บทย่อ
เธอเคยวาดฝันว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับคนที่เธอรักอย่างมีความสุข แต่แล้วฝันนั้นก็พังทลายเมื่อเธอได้รับรู้ความจริงว่าคุณหมอกำลังจะหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น โสรยาทั้งโกรธทั้งเสียใจ เธอจึงคิดหาทางที่จะเอาคืนให้สาสม ก่อนที่จะหันหลังเดินออกไปจากชีวิตของ...คุณหมอปรมะ
1 คนในความลับ
ตอนที่ 1
คนในความลับ
ภายในโรงพยาบาลที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ลานจอดรถกับเงียบสงบ โสรยานั่งรออยู่ในรถยนต์พร้อมทั้งเปิดเพลงสากลคลาสสิคฟังไปด้วย ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะลงเวรแล้ว แต่เธอเพิ่งมีเวลารับประทานอาหาร
หญิงสาวซื้อแซนวิชสองชิ้นเผื่อใครอีกคน เมื่อเห็นว่าเวลานั้นผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแต่เขายังไม่มา เธอจึงรีบกินอาหารเพราะอีกไม่นานต้องกลับไปทำงานแล้ว
โสรยาเป็นพยาบาลอยู่แผนกศัลยกรรม แม้จะเป็นโรงพยาบาลเอกชนแต่คนไข้ก็เยอะจนแทบไม่มีเวลาพัก หญิงสาวมักจะเสียสละให้เพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ เธอจึงถูกเอาเปรียบอยู่บ่อยๆและมักจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้พักกินอาหาร
“รอนานไหม”
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆประตูรถก็ถูกเปิดออก เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือปรมะ เเฟนหนุ่มของเธอเอง
“ตกใจหมดเลยค่ะคุณหมอ”
หญิงสาวบ่นพร้อมทาบฝ่ามือที่อกข้างซ้าย หัวใจของเธอเต้นแรงเนื่องจากตื่นตระหนกเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่
“พอดีผมรีบ ขอโทษทีนะที่มาช้า”
โสรยาไม่ได้ว่าอะไรเพราะเข้าใจดีว่าแผนกที่ชายหนุ่มประจำอยู่นั้น มีคนไข้มากกว่าแผนกของเธอเกือบสองเท่า อีกอย่างปรมะก็เป็นหมอคนสำคัญของแผนก จะให้ทิ้งงานเพื่อมาหาเธอก็คงไม่ได้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณรีบกินอาหารเถอะ”
หญิงสาวแกะห่อแซนวิชพร้อมกับยื่นแก้วกาแฟที่ละลายจนเจือจางให้ชายหนุ่ม ปรมะไม่เรื่องมาก ตอนนี้เขาหิวจนไส้แทบขาดและต้องรีบทำเวลา เนื่องจากมีคนไข้รออยู่มากมาย
“ผมคงอยู่กับคุณนานไม่ได้เพราะผมต้องรีบขึ้นไป”
ชายหนุ่มกินอย่างเร่งรีบ จนโสรยานั้นต้องบอกให้เขาใจเย็นๆ เพราะกลัวว่าอาหารจะติดคอ
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณค่อยๆกินเถอะค่ะ”
“ผมไม่รีบไม่ได้หรอก วันนี้ไม่มีหมอรับซื้อเวร ผมคงต้องควบยาว”
ชายหนุ่มเอ่ยพลางถอนหายใจ หลังเรียนจบเขาก็ทำงานไม่หยุดพัก แทบไม่มีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเอง ต้องอุทิศชีวิตให้กับคนไข้ที่มาฝากความหวังไว้ในมือของเขา
ปรมะแบกรับความเครียด แบกรับภาระ แบกรับความหวัง จนเขารู้สึกว่ามันหนักหน่วงไปหมด
“หาเวลาพักบ้างเถอะนะคะ ฉันว่าคุณหมอ หักโหมเกินไปแล้ว”
หญิงสาวเอ่ยด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ว่า ชายหนุ่มนั้นรักงานมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากให้เขาละเลยสุขภาพร่างกายของตัวเอง เกิดเขาเป็นอะไรไปแล้วเธอจะอยู่ยังไง
เมื่อหลายเดือนก่อนมีคุณหมอที่ยังหนุ่มยังแน่นทำงานหนักจนวูบสลบไป เธอเองก็ไม่อยากให้ ปรมะต้องเผชิญเหตุการณ์แบบนั้น จึงคอยตักเตือนและพยายามดูแลเขาเท่าที่เธอจะทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอุปสรรคหลายอย่าง เธอกับปรมะแอบคบกันอย่างลับๆ เนื่องจากคุณหมอหนุ่มนั้นไม่อยากให้ความสัมพันธ์กระทบกับเรื่องงาน เขาจึงขอร้องให้เธออย่าเพิ่งเปิดเผยเรื่องนี้
โสรยาเองก็เข้าใจและเพราะคำว่ารัก เธอจึงยินยอมมาโดยตลอด แม้ลึกๆจะรู้สึกน้อยใจแต่เธอก็ไม่อยากทำตัวงี่เง่า
