ตอนที่5. ไฟไหม้
ซุนหลวนคุนเดินเข้าในจวน ดวงตาดุจพญาเหยี่ยวตวัดสายตามองทหารยามที่ก้มหน้าหลบสายตาของเขา แม่ทัพหนุ่มรับรู้ได้ว่ามีสิ่งผิดปกติ แต่ไม่มีใครกล้ารายงาน
“จะพูดเองหรือให้ข้าถาม”
“คือ...” ทหารต่างยามอึกอักใช้ศอกกระทุ้งกันไปมาไม่กล้าเอ่ยปาก
“ปิดบังผู้บังคับบัญชา มีโทษทางวินัยอย่างไร”
“เรียนท่านแม่ทัพ” ทหารคนหนึ่งรีบพูดออกมาด้วยความกลัว “ไฟไหม้ที่ห้องครับขอรับ”
“ไฟไหม้ห้องครัว?” เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมไม่มีใครมารายงานเขา
“แต่ไหม้นิดเดียว แล้วก็ดับแล้วขอรับ”
ซุนหลวนคุนไม่รอให้ทหารรายงานจบ เขาเปลี่ยนเส้นทางเดินมุ่งหน้าไปยังห้องครัวทันที หากเป็นกองทัพ คลังเสบียงเป็นจุดสำคัญที่ต้องดูแลอย่างดี นี่ในจวนของเขาแท้ๆ แต่กลับเกิดไฟไหม้ขึ้นได้ ทว่าเมื่อเขาเดินไปถึงต้องชะงักเท้าจนเสียจังหวะไปเล็กน้อย เมื่อสายตาเห็นร่างบอบบางของหรูซื่อยืนอยู่หน้าห้องครัว แม้ไฟไหม้ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก เห็นเพียงควันขโมงและเหล่าทหารที่หิ้วถังน้ำมาดับไฟ
“ท่าน...ท่านแม่ทัพ”
เสียงทหารคนหนึ่งพูดทำให้หรูซื่อหันไปมอง ซุนหลวนคุนหรี่ตามอง ทำให้นางได้แต่กัดริมฝีปากไม่รู้จะอธิบายเรื่องเหล่านี้อย่างไรดี
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” ป้าหวงฝูรีบพูดขึ้น นางเองก็กลัวท่านแม่ทัพไม่ต่างจากคนอื่น
“เรื่อง-เล็ก-น้อย” เขาพูดย้ำที่ละคำทำเอาบรรดาคนที่ได้ยินต่างสะดุ้งแล้วก้มหน้างุดจนคางแทบชิดอกกันเลยทีเดียว
หรูซื่อเห็นท่าไม่ดี นางรีบสาวเท้าเข้าไปหา แต่เพราะรีบร้อนจึงสะดุดก้อนหินเสียหลักเซถลาไปด้านหน้า ซุนหลวนคุนรวดเร็วพอที่จะยื่นมือไปรับนางไว้ได้ทัน แต่ทำให้นางได้ซุกในอกกว้างของเขาแทน การใกล้ชิดนี้ทำให้ใบหน้างามแดงระเรื่อ คงน่าดูกว่านี้แต่ถ้าไม่มีเขม่าดำเปื้อนแก้มอย่างนี้ มือใหญ่ยกขึ้นเช็ดคราบดำที่เปื้อนแก้มเบาๆ หญิงสาวได้สติรีบยกมือขึ้นเช็ดแก้มตัวเอง แต่มันยิ่งเลอะเทอะจนชวนขบขัน
“ท่าน...ท่านพี่อย่าได้โกรธผู้อื่น ล้วนเป็นความผิดของข้าเอง”
“ฮูหยินไม่ได้ตั้งใจ ขอท่านแม่ทัพโปรดเมตตาเจ้าค่ะ” แม้จะกลัวมากเพียงใดแต่ก็อดสงสารฮูหยินไม่ได้ นางหวงฝูจึงชิงพูดเสียก่อน “เป็นความผิดของบ่าวที่ดูแลฮูหยินไม่ดีเอง”
“ไม่ใช่ๆ เป็นความผิดของข้าเอง ข้าดื้อรั้นจะทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีนเอง ทั้งที่ทุกคนห้ามปรามแล้ว แต่ข้าก็ยัง...ยังก่อเรื่องอีก”
“เจ้าจะทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีน?” เขาถามอย่างประหลาดใจ “ข้าเคยพูดแล้วหากเจ้าต้องการอะไรให้สั่งผู้อื่นทำได้ หรือหากเจ้าอยากกินอะไรก็บอกพวกเขาได้ คนของข้าก็เหมือนคนของเจ้า คำสั่งของเจ้าก็เหมือนคำสั่งของข้า”
“ไม่ใช่ๆ” นางโบกมือไปมา “เป็นข้าที่อยากทำให้ท่านเอง ตำรับเครื่องยาจีนนี้บำรุงตับ,ไต, ปรับการไหลเวียนของเลือด ข้าอยากลงมือตุ๋นไก่ให้ท่านเอง แต่ข้าไม่เคยเข้าครัว...เกรงว่าจะเร่งไฟแรงไปหน่อย ไฟจึงไหม้ครัวอย่างนี้”
“เจ้า...ตุ๋นไก่ให้ข้า”
ที่คิดจะออกปากตำหนิจึงพูดไม่ออก พลันรู้สึกวูบไหวในอก นานเพียงใดที่เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้
รู้สึกเป็นพิเศษ เป็นคนสำคัญ
“ใช่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ ฮูหยินเพียงต้องการลงมือทำอาหารบำรุงให้ท่าน ไม่ได้มีเจตนาร้าย ขอท่านแม่ทัพอย่าโกรธเคืองฮูหยินเลยนะเจ้าคะ”
ป้าหวงฝูอธิบาย ทหารคนอื่นก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย ฮูหยินท่านแม่ทัพเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมและงดงาม มีจิตใจดี รักใคร่ห่วงใยท่านแม่ทัพถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะเกือบเผาห้องครัวไปก็เถิดนะ
หรูซื่อช้อนตาขึ้นมอง “ข้าไม่ได้ตั้งใจเผาห้องครัวของท่านจริงๆ นะ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เขาเองไม่ได้อยากตำหนินาง “เจ้าปลอดภัยดีหรือไม่ บาดเจ็บที่ใดหรือเปล่า”
น้ำเสียงแม้ไม่ได้อ่อนโยนนัก แต่บรรดาทหารที่มักได้รับคำสั่งต่างอ้าปากค้างตะลึงงันกับสิ่งที่ได้ยิน แม่ทัพซุนมีอีกชื่อที่เรียกขานลับหลังว่า ‘แม่ทัพปีศาจ’ ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินท่านแม่ทัพปีศาจใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับผู้ใดมาก่อน
หญิงสาวฉีกยิ้มหวานส่ายหน้าไปมา แต่ซ่อนมือไว้ด้านหลัง รอยยิ้มของนางไม่ได้ช่วยกลบเกลื่อนอะไรได้เลย ซุนหลวนคุนเอื้อมมือไปจับมือของนางยกขึ้นมาดู ปลายนิ้วน้อย ๆ แดงจนน่าสงสาร
“ข้าไม่เจ็บ” นางร้อนรนรีบบอกเขาแล้วชักมือกลับ แต่เขายึดข้อมือนางไว้แน่นทำให้นางขยับไม่ได้ ดวงตาคู่งามหลุบลงไม่กล้าสบตากับเขา
“อย่างไรก็ต้องทำแผล” เขาจับมือนางนางขึ้นเป่าเบาๆ “อย่าทำอะไรให้ตนเองต้องบาดเจ็บอีก”
“ข้า...ข้าทราบแล้ว”
