หมอในฝัน (หมอเวย์)

108.0K · จบแล้ว
ดาวิเด
39
บท
33.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผมที่ไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามาวุ่นวายในชีวิตส่วนตัว แต่วันนี้ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเธอเข้ามาในชีวิตผมแบบไม่รู้ตัว จากชีวิตที่เงียบสงบ..วันนี้กลับมีเสียงเจื้อยแจ้วของใครอีกคนคอยถามโน่นถามนี่อยู่ตลอดเวลา จากความสงบสุขกลายมาเป็นความวุ่นวาย และเปลี่ยนมาเป็นความเคยชิน..เคยชินที่มีเธออยู่ในชีวิต

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักหมอดารานางเอกเก่งดารารักวัยรุ่นฟินๆโรแมนติก18+

ตอนที่1 ไม่ถูกชะตา

“พี่หวาน พี่หวานคะ!! มาช่วยดูหน่อยผื่นอะไรขึ้นเต็มหน้าสไมล์ไปหมดเลยอ่ะ โอ้ยยย!! ตายแน่เลยอาทิตย์หน้ามีถ่ายโฆษณาโฟมล้างหน้าด้วย” เสียงของสไมล์ดาราสาววัย 25 ปีที่กำลังโด่งดังไปทั่วประเทศอยู่ตอนนี้ร้องเรียกผู้จัดการดังลั่น

“อะไร อะไรสไมล์เรียกซะดังลั่นเลย ไหน ๆ มีอะไร” น้ำหวานหรือที่หลายคนเรียกว่าเจ๊หวานรีบวิ่งเข้ามาดูดาราสาวในห้องนอนที่ตอนนี้กำลังนั่งหน้าเครียดอยู่หน้ากระจกส่องดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยผื่นแดงที่ขึ้นเป็นปื้นของตัวเอง

“ว๊ายย!! ตายแล้ว สไมล์หน้าไปโดนอะไรมา” เสียงอุทานของผู้จัดการสาวสองดังขึ้นไม่แพ้เสียงเรียกของดาราสาวก่อนหน้านี้

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่หวานตื่นขึ้นมาก็เห็นผื่นเต็มหน้าแล้ว แล้วนี่จะหายทันวันถ่ายทำโฆษณาหรือเปล่าเนี่ย ถ้าต้องหอบเอาหน้าพังแบบนี้ไปถ่ายงานสไมล์ไม่เอานะ” ใบหน้าสวยเรียบเนียนที่ตอนนี้มีผื่นแดงขึ้นเต็มหน้าพร้อมสีหน้ากังวลบอกกับผู้จัดการด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“หาย ต้องหายทัน ยังไงก็ต้องหายให้ทัน” น้ำหวานบอกดาราสาวด้วยน้ำเสียงและท่าทางมุ่งมั่น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสาย

(สวัสดีค่ะธิปติพัศคลินิกใช่ไหมคะ พอดีอยากนัดคิวพบหมอค่ะเอาคิวด่วนที่สุดเท่าที่จะได้ ถ้าได้วันนี้ก็จะดี หรืออีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้ยิ่งดีค่ะ)

(คุณหมอจะเข้าคลินิกตอนสิบเอ็ดโมงค่ะก็ประมาณอีกสองชั่วโมง พอดีลูกค้าคิวแรกพึ่งโทรมาขอเลื่อนนัด ถ้าคุณลูกค้าสะดวกทางเราจะจัดให้เป็นคิวแรกแทนตอนสิบเอ็ดโมงนะคะ นอกเหนือจากเวลานี้ วันนี้ไม่มีคิวว่างเลยค่ะ)

(ดีค่ะคิวแรกยิ่งดีจองไว้เลยนะคะชื่อน้ำหวานค่ะ) เสียงสาวสองประสานงานอย่างมืออาชีพกับคลินิกเสริมความงามของนายแพทย์หนุ่มชื่อดังที่กำลังเป็นที่ยอมรับด้านการเนรมิตความงามให้เหล่าบรรดาไฮโซและดารา เมื่อจองคิวเสร็จก็วางสายหันมาบอกคนที่กำลังนั่งทำหน้ายุ่งอยู่หน้ากระจก

“เรียบร้อยค่ะ ไปค่ะไปอาบน้ำแต่งตัวค่ะลูก คุณพี่นัดหมอเวย์ให้เรียบร้อยคิวแรกด้วย นี่โชคดียิ่งกว่าถูกหวยอีกนะที่มีคนเลื่อนนัด ตอนนี้คงมีแต่หมอเวย์เท่านั้นค่ะที่จะช่วยคุณลูกได้” น้ำหวานผ่อนลมหายใจเหมือนคนที่แก้ปัญหาไปได้แล้วอีกสเต็ปหนึ่ง

ทางด้านของเวย์

โคร้ม!!!

“เฮ้ย อะไรวะ” เสียงที่ดังสนั่นท้ายรถทำเอาธิปติพัศหรือหมอเวย์ที่กำลังจอดรถรอสัญญาณไฟตกใจไม่น้อย ก่อนจะเปิดไฟฉุกเฉินแล้วเดินลงรถไปดูต้นตอของเสียง

“ขอโทษครับ ขอโทษครับ พอดีผมมัวเอื้อมไปหยิบขวดนมให้ลูกเลยเหยียบเบรกไม่ทัน ต้องขอโทษจริง ๆ ผมยินดีชดใช้ค่าเสียหายและซ่อมให้ครับ” คู่กรณีที่เดินลงจากรถมาพร้อมกันรีบเอ่ยขอโทษพร้อมแสดงความรับผิดชอบ ธิปติพัศมองท้ายรถสปอร์ตของตนเองที่มีเพียงไฟท้ายที่แตกกระจายและรอยบุ๋มนิดหน่อยเมื่อเทียบกับคู่กรณีแล้วดูเหมือนอีกฝ่ายจะเสียหายมากกว่า

“ไม่เป็นไรครับมันเป็นอุบัติเหตุ เดี๋ยวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจและประกันมาจัดการแล้วกันครับ ผมไม่ติดใจอะไร” หมอหนุ่มบอกคู่กรณีเมื่อแลไปเห็นในรถของอีกฝ่ายมีเด็กน้อยนั่งอยู่ในคาร์ซีทและกำลังดูดขวดนมด้วยความหิว

ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจและประกันมาจัดการเรื่องรถตามขั้นตอนเวย์ก็ยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดของคนไข้คิวแรกตามตารางที่ทางคลินิกส่งมาให้ ดูแล้วคงไม่น่าจะทันชายหนุ่มจึงต่อสายเข้าคลินิก

(ผมหมอเวย์นะครับพอดีผมเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยคงจะเข้าคลินิกช้า ยังไงช่วยแจ้งคนไข้ด้วยนะครับผมจะรีบไป แต่ถ้าคนไข้ไม่สะดวกรอให้แจ้งคิวใหม่วันอื่นได้ครับ)

(ได้ค่ะเดี๋ยวดิฉันจัดการให้นะคะคุณหมอ)

(ขอบคุณครับ) เมื่อวางสายจากคลินิกก็พอดีกับที่ประกันรถของทั้งชายหนุ่มและคู่กรณีมาถึงที่เกิดเหตุ เวย์จึงจัดการเรื่องรถตามขั้นตอนต่าง ๆ จนแล้วเสร็จ ก่อนจะโทรเรียกให้คนขับรถของที่บ้านเอารถคันใหม่ไปเปลี่ยนให้ที่คลินิกแล้วเอาคันที่เกิดเหตุไปเข้าศูนย์ซ่อม

ธิปติพัศคลินิก

“ธิปติพัศคลินิกสวัสดีค่ะ” รีเซฟชั่นประจำเคาน์เตอร์กล่าวต้อนรับลูกค้าสาวแท้และเทียมที่เดินเข้ามาในคลินิก

“ชื่อน้ำหวานค่ะที่นัดคิวคุณหมอไว้ตอนสิบเอ็ดโมง” น้ำหวานบอกเจ้าหน้าที่ของคลินิกด้วยน้ำเสียงที่หวานสมชื่อ

“เอ่อ..ตอนนี้คุณหมอเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะกำลังเดินทางมาอาจจะใช้เวลา ไม่ทราบว่าคนไข้สะดวกรอไหมคะ ถ้าหากไม่สะดวกรอทางเราจะแจ้งคิวว่างของคุณหมอในวันอื่นให้เลือกค่ะว่าลูกค้าสะดวกวันไหน”

“อ่าวเหรอ ตายละทำยังไงดีล่ะทีนี้ แล้วนานไหมคะคุณหมอจะมาถึง”

“ประมาณหนึ่งชั่วโมงค่ะ” พนักงานสาวบอกลูกค้าทั้งสองด้วยท่าทางเกรงใจ น้ำหวานหันไปมองสไมล์ที่สวมแว่นตาดำและแมสปิดบังใบหน้าด้วยสายตาเป็นคำถาม