“ที่ผมทำงานหนักขนาดนี้ก็เพื่อคุณนะรู้ไหม ผมอยากเก็บเงินเยอะๆเราจะได้สร้างครอบครัวด้วยกัน”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาอยากสร้างครอบครัวกับโสรยา จึงพยายามทุ่มเทเรื่องงานไม่อยากให้อะไรมาทำให้เขารู้สึกวอกแวก ออกนอกลู่นอกทางและไม่จริงจังกับเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
“เงินก็สำคัญแต่สุขภาพสำคัญกว่า ถ้าคุณหมอไม่ดูแลตัวเองแล้วคุณหมอจะไปดูแลคนอื่นได้ยังไง”
หญิงสาวเตือนสติ เธอเป็นห่วงเขาและพยายามพูดเรื่องนี้มาตลอดหลายปี แต่ดูเหมือนว่าปรมะนั้นจะไม่สนใจฟังคำแนะนำของเธอ เอาแต่อ้างว่าอยากเก็บเงินเพื่อสร้างครอบครัว โดยไม่นึกถึงสุขภาพของตัวเองในระยะยาวว่าจะย่ำแย่แค่ไหนที่หักโหมทำงานหนักแบบนี้
“ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง แต่ผมก็ดูแลตัวเองอยู่ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าผมจะทิ้งคุณไปไหน ตราบใดที่เรายังไม่ได้แต่งงานกันผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอกนะ”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า ขณะที่กำลังโน้มตัวไปใกล้หญิงสาวเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น คุณหมอตั้งเวลาเอาไว้ เพราะพักนี้เขาพักผ่อนน้อยกินอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้ศักยภาพในการทำงานของสมองนั้นลดน้อยลง ส่งผลให้เขามักจะหลงๆลืมๆในบางครั้ง
ด้วยเหตุผลนี้ชายหนุ่มจึงต้องคอยเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา ด้วยการตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้
“รีบไปทำงานเถอะค่ะ ฉันเองก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน”
หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับหลบสายตา เธอรู้สึกเขินอายเพราะรู้ดีว่าเมื่อครู่ชายหนุ่มนั้นคิดจะทำอะไร
“ยังไม่ได้กำลังใจจากคุณ ผมก็ต้องไปซะแล้ว”
ชายหนุ่มโอดครวญ แต่เขาไม่สามารถหาเรื่องลีลาได้อีกเพราะต้องรีบไปทำงาน
หลังจากที่ปรมะลงจากรถไป โสรยาก็ถอนหายใจยาว เธอรู้สึกอึดอัดกับความสัมพันธ์ที่ต้องหลบๆซ่อนๆ แต่จะทำอย่างไรได้ เธอรักปรมะมาก มากจนยอมได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่โสรยาก็หวังว่า คุณหมอนั้นจะไม่ทรยศความรักและความไว้ใจที่เธอมีต่อเขา
ช่วงเย็นหลังจากลงเวร หญิงสาวก็เดินทางกลับคอนโดซึ่งอยู่ใกล้โรงพยาบาล โสรยาซื้อที่นี่ไว้เมื่อหลายปีก่อนแต่เธอยังผ่อนไม่หมด จึงต้องอดทนทำงานหนัก แม้จะกดดันมากแค่ไหนแต่หญิงสาวก็ไม่สามารถลาออกได้ เพราะเธอนั้นมีภาระค่าใช้จ่ายที่รออยู่ทุกๆสิ้นเดือน
เช่นเดียวกับปรมะ แม้ว่าเขาไม่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ที่ร่ำรวยอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็มีภาระไม่ต่างจากเธอนี่คงเป็นเหตุผลที่เขาพยายามทำงานหนักเพื่อเก็บเงินสร้างครอบครัว
นึกถึงคำพูดของคนรักแล้วโสรยาก็อดยิ้มไม่ได้ แม้ว่าปรมะจะทำให้เธอรู้สึกน้อยใจในบางครั้ง ถึงอย่างนั้นเขาก็เสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอด เขาดูแลเธอเป็นอย่างดี จดจำวันสำคัญได้ ไม่เคยละเลยทอดทิ้ง
โสรยารู้สึกอุ่นใจที่มีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้าง ในวันที่มีปัญหาเขาก็ช่วยแก้ไข ทำให้เธอแทบไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติที่เเฝงอยู่ในความสัมพันธ์เลยแม้แต่นิดเดียว หญิงสาวยังคงจมอยู่กับความเพ้อฝัน โดยไม่รู้เลยว่า บางทีสิ่งที่เธอเห็นนั้นอาจเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา

