บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“พี่เองก็ไม่เคยไปสถานที่จริงมาหรอกนะคะ แต่เมื่อเดือนก่อนได้ไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วเห็นโปสการ์ดพวกนี้วางขายอยู่ถนนคนเดินก็เลยซื้อมา ตอนซื้อก็ถามคนขายว่าในรูปคือที่ไหน เข้าไปพักได้หรือเปล่า เขาก็เอาแต่ยิ้ม”

“อ้อ...ค่ะ” แวนดี้เอ่ยรับขึ้นอีกคน ดูท่าคนขายจะติสต์อยู่ไม่น้อย

“แต่ที่สวยๆ แบบนี้ ใครก็อยากไปสัมผัสเองกับตาดูสักครั้งเนอะ เพราะภาพจริงมันคงสวยกว่าในรูปนี้หลายเท่าแน่ๆ” เจ้าของร้านพูดไปยิ้มไป นั่นเพราะเธอเองก็อยากไปเที่ยวไปถ่ายรูปที่นี่ดูสักครั้งเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสไหม

“จะว่าอะไรไหม ถ้าพายจะขอซื้อโปสการ์ดใบนี้น่ะค่ะ”

“เอาไปเลยก็ได้ค่ะ พี่ให้”

“ขอบคุณมากค่ะ” พรพระพายเอ่ยขอบคุณเจ้าของร้านทันที จากนั้นสองสาวก็เดินกลับออกไป แต่ก่อนแยกย้ายแวนดี้ก็ถ่ายรูปโปสการ์ดไว้เสียหน่อย จะได้เอาไปสืบว่าที่นี่มันอยู่พิกัดไหนของเชียงใหม่ แต่ยิ่งดูมันยิ่งคุ้นตาบอกไม่ถูก นึกสินึกแวนดี้คนงามนึกให้ออก

ตลอดทางที่ขับรถกลับมาบ้าน แวนดี้ก็พยายามนึกถึงสถานที่ แต่สงสัยเธอจะสมองฝ่อ เพราะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียที กระทั่งมาถึงบ้านเธอก็ได้รับโปสการ์ด ซึ่งนี่คือความบังเอิญหรือฟ้ากำหนด เพราะรูปบนโปสการ์ดที่ได้มามันคล้ายกับรูปบนโปสการ์ดที่ร้านอาหาร เธอจึงรีบพลิกดูด้านหลังว่าใครกันเป็นคนส่งมาให้ ก่อนจะตาโตเป็นไข่ห่าน

“ตายห่านหรือว่าที่นั่นคือโฮมสเตย์ของพี่กานต์วะคะ” สาวสวยที่มีดีกรีเป็นถึงรองมิสทิฟฟานี่ยกมือขึ้นทาบอก ใจสั่นกันเลยทีเดียวเมื่อเอ่ยถึงญาติผู้พี่ที่เปรียบเหมือนพี่ชายแท้ๆ ของเธอ ที่ตอนเด็กๆ นั้นเธอกับกานต์สนิทกันมาก สนิทกันชนิดที่ว่าเคยแก้ผ้ากระโดดเล่นน้ำด้วยกันมาแล้ว

และเพื่อความชัวร์ เธอจึงเข้าไปส่องอินสตาแกรมของญาติผู้พี่เสียหน่อย และมันก็โป๊ะเชะ ทุกอย่างเป็นอย่างที่คิดจริงๆ นั่นทำเอาแวนดี้ถึงกับกุมขมับ

“งานเข้าแล้วยัยแวนดี้” ยิ่งพอรู้ว่าพรพระพายอยากไปพักที่นี่มากด้วยแล้วแวนดี้ก็ยิ่งเหงื่อตก ขืนให้เพื่อนได้ไปพักจริงๆ ก็กลัวว่าความลับที่เธอปกปิดมันมานานอาจรั่วไหลเอาได้ง่ายๆ...อ๊ากก

‘ว่าไงแวนดี้ แกได้ข้อมูลหรือยัง’ ข้อความจากพรพระพายที่ตอนนี้ถึงบ้านแล้วเช่นกันเด้งขึ้นผ่านระบบไลน์ทำเอาแวนดี้สะดุ้ง ก่อนจะพิมพ์แก้ตัวเอ้ย!...แก้ต่างไปว่าเธอยังหาข้อมูลไม่ได้ แต่ก็ชั่งใจแล้วตัดสินใจลบข้อความก่อนหน้า จากนั้นก็พิมพ์คำอีกคำแทน

‘ได้แล้ว’

‘แล้วเขาให้ฉันไปพักได้ไหมอ่ะ’ ก่อนที่จะมีข้อความนี้เด้งขึ้น พรพระพายส่งสติ๊กเกอร์แสดงความรู้สึกว่าดีใจนำมาก่อน เห็นแบบนี้แล้วแวนดี้จะปฏิเสธได้ยังไง เพราะเธออยากให้เพื่อนได้ไปพักสมองจากเรื่องที่ต้องเจอมาจริงๆ ส่วนความลับของเธอนั้นหวังว่ามันคงจะไม่แตกก่อนถึงเวลา

‘ได้’

‘จริงเหรอแก’ พิมพ์ข้อความเสร็จ พรพระพายก็ส่งสติ๊กเกอร์ว้าวตัวใหญ่เท่าบ้านตามมาติดๆ

‘จริง…แต่ฉันขออะไรแกอย่างสิ’

‘ขอหลายอย่างก็ได้ ฉันทำให้แกได้เสมอ’ แวนดี้อ่านข้อความที่พรพระพายส่งมาแล้ว และเธอก็กำลังพิมพ์ข้อความที่จะตอบ พิมพ์ไปลบไปกระทั่งตัดสินใจกดส่งในครั้งสุดท้าย

‘บังเอิญว่าที่ที่แกอยากจะไปพักมันเป็นที่ของญาติฉัน ถ้าแกไปพักที่นั่น แกอย่าเพิ่งพูดเรื่องฉันได้ไหม’ ประโยคที่ได้อ่าน ทำเอาพรพระพายอุทานออกมา

จากที่พิมพ์ไลน์โต้ตอบกันไปมา พรพระพายก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาแวนดี้เสียเลย

“แวนดี้ แก…” ทันทีที่แวนดี้กดรับสายและยังไม่ทันที่พรพระพายจะได้พูดอะไร เสียงของแวนดี้ก็ดังขึ้นเสียก่อน

“อย่าทำเสียงงี้ดิ ฉันโอเคแค่ยังไม่ได้บอกที่บ้านหรือใครว่าตอนนี้ฉันเป็นอะไรน่ะ แกเข้าใจใช่ไหม” ถึงโฮมสเตย์ของกานต์จะอยู่ไกลเรียกว่าอยู่กันคนละอำเภอก็ว่าได้ แต่ความที่ได้ชื่อว่าเครือญาติที่ไปมาหาสู่กันสม่ำเสมอ ไม่ช้าก็เร็วเรื่องมันต้องถึงหูกันแน่นอน

“ฉันเข้าใจ แต่ถ้าฉันทำให้แกไม่สบายใจ ฉันเปลี่ยนที่พักก็ได้นะแก”

“ไม่ๆ ฉันอยากให้แกไปพักที่นั่นจริงๆ”

“แต่ว่า…” พรพระพายทำท่าจะแย้ง นั่นเพราะเธอเองก็ไม่อยากสร้างความไม่สบายใจให้เพื่อนเหมือนกัน

“ตกลงตามนี้แหละ แกไปแพ็คกระเป๋าเตรียมตัวให้พร้อม เพราะดีไม่ดีอาจต้องบินวันสองวันนี้” แวนดี้เอ่ยบอก เพราะมั่นใจว่าเธอนั้นสามารถทำให้พรพระพายไปพักที่โฮมสเตย์ของกานต์ได้แน่นอน

“โอ๊ย!…เร็วไปไหมยะ”

“ไม่เร็ว ขืนไม่ไปตอนนี้หมดหน้าหนาวความฟินมันจะไม่ถึงระดับที่ต้องการ”

“เมืองไทยมีหน้าหนาวด้วยเรอะ” พรพระพายแขวะอากาศเมืองไทย ที่หลายปีมานี้รู้สึกว่าฤดูร้อนมันจะกลืนกินฤดูอื่นเสียหมดแล้ว

“กรุงเทพฯ ไม่มี แต่ที่เชียงใหม่มีแน่นอน เตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไปด้วย เพราะที่นั่นอากาศจะเย็นตลอด เผลอๆ กลางคืนมีหนาวด้วย” คนมีบ้านอยู่เชียงใหม่เอ่ยบอก

“งั้นฉันเตรียมเสื้อโค้ทขนเป็ดมีเฟอร์ไปด้วยดีกว่า”

“นั่นก็เวอร์ไป” แวนดี้ส่ายหน้าให้

“ล้อเล่น” พรพระพายยิ้มแฉ่ง ถ้าไม่มีเรื่องเมื่อวันก่อนมาทำลายความรู้สึกจนบาดเจ็บสาหัส เชื่อได้ว่าเธอคือผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกคนหนึ่งแน่ๆ

“ไปๆ ไปแพ็คกระเป๋าได้แล้ว”

“โอเคจ้า แวนดี้…ฉันรักแกนะ”

“ฉันก็รักแก…พาย” แวนดี้เอ่ยตอบกลับไปเช่นเดียวกัน แม้เธอจะมีเพื่อนไม่มาก แต่เพื่อนทุกคนทั้งพรพระพายและสิปางล้วนแต่คือเพื่อนแท้ที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว

แค่นึกถึง สิปางก็ส่งข้อความเข้ามาในกรุ๊ปไลน์ แวนดี้กับพรพระพายจึงวางหูจากกันแล้วย้ายไปคุยในกรุ๊ปไลน์ที่มีกันสามคนต่อ พรพระพายจัดกระเป๋าไปพิมพ์ไลน์ตอบไปด้วย สักพักเธอก็ทิ้งการจัดกระเป๋าแล้วมาส่งข้อความเม้าท์มอยกับแวนดี้และสิปางแทน

ก่อนเดินทางพรพระพายบอกครอบครัวไว้แล้วว่าเธอจะไปพักผ่อนสมองที่ต่างจังหวัด อาจติดต่อไม่ได้ชั่วคราวเพราะตั้งใจจะปิดมือถือ ไม่อยากรับรู้ข่าวอะไรสักระยะ ซึ่งครอบครัวเธอเข้าใจทุกอย่าง นี่คือเรื่องที่ถือว่าโชคดีที่มีครอบครัวอยู่ข้างๆ เข้าอกเข้าใจเธอเสมอ ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายแรงมากขนาดไหนก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel