คำขอของคนเห็นเเก่ตัว
ตอนที่ 2
คำขอของคนเห็นเเก่ตัว
วิศรุตเดินทางกลับมาที่บ้านเช่าหลังเล็ก เขายืนอยู่หน้าบ้านมองความทรุดโทรมรอบๆก่อน ถอนหายใจออกมา เพียงข้ามคืนชีวิตของเขาก็พลิกผันจากชายหนุ่มยากจนกลายเป็นทายาทมหาเศรษฐี วิศรุตไม่รู้จะบอกวรกานต์อย่างไรดี
“อ้าว มาแล้วหรือพี่วิทย์”
หญิงสาวเปิดประตูบ้านออกมาพอดี เธอวางตะกร้าผ้าลงบนพื้น หยิบไม้แขวนเก่าๆออกมาวางไว้บนโต๊ะผุพัง
“วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ ไปไหนมาล่ะ”
วิศรุตออกไปตั้งแต่เช้าไม่บอกไม่กล่าวว่าจะไปไหน วรกานต์ไม่ได้โทรตามเพราะคิดว่าชายหนุ่มคงมีธุระสำคัญ เธอจึงไม่กล้ารบกวน
“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับกานต์ เราเข้าไปคุยในบ้านกันเถอะ”
เห็นสีหน้าหนักใจของคนรัก วรกานต์ก็นึกสงสัยว่าเขามีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า วิศรุตยื่นเอกสารให้หญิงสาวอ่าน เธอนิ่งอึ้งไปพักใหญ่เมื่อรู้ว่าวิศรุตเป็นทายาทเพียงคนเดียวของมหาเศรษฐีชื่อดัง
“เรื่องจริงเหรอ ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม”
เพราะชายหนุ่มเป็นคนขี้เล่นเธอจึงคิดว่าเขาอาจจะแกล้งอำ แต่คราวนี้วิศรุตไม่ได้มีท่าทางล้อเล่นเหมือนที่ผ่านๆมา เขาทำให้เธอเชื่อสนิทใจว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง
“มันอาจดูเหมือนเรื่องตลก ดูเหมือนเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว แม่พี่เคยเป็นแม่บ้านอยู่ที่นั่น แม่กับพ่อรักกันแต่ย่าไม่เห็นด้วยก็เลยขอให้แม่ออกจากบ้านหลังนั้น”
แม่เขามาอาศัยอยู่ที่สลัมแห่งนี้ เลี้ยงดูเขาจนเติบโต ไม่เคยปริปากเล่าเรื่องพ่อให้ฟังเลยแม้แต่ครั้งเดียว วิศรุตเองก็ไม่เคยถาม สำหรับสังคมแห่งนี้ไม่มีครอบครัวไหนเพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ เขาเลยไม่เคยคิดว่าตัวเองแปลกแยกจากคนอื่น และไม่เคยสนใจเรื่องพ่อเลย
“แล้วพี่วิทย์จะทำยังไงต่อ พี่ต้องไปอยู่ที่นั่นใช่ไหม”
หญิงสาวเอ่ยถาม เธอไม่ได้สนใจว่าหลังจากนี้ตัวเองจะเป็นยังไง แค่อยากรู้ว่าหลังจากนี้ชีวิตของวิศรุตจะพลิกผันไปมากแค่ไหน
“ก็คงต้องเป็นแบบนั้นพี่ก็เลยอยากคุยกับกานต์ก่อน”
ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้รับของขวัญชิ้นใหญ่แต่เป็นของขวัญที่เปราะบางเหลือเกิน หากเขาผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียวของขวัญชิ้นนี้อาจจะ เเตกสลายและหายไปในพริบตา
คนที่เคยลำบากอย่างเขาเมื่อมีโอกาสได้สัมผัสกับความหรูหราร่ำรวย มันก็ทำให้เขานึกกลัว กลัวว่าสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้จะทำให้เขาต้องสูญเสียสิ่งที่เพิ่งได้มา
จากที่ได้ฟังเรื่องราวระหว่างพ่อกับแม่ ทำให้ชายหนุ่มนึกกลัว กลัวว่าย่าของเขาจะไม่ยอมรับวรกานต์ ดีไม่ดีอาจจะบังคับให้เขาเลิกรากับเธอ
ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะทิ้งหญิงสาว แต่ก็หวั่นใจกลัวว่าเธอจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
“พี่อยากให้กานต์อยู่ที่นี่ก่อน ที่สัญญาว่าจะส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน กานต์อย่าเพิ่งแสดงตัวว่าเป็นแฟนพี่ได้ไหม พี่ไม่รู้ว่าคุณย่าจะคิดยังไง พี่กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย”
หญิงสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับชะงัก เธอพยายามเข้าใจเหตุผลของชายหนุ่ม แต่ก็อดเสียใจไม่ได้เมื่อเขาได้ดิบได้ดีกลับทิ้งเธอไว้ข้างหลังเพียงลำพัง
“พี่คิดดีแล้วใช่ไหมถึงได้ตัดสินใจแบบนี้”
วิศรุตไม่มีทางเลือกมากนัก ในช่วงเวลาแบบนี้หากเขาถูกบีบคั้นให้เลือกทางใดทางหนึ่ง เขาคงไม่ยอมทิ้งมรดกมูลค่าหลายพันล้านอย่างแน่นอน ชายหนุ่มรู้ดีว่าความคิดนี้มันเห็นแก่ตัวมาก ในวันที่เขาลำบากจนถึงขีดสุดคนที่อยู่เคียงข้างเขาก็มีแค่วรกานต์เท่านั้น
“กานต์อยู่เงียบๆให้พี่ได้นะแต่หลังจากนี้พี่จะทำยังไงต่อไป”
ชายหนุ่มกรอกตาไปมาก่อนส่ายหน้า เขาไม่สามารถให้คำตอบหญิงสาวได้ เพราะไม่รู้ว่าหลังจากนี้ชีวิตของเขาจะต้องเจออะไรบ้าง สังคมสลัมกับสังคมไฮโซต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาไม่กล้าการันตีด้วยซ้ำว่าความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคนรักจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ หากวันหนึ่งเขาได้เจอกับคนที่ฐานะเท่าเทียมกัน บางทีหัวใจของเขาอาจจะแปรเปลี่ยนไป แต่เพราะในวันนี้เขายังรักวรกานต์อยู่ จึงขอให้เธอ รอ รอแบบไร้จุดหมาย
“พี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงต่อไป พี่ขอให้กานต์อยู่เงียบๆแต่พี่ไม่ให้ความเชื่อมั่นอะไรเลย แล้วกานต์จะมั่นใจได้ยังไงว่าในวันหน้าหัวใจพี่จะไม่เปลี่ยนไป”
จู่ๆเขาก็กลายเป็นทายาทของมหาเศรษฐี วิศรุตเป็นคนหน้าตาดี เป็นหนุ่มเนื้อหอมมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่เพราะเขายากจนผู้หญิงจึงหนีหายไม่อยากสุงสิงด้วย มีเพียงเธอที่รักเขาจากใจจริงไม่ได้มองแค่เปลือกนอก
ในวันนี้เมื่อเขาได้ดิบได้ดี กลับคิดที่จะทิ้งเธอไว้ข้างหลัง ผู้หญิงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานนับสิบปี
วรกานต์ยอมรับว่าเธอรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยินดีที่ชีวิตของชายหนุ่มกำลังจะดีขึ้น ในเมื่อวิศรุตมองว่าเธอเป็นตัวถ่วง ถ้าอย่างนั้นเธอขอเลือกเดินออกไปจากชีวิตเขายังดีเสียกว่า
วรกานต์ไม่ได้พูดอะไรได้แต่นั่งฟังชายหนุ่มเงียบๆ วิศรุตดูมีความสุขมาก ชีวิตของเขาคล้ายกับมีแสงสว่างเจิดจ้า ในขณะที่ชีวิตของเธอกำลังจมดิ่งลงไปในความมืดมิด
วรกานต์รู้สึกราวกับว่ามีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นกลางระหว่างเธอกับชายหนุ่ม หญิงสาวนั่งฟังเขาสาธยายถึงสิ่งที่คิดจะทำภายในวันหน้าด้วยหัวใจที่บอบช้ำเจ็บปวด
ชีวิตของเขาต่อจากนี้ไม่มีเธอร่วมเดินอยู่ในนั้น ทำราวกับว่าเธอเป็นแค่อากาศธาตุ วรกานต์นั่งคิดอะไรเงียบๆพลางมองหน้าชายหนุ่มไปด้วย เขาวาดฝันอะไรมากมายแต่ในความฝันนั้นกลับไม่มีเธออยู่เคียงข้าง
“พี่ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้พี่ต้องไปพบทนายแต่เช้า เห็นเขาบอกว่าจะพาพี่ไปพบคุณย่า”
ชายหนุ่มคว้าเอกสารจากมือหญิงสาวก่อนเดินเข้าห้อง ทิ้งให้เธอนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองเพียงลำพัง
วรกานต์น้ำตารื้น ในวันที่เขาลำบากเธอคอยอยู่เคียงข้างไม่นึกรังเกียจ แต่ในวันที่เขาสุขสบาย กลับไม่นึกถึงเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
วรกานต์ไม่ได้ต้องการของมีค่าหรือเงินทอง เธอแค่อยากอยู่ใกล้ๆเขา ผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด แต่วิศรุตทำราวกับว่าไม่ต้องการมีเธอในชีวิตอีกแล้ว
หญิงสาวเสียใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว เพียงข้ามคืนเธอก็กลายเป็นคนที่ไม่คู่ควรกับวิศรุตไปเสียแล้ว
