บท
ตั้งค่า

1 ความรักจางหาย

บทที่ 1

ความรักจางหาย

เสียงช้อนโลหะกระทบกับขอบจานกระเบื้องเนื้อดีดังแผ่วเบา เป็นจังหวะเดียวกับเสียงผู้ประกาศข่าวภาคค่ำที่ดังลอดมาจากโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น ร่างบอบบางของมิลันนั่งอยู่เพียงลำพัง ณ โต๊ะอาหาร เบื้องหน้าของเธอคือเก้าอี้อีกตัวที่ว่างเปล่า...มันว่างมาเนิ่นนานหลายสัปดาห์แล้ว และค่ำคืนนี้ก็ยังคงว่างเปล่าอยู่อย่างนั้น

หญิงสาวค่อยๆ วางช้อนในมือลงอย่างเชื่องช้า ข้าวสวยในจานสีขาวนวลแทบไม่พร่องไปเลยแม้แต่น้อย ความอยากอาหารของเธอเหือดหายไปพร้อมกับความหวังที่ริบหรี่ เธอเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังไม้แกะสลักรูปนกที่เข็มยาวกำลังชี้ตรงเลขเก้า ดวงตาคู่สวยทอประกายความเหนื่อยล้า ก่อนที่ลมหายใจอุ่นจะถูกถอนออกมาเบาๆ ผ่านริมฝีปากที่ซีดจาง

เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความเชื่องช้า เดินตรงไปยังเตาแก๊สเพื่อเปิดฝาหม้อข้าว ปิดเปลวไฟสีฟ้าที่เคยอุ่นกับข้าวเอาไว้ แล้วจัดเก็บทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่อย่างเงียบงัน ไม่มีเสียงกระทบกันของภาชนะ ไม่มีเสียงบ่นพึมพำใดๆ มีเพียงความเงียบที่หนักอึ้งเข้าปกคลุม

อีกด้านหนึ่งของบ้านหลังใหญ่เงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานดังหึ่งๆ เสียงนั้นไม่ได้ช่วยทำให้ความวังเวงลดลงเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งเน้นย้ำความว่างเปล่าที่กำลังกัดกินหัวใจของเธอทีละน้อยในทุกวินาทีที่ผ่านไป

“แม่จ๋า...พายอยากฟังนิทาน” เสียงเล็กๆ ใสๆ ของลูกสาวดังแว่วมาจากห้องนอนเด็กชั้นบน มิลันสะดุ้งเล็กน้อยราวกับเพิ่งตื่นจากภวังค์อันหน่วงเหนี่ยว ก่อนจะฝืนยิ้มที่มุมปากอย่างอ่อนล้า แล้วก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดไม้สักสีเข้มทีละขั้นเพื่อไปยังห้องของลูก

ภายในห้องนอนเด็กถูกตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าอ่อนสบายตา ผนังมีลวดลายเมฆและดวงดาวกระจัดกระจาย ตุ๊กตานุ่มนิ่มหลากหลายขนาดวางเรียงรายอยู่เต็มเตียงนอนขนาดเล็กราวกับกองทัพ เพื่อนตัวน้อยของลูกสาว น้องพายในชุดนอนลายแมวน้อยสีขาวฟูฟ่องกำลังนั่งกอดหมอนตุ๊กตาตัวโปรด ดวงตาคู่เล็กดูง่วงงุนเต็มทีแต่ก็ยังคงพยายามฝืนลืมตาเปิดกว้างเพื่อรอคอยคุณแม่

“แม่มาแล้วค่ะคนเก่ง”

ผู้เป็นแม่ทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงด้วย ความอ่อนโยน มือเรียวลูบเส้นผมนุ่มของลูกสาวเบาๆ แผ่วเบาราวกับกลัวจะไปรบกวนความฝันของเธอในอนาคต

“วันนี้อยากฟังเรื่องอะไรดีคะคนดีของแม่”

“พายอยากฟังเรื่องคุณพ่อหมีที่ดูแลลูกน้อยค่ะ” น้องพายตอบเสียงอู้อี้ ดวงตาฉายแววความไร้เดียงสาอย่างเต็มเปี่ยม

คำตอบนั้นทำให้มิลันนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ลมหายใจสะดุดกึกในลำคอ ก่อนที่เธอจะพยักหน้าอย่างช้าๆ พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้ภายใต้รอยยิ้มที่ดูบางเบา

เธอเอื้อมมือไปหยิบหนังสือนิทานเล่มเดิมที่คุ้นเคยจากโต๊ะข้างเตียง เปิดออกไปยังหน้าที่มีภาพวาดของคุณพ่อหมีกำลังโอบกอดลูกน้อย แต่เมื่อเธอเริ่มอ่านถึงบรรทัดหนึ่ง...เสียงในลำคอของเธอก็เริ่มสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

“คุณพ่อหมีตื่นแต่เช้าตรู่ พาลูกน้อยออกไปเดินเล่นรอบป่าใหญ่ที่เขียวขจี แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่คุณพ่อหมีก็มีความสุขทุกวันเมื่อได้อยู่กับลูกน้อยที่รัก...”

น้ำตาใสๆ เริ่มเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตาคู่สวยของมิลัน ราวกับม่านน้ำบางๆ ที่บดบังทัศนียภาพตรงหน้า แต่เธอพยายามกลั้นมันไว้สุดความสามารถ ไม่ต้องการให้หยดน้ำตาเหล่านี้ไปบดบังรอยยิ้มของ ลูกสาว เธอจูบหน้าผากเล็กๆ ของน้องพายอย่างแผ่วเบา เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน

“แม่รักพายนะคะ...รักมากที่สุดในโลกเลยลูก”

น้องพายยิ้มละไม ดวงตาปรือลงอย่างช้าๆ ก่อนจะพึมพำเบาๆ ด้วยเสียงที่แผ่วลง

“แล้วพ่อรักพายไหมคะแม่...ทำไมช่วงนี้พ่อไม่อยู่เลย...”

คำถามธรรมดาๆ ที่ออกมาจากปากของเด็กน้อยไร้เดียงสา กลับกลายเป็นมีดที่คมกริบ แทงทะลุเข้าไปในใจของมิลันอย่างไม่ทันตั้งตัว มันเป็นคำถามที่เธอเองก็ไม่รู้จะตอบได้อย่างไร

หญิงสาวฝืนยิ้มบางๆ บังคับตัวเองให้กลืนก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอลงไปอย่างยากลำบาก

“พ่อรักพายมากค่ะลูกรัก...แค่พ่อทำงานเยอะไปหน่อยช่วงนี้”

“งั้นแม่โทรหาพ่อให้หนูหน่อยได้ไหมคะ...หนูอยากบอกฝันดี” น้ำเสียงเล็กๆ อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร

มิลันก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม ซ่อนแววตาที่เปียกชื้นและรื้นไปด้วยน้ำตาไว้ไม่ให้ลูกเห็น ภาพของ ความเจ็บปวดฉายชัดในดวงตาคู่นั้น “แม่โทรแล้วค่ะ...แต่พ่อยังไม่รับสายเลย”

ร่างเล็กของน้องพายเริ่มหลับตาลงอย่างช้าๆ ความเหนื่อยล้าจากการเล่นมาทั้งวันบวกกับความอบอุ่นจากอ้อมกอดของแม่ทำให้เธอเข้าสู่ห้วงนิทราในไม่ช้า ส่วนมิลันยังคงนั่งอยู่แบบนั้นข้างเตียง ไม่ยอมขยับไปไหน ราวกับถูกตรึงไว้ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะถอดถอนออกไปจากหัวใจ

มิลันเดินกลับลงมาข้างล่างอีกครั้ง ความเงียบเหงาเข้าปกคลุมทุกย่างก้าว คราวนี้มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบโทรศัพท์มือถือที่เงียบสนิทออกมา เลื่อนหาหมายเลขหนึ่งในรายชื่อโปรดที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แล้วกดโทรออก

เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นซ้ำๆ อยู่เนิ่นนาน...เนิ่นนานจนความหวังเริ่มเลือนหายไปพร้อมกับความเงียบที่กลับมาปกคลุม ก่อนที่มันจะถูกตัดไปในที่สุด

ในห้องทำงานส่วนตัวของคีริน ไฟยังคงเปิดสว่างจ้าท้าทายความมืดมิดของยามค่ำคืน เขานั่งพิงพนักเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่สีดำสนิทอย่างเงียบงัน ดวงตาคมกริบจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ดับสนิทไปแล้วครู่ใหญ่ มือแกร่งข้างหนึ่งกำโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งสั่นเตือนไปเมื่อครู่นี้ไว้แน่น เขามองเห็นชื่อ 'มิลัน' กระพริบหราอยู่บนหน้าจอ แต่กลับเลือกที่จะไม่กดรับสาย

เขาไม่ได้ไม่อยากคุยกับเธอ...แต่เขาไม่รู้จะพูดอะไรออกไปในตอนนี้คำว่า 'รัก'...เขาไม่กล้าพูดออกไปอีกแล้วคำว่า 'ขอโทษ'...เขายังไม่มีความกล้าพอที่จะเอ่ยมันออกมา

ชายหนุ่มรู้ดีรู้ดี...เขารู้ว่าเขาหายไป เขารู้ว่าเขากำลังทำตัวเย็นชา เขารู้ว่าเขากำลังทำร้ายผู้หญิง คนนี้โดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว เขาเห็นเธอร้องไห้ด้วยความปวดร้าว...แต่เขากลับเลือกที่จะเดินหนีออกมาจากสถานการณ์เหล่านั้น

ก็เพราะเขาไม่รู้จะรับมือกับน้ำตาของเธอได้อย่างไร...

และสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเขาคือ...เขาเห็นลูกของเขาเติบโตขึ้นทุกวัน แต่เขากลับไม่เคยรู้เลยว่าวันไหนลูกหัวเราะอย่างมีความสุข วันไหนลูกร้องไห้ด้วยความเศร้า

มือของคีรินกำแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด เสียงในอกดังตึ้บๆ ราวกับหัวใจกำลังจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ แต่แววตาของเขายังคงนิ่งสนิท...เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

ชายผู้ที่เก็บซ่อนทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในใจเพียงลำพังจนทำให้คนที่รัก...ต้องร้องไห้จนเกือบจะหมดรัก

คืนนี้เป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่โต๊ะอาหารยังคงว่างเปล่าไปหนึ่งฝั่งยังคงมีข้าวที่ยังไม่ได้พร่องในหม้อ

และยังคงมีความเงียบที่บาดลึกเข้าไปในหัวใจของทั้งสองคน...ซึ่งทั้งเขาและเธอ...ไม่มีใครกล้าที่จะทำลายมันลงไปเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel