใจจะรู้สึกผิดกับน้องไม่น้อยก็ตาม เธอไม่เคยบอกน้องเลยว่าตนเองเป็นเมียน้อยของชาวิน เธอไม่อยากให้น้องต้องผิดหวังในตัวพี่สาวอย่างเธอ แต่ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะอยากหลุดพ้นจากความลำบากที่อดทนมาตลอดหลายปี
"เจนรักพี่จันทร์นะ" เจนจิราเข้ามากอดเอวพี่สาวเอาไว้แน่น เธอมีพี่สาวคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าอะไรเธอก็ยอมได้ทุกอย่างเพื่อพี่
เหตุผลที่เจนจิรารักพี่สาวมากเพราะแม้แต่ครอบครัวแท้ๆ ยังทิ้งพวกเธอไป ในตอนนั้นจารุจันทร์จะหนีไปคนเดียวก็ได้ แต่กลับพาน้องสาวที่ไม่ได้เรื่องเปรียบเสมือนภาระออกมาด้วย หากไม่ได้จารุจันทร์ตอนนี้ชีวิตของเจนจิราจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ เธออาจจะถูกส่งไปขายที่ไหนสักแห่งก็เป็นได้
"พี่จะไม่ทำให้เจนต้องกลับไปลำบากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เชื่อพี่นะ"
"ค่ะ เจนเชื่อพี่"
สองพี่น้องกอดกันกลมในบ้านหลังใหม่ซึ่งเป็นสถานที่แห่งการเริ่มต้นใหม่ของพวกเธอ แต่ไม่มีใครรู้ว่าบ้านหลังนี้คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น
"เนี่ยน่ะเหรอบ้านของนังผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น เล็กจัง หึ!" น้ำเสียงเย้ยหยันของใครบางคนเอ่ยขึ้นในรถคันหรู สายตาจิกมองบ้านขนาดกลางตรงหน้าที่ไม่ได้ครึ่งของบ้านที่เธออยู่เลย
"ครับคุณหนู ให้ผมตรวจสอบบัญชีของคุณชาวินอีกทีไหมครับ" เลขาคนสนิทซึ่งรับหน้าที่เป็นคนขับรถเอ่ยถามผู้เป็นนาย
"อืม ตรวจสอบดูอีกที แล้วติดต่อชาวินได้หรือยัง" หญิงสาวถามถึงคนรักที่จู่ๆ ก็ติดต่อไม่ได้หลังจากตรวจสอบบัญชีบริษัทแล้วพบว่าเขาเป็นคนแอบยักยอกเงินไป
"ยังเลยครับคุณหนู ผมให้คนไปตามหาที่คอนโดก็ไม่เจอ วันนี้ผมจะลองไปอีกทีนะครับ"
"ไม่ต้อง เรื่องนี้ฉันจะให้พี่กันต์เป็นคนจัดการ เราไปกันได้แล้ว" หญิงสาวสวมแว่นตาดำก่อนจะนั่งหลังตรงออกคำสั่งกับคนขับรถด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"ได้ครับคุณหนูกิ่งกานต์"
เรื่องนี้ต้องถึงหูพี่ชายของเธอ คนที่บังอาจมาแย่งคนรักของเธอไปมันต้องเจอดี คนอย่างคุณหนูกิ่งกานต์ไม่จำเป็นต้องจัดการเองให้เปลืองแรง แค่เอ่ยปากบอกพี่ชายคำเดียวทุกอย่างก็เป็นอันจบ