“สไมล์จะรอค่ะ สไมล์ไม่มีเวลาว่างแล้วนะคะพี่หวาน” ดาราสาวไม่ปล่อยให้ผู้จัดการของเธอรอคำตอบนานจึงบอกความต้องการออกไปด้วยอาการเซ็งนิด ๆ

“งั้นตกลงว่ารอนะคะ” นักประสานงานมืออาชีพอย่างน้ำหวานหันไปบอกพนักงานทันทีที่ดาราสาวในความดูแลแสดงความประสงค์ว่าจะรอหมอ

“งั้นขอกรอกข้อมูลของคนไข้หน่อยนะคะ” สไมล์ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่เพื่อบันทึกข้อมูล เมื่อเห็นชื่อในบัตรประชาชนเจ้าหน้าที่สาวจึงเงยหน้ามองทางดาราสาวเล็กน้อยก่อนจะคีย์ข้อมูลประวัติตามขั้นตอน

“เดี๋ยวเชิญคนไข้ทางนี้เลยค่ะ” ห้องรับรองของคลินิกที่พร้อมไปด้วยอาหารว่างเพื่อรับรองผู้มาใช้บริการไม่ต่างจากเลานจ์ของสายการบินดัง ทำเอาน้ำหวานชอบใจเป็นอย่างมาก

“เริ่ดค่ะ สมคำร่ำลือคลินิกเสริมความงามชื่อดังเลยนะสไมล์” น้ำเสียงพึงพอใจของผู้จัดการสาวหันมาพูดกับสไมล์เบา ๆ

“เดี๋ยวถ้าคุณหมอมาถึงจะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกคนไข้นะคะ”

“ขอบคุณค่ะ” สไมล์หันไปขอบคุณเจ้าหน้าที่สาวก่อนจะเดินไปนั่งตรงชุดโซฟาหรูภายในห้องรับรอง

“นี่ขนาดโทรมานัดล่วงหน้านะคะยังไม่เป็นไปตามนัดเลย” น้ำเสียงเบื่อ ๆ ของสไมล์เอ่ยเบา ๆ ให้ผู้จัดการฟัง

“มันเหตุสุดวิสัยใจเย็น ๆ ตอนนี้ที่หาข้อมูลมาก็มีแต่ที่นี่ที่เดียวแหละที่จะช่วยให้ใบหน้าสวย ๆ ของเธอหายทันวันถ่ายโฆษณา” น้ำหวานหันมาบอกหญิงสาวอย่างใจเย็นเพราะเท่าที่หาข้อมูลมาคุณหมอที่นี่เก่งที่สุดด้านความงามในตอนนี้แล้ว

45นาทีผ่านไป

“เชิญคุณสไมล์ที่ห้องตรวจรอคุณหมอได้เลยค่ะคุณหมอกำลังใกล้ถึงแล้ว” เสียงเจ้าหน้าที่สาวที่มาเรียกทำเอาสไมล์ดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันทีเพราะรอเวลานี้มานาน ร่างบางเดินตามพนักงานของคลินิกไปยังห้องตรวจเพื่อนั่งรอคุณหมอหนุ่มหน้าตาเริ่มไม่สบอารมณ์

“ขอรายละเอียดของคนไข้ด้วยครับ” ร่างสูงหุ่นนายแบบพร้อมใบหน้าคมเข้มของหมอหนุ่มเดินเร็วอย่างเร่งรีบเข้ามาในคลินิก เวย์ร้องขอประวัติของคนไข้ที่กำลังรอเขาอยู่ในห้องตรวจ แล้วเดินอ้อมไปทางห้องเล็กด้านข้าง มือหนาที่ขาวสะอาดยื่นไปล้างน้ำยาอนามัยตามขั้นตอนที่ถูกต้องของการล้างมือแล้วปิดท้ายด้วยเจลแอลกอฮอล์อีกครั้งพร้อมหยิบชุดกาวน์แขวนอยู่ที่ราวขึ้นมาสวมก่อนจะรีบเดินเข้าห้องตรวจ สายตาคมเข้มหันไปมองคนไข้สาวเพียงนิดแล้วเดินไปนั่งบนโต๊ะทำงานที่มีแฟ้มประวัติของคนไข้วางอยู่พร้อมกวาดสายตาดูอย่างละเอียด

“เป็นหมอก็ควรรักษาเวลาด้วยนะคะ ไม่ใช่นัดคนไข้มาแล้วให้นั่งรอเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงหงุดหงิดของคนไข้สาวดังขึ้นเมื่อเห็นคุณหมอหนุ่มที่เธอนั่งรอเป็นชั่วโมงมาถึงเสียที เวย์ที่กำลังอ่านรายละเอียดการมาขอรับการรักษาของหญิงสาวและชายตาขึ้นมามองเจ้าของเสียงใสแต่ไม่น่าฟังนั้นทันที

“เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งคนไข้เหรอครับว่าผมเกิดอุบัติเหตุ ให้แจ้งคนไข้ว่าถ้าไม่สะดวกรอก็ให้มาใหม่วันหลัง แต่ที่คุณยังนั่งอยู่ตรงนี้นั่นแสดงว่าคุณเต็มใจที่จะรอ..ขึ้นนอนบนเตียงเลยครับ” ใบหน้านิ่งพร้อมน้ำเสียงที่ราบเรียบตอบกลับอีกฝ่ายทันที พร้อมกับหยิบถุงมือมาใส่เพื่อจะตรวจหญิงสาว

สไมล์หน้าเหวอเมื่อโดนเวย์สวนกลับไปแบบนั้นจนต้องทำหน้ามุ่ยแสดงอาการไม่พอใจออกมา

“ผมนายแพทย์ธิปติพัศ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหมอเวย์ขออนุญาตตรวจนะครับ ช่วยผ่อนคลายด้วยครับชอบทำหน้ายู่ขนาดนี้โบท็อกก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะครับ”

“นี่คุณ”

“ผ่อนคลายครับ” เสียงแข็งก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยน ก่อนจะหันมาสนใจอาการผื่นแพ้บนใบหน้าของดาราสาว

“ฉันจะหายทันภายในอาทิตย์นี้ไหมคะ” น้ำเสียงเจือกังวลถามหมอหนุ่มระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังพิจารณาดูรอยผื่นบนใบหน้าของเธอ

“ดูแล้วผื่นที่ขึ้นบนใบหน้าคุณน่าจะเกิดจากผื่นแพ้สัมผัส ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ได้มีการลองใช้เครื่องสำอางหรือแชมพูอะไรที่ต่างจากของเดิมที่เคยใช้หรือไม่ครับ เพราะเท่าที่ดูอาการแพ้คงเกิดจากส่วนผสมที่มีในพวกเครื่องสำอาง แชมพู หรือน้ำยาทำผมและสีเล็บ” เวย์สอบถามคนไข้สาวพร้อมอธิบายสั้น ๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

สไมล์คิดทบทวนตามคำพูดของหมอหนุ่มว่าสองสามวันนี้เธอได้ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่แปลกไปจากเดิมบ้าง

“แล้วต้องรักษายังไงบ้างคะให้หายเร็วที่สุด”

“ตอนนี้ถ้าหากว่ามีเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่พึ่งทดลองใช้ผมแนะนำให้หยุดก่อน แล้วเดี๋ยวผมจะจ่ายครีมบำรุงและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่ายไปให้ และถ้าหากเป็นไปได้ผมแนะนำให้งดการแต่งหน้าในช่วงนี้ หรือถ้าจำเป็นต้องแต่งกลุ่มเครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจะดีที่สุดครับที่เคาน์เตอร์ด้านหน้ามีขาย อ้อ..ผมขายราคาทุนนะครับไม่ได้เอากำไร แค่อยากให้คนไข้ของผมได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อผิว” หมอหนุ่มให้คำแนะนำคนไข้ในขณะที่มือก็จดอะไรบางอย่างลงไปในแฟ้มประวัติ และไม่ลืมที่จะพูดดักก่อนที่ดาราสาวจะโวยวายขึ้นอีกรอบ

“ถ้าทำตามที่คุณหมอแนะนำภายในอาทิตย์นี้ผิวหน้าของฉันจะหายจากอาการแพ้ที่เป็นอยู่ตอนนี้ใช่ไหมคะ” สไมล์ถามย้ำหมออีกครั้งเพราะสิ่งที่เธอเป็นห่วงตอนนี้คืองานถ่ายโฆษณาโฟมล้างหน้ายี่ห้อดังในอาทิตย์หน้าที่กำลังจะมาถึง

“อยู่ที่ว่าคนไข้ให้ความร่วมมือกับหมอในการรักษาด้วยครับ ถ้าหากว่างดการใช้เครื่องสำอางทุกตัว หรือเลี่ยงตัวที่คิดว่าเป็นสาเหตุของการเกิดอาการแพ้และทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัดประมาณสามสี่วันอาการผื่นที่เห็นบนใบหน้าคุณตอนนี้ก็จะเริ่มหายไป”

“แล้วถ้ามันยังไม่หายล่ะคะ”

“ผมก็จะขอทดสอบอาการแพ้ของคุณด้วยวิธีแพตซ์เทสต์ (PATCH TEST) อีกที และคงใช้เวลาประมาณสองวันหลังจากนั้นเพื่อจะรู้ว่าคุณแพ้สารตัวไหน ผมไม่อยากให้สเตียรอยด์มามีบทบาทในการรักษาโดยไม่จำเป็น ถึงมันสามารถทำให้หน้าคุณกลับมาดีขึ้นเหมือนเดิมได้ทันใจ แต่ผลกระทบที่จะตามมามันอาจจะรุนแรงกว่าที่คุณเจออยู่ตอนนี้” เสียงหวานที่ถามขึ้นมาทั้งที่การรักษาขั้นตอนแรกยังไม่ได้เริ่ม ทำเอาเวย์มองคนไข้ตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉยก่อนจะอธิบายขั้นตอนการรักษาและข้อดีข้อเสียให้ทราบอย่างใจเย็น

สไมล์ที่นั่งฟังขั้นตอนการรักษาจากหมอหนุ่ม จึงได้แต่พยักหน้ารับกับคำแนะนำนั้น เพราะในเมื่อผู้จัดการส่วนตัวของเธอบอกว่าคลินิกแห่งนี้เป็นคลินิกด้านความงามที่ดีที่สุดในตอนนี้แสดงว่านี่ก็คงเป็นการรักษาที่ดีที่สุดแล้วเช่นกัน

เวย์ใช้เวลารักษาประมาณครึ่งชั่วโมงก็แล้วเสร็จและสไมล์ก็รีบเดินทางกลับทันทีโดยมีผู้จัดการขับรถมารับด้านหลังคลินิกเพราะไม่อยากให้ใครเห็น ถึงแม้ว่าปัจจุบันเรื่องการศัลยกรรมเสริมความงามจะเป็นที่ยอมรับและเปิดกว้างแล้วก็ตาม

“คุณหมอว่าอย่างไรบ้างคะ”

“บอกว่าสไมล์แพ้สารจากเครื่องสำอาง แชมพู อะไรพวกนี้แหละค่ะ”

“แล้วคุณหมอเขาได้จัดยาอะไรมาให้หนูทาไหมคะ”

“ให้มาค่ะ แล้วก็ให้เครื่องสำอางอะไรก็ไม่รู้มาด้วยบอกเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค หึ! อยากขายซะมากกว่าไม่ว่า”

“ไหนคะเอามาให้เจ๊ดูหน่อย” ผลิตภัณฑ์ถูกหยิบออกจากถุงเพื่อให้ผู้จัดการดูรายละเอียด

“ว้าย!! ตายแล้ว นี่มันเป็นของเกรดพรีเมียมที่มีขายเฉพาะโรงพยาบาลดัง ๆ ในต่างประเทศเลยนะเพราะราคาสูงมากคนทั่วไปจะไม่ค่อยใช้กัน คุณลูกขาคุณลูกได้ดูยอดค่ารักษาหรือเปล่าคะว่าเมื่อกี้รูดบัตรไปเท่าไหร่” ผู้จัดการสาวสอง ร้องขึ้นเสียงหลงเมื่อเห็นชื่อแบรนด์ที่ติดอยู่ที่กล่องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่สไมล์หยิบขึ้นมาจากถุง

“7 พันค่ะ สไมล์ดูแล้วก็ไม่ได้แพงอะไร” สไมล์ตอบกลับน้ำเสียงปกติไม่แสดงท่าทีตกใจอะไร

“แล้วเครื่องสำอางนี่หนูได้มาฟรีเหรอลูก ราคาเป็นแสนเลยนะคะ”

“ฮะ! เป็นแสน คงงั้นมั้งคะเขาคงอยากให้สไมล์ช่วยโปรโมทคลินิกของเขาหรือเปล่าเลยให้มาลองใช้ฟรี” ดาราสาวตกใจเล็กน้อยเมื่อทราบถึงราคาของที่เธอนั้นได้มาฟรี ๆ แต่ก็แสร้งพูดกลบเกลื่อนออกไป

“ชีวิตจริงไม่ใช่ละครค่ะคุณลูก ธิปติพัศคลินิกเขาดังอยู่แล้ว ไม่ต้องให้ดาราคนไหนโปรโมทคนก็จองคิวกันเต็มแล้วค่ะ” น้ำหวานรีบพูดดักคอดาราในความดูแลไม่ให้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป

“เจ้าของคลินิกปากร้ายแบบนั้น ไม่น่ามีคนมาใช้บริการเลยนะคะ ถึงจะเก่งมากก็เถอะ”