บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 ความแค้นในอดีต

ความแค้นในอดีต

“คุณหมอปุณณ์ไม่กลับไปอยู่บ้านใหญ่หรือครับ” เสียงคนที่ทำหน้าที่เป็นสารถีอย่าง อนุชา เอ่ยถามน้องเจ้านายขึ้นมาทันที

“ไม่ล่ะ ผมไม่อยากไปเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น ผมอยากอยู่คอนโดฯมันใกล้โรงพยาบาลด้วย” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยตอบ แล้วบอกให้คนขับรถมุ่งหน้าไปยังที่พักส่วนตัวของเขาทันที

นพ.ปุณณกันต์ ปิยพัฒนากุล หรือ หมอปุณณ์ หมอหนุ่มเฉพาะทางในวัย 32 ปี ศัลยแพทย์หัวใจ(Cardiac Surgeon) หรือบางครั้งจะเรียกว่า ศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือด(Cardiovascular Surgeons)

พึ่งได้รับตำแหน่งรองฯผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาหมาด ๆ หลังจากที่เขาจบแพทย์เฉพาะทางมาจากต่างประเทศ แต่ยังคงเที่ยวไปรักษาแผลใจอยู่ที่ต่างประเทศเสียนานไม่ยอมมารับตำแหน่งเสียที

“ให้ผมขึ้นไปส่งไหมครับ” อนุชาลูกน้องคนสนิทของพี่ชายถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อรถหรูจอดที่คอนโดมีเนียมหรูสูงเสียดฟ้า

“ไม่ต้องครับ พี่นุกลับบ้านใหญ่ไปเถอะ ขอบคุณมากนะครับสำหรับบวันนี้”

เพราะคนที่เขาไม่ชอบหน้ายังคงอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้น ตั้งแต่พี่ชายพาเธอคนนั้นคนที่เป็นสาเหตุให้บิดาและมารดาของเขาทะเลาะกัน จนรถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเสียชีวิตไปทั้งคู่เมื่อหลายปีก่อน

หนำซ้ำพี่ชายของเขายังคว้าผู้หญิงเพศยาคนนั้นมาเป็นภรรยาและพามาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นอีกด้วย จนเขาต้องเป็นฝ่ายออกมาอยู่ข้างนอกแทน เพราะทนมองหน้ากันไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำร้ายผู้หญิงคนนั้นเข้าสักวัน

ครอบครัวของเขามีธุรกิจเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนดัง มีชื่อเสียงติดอันดับบของประเทศ และเป็นหมอกันทั้งตระกูลกันหมด

บิดาเป็น ‘แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป’(general practitioner, GP) เป็นแพทย์ที่รักษาอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันและเรื้อรังทั่วไป รวมทั้งให้ความรู้ทางด้านสุขภาพและการป้องกันโรคแก่ผู้ป่วยและประชาชน ควบด้วยตำแหน่งผู้บริหารโรงพยาบาล

ส่วนมารดาเป็น ‘แพทย์สูตินรีเวช’(Obstetrics) หรือ (Obstetrician) ซึ่งเป็นแพทย์ที่ดูแลผู้หญิงและทารกในระหว่างตั้งครรภ์และคลอดบุตร

และมีพี่ชายอีกคนเป็น ‘แพทย์ออร์โธปิดิกส์’ (Orthopedics) หรือหมอกระดูกและข้อ ปัจจุบันพ่วงตำแหน่งผู้อำนวยการและผู้บริหารโรงพยาบาลด้วย แทนที่บิดาเสียชีวิตไป

“ต้องทำยังไงเธอถึงจะออกจากบ้านของครอบครัวฉันไป ปรารถนา!!!” เสียงเข้มกดต่ำพร้อมกำแก้วในมือที่บรรจุน้ำสีอำพรางไว้แน่น

กริ่ง กริ่ง กริ่ง

เสียงเครื่องโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังราคาหลายหมื่นแผดเสียงขึ้นมา มืออีกข้างที่ว่างหยิบขึ้นมาดูจ้องมองไปที่หน้าจอ ก่อนที่นิ้วเรียวจะไถลจุดสีเขียวรับสาย

“ครับพี่ปัณณ์” น้ำเสียงปกติขานรับคนจากปลายสาย โดยที่พยายามควบคุมอารมณ์คุกรุ่นที่อยู่ภายในใจ ไม่ให้ประทุออกมา

[ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ได้ข่าวว่ากลับถึงไทยแล้ว]

“คอนโด”

[ทำไมไม่มาอยู่ที่บ้าน จะไปอยู่ที่นั่นให้ลำบากทำไม]

“เมียพี่ออกจากบ้านหลังนั้นไปเมื่อไหร่ วันนั้นแหล่ะที่ผมจะกลับไปอยู่ที่บ้าน”

[เฮ้อ...แกจะอคติกับนาเขาไปถึงไหนกันเจ้าปุณณ์ นี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วน่ะ เมื่อไหร่แกจะลืมเรื่องทั้งหมดแล้วปล่อยวางเสียที]

“คนที่เป็นต้นเหตุยังลอยหน้าลอยตาอยู่ พี่จะให้ผมปล่อยวางอย่างนั้นเหรอ ผมไม่มีวันให้อภัยหรอก”

[ต้องให้พี่อธิบายกี่พันครั้ง ว่านาเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย]

“แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เกี่ยวข้องกับพ่อ หรือพี่จะเถียง”

[พี่ไม่คุยกับแกแล้ว เอาเป็นว่ากลับมาหาหลานบ้างน่ะ น้องปลื้มอยากเจอแก]

“วันไหนที่ผู้หญิงคนนั้นไม่อยู่บ้าน พี่ก็ให้เด็กในบ้านโทรฯมาบอกผมก็แล้วกัน ผมไม่อยากเจอหน้าแม่ของน้องปลื้ม แค่นี่นะครับ”

[เดี๋ยวก่อนสิ]

“อะไรของพี่อีก”

[แกจะเข้าไปโรงพยาบาลวันไหน]

“พี่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีคนช่วยทำงานหรอกครับ ถึงอย่างไรผมก็ไม่เอาเปรียบพี่คนเดียวหรอกน่า แค่นี้นะครับผมอยากพักผ่อน”

เขาวางสายจากพี่ชายแล้ว ก็หยิบบุหรี่เดินออกไปสูบที่ระเบียงข้างนอกอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อนึกถึงใบหน้าผู้หญิงเพศยาคนนั้น

“หึ พ่อกับลูกมีเมียคนเดียวกัน อะไรมันจะทุเรศขนาดนี้” เขาได้แต่แค่นหัวเราะออกมา เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีตที่ไม่น่าจดจำ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“...” ใบหน้านิ่งขรึมขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม มองไปยังประตูทางเข้า ใครกันที่กล้ามาเคาะประตูห้องเขาในตอนนี้

เขาทิ้งบุหรี่ที่พึ่งดูดเข้าไปได้แค่ครึ่งดับลงที่ถาดรอง แล้วจึงสาวเท้ายาวเดินไปที่ประตูต้นทางของเสียงนั้นอย่างจำใจ

“เอ่อคือ...”

สองสายตาสบประสานกันอย่างไม่รู้ตัว เมื่อบานประตูห้องสุดหรูถูกเปิดออก ปรากฏร่างสูงใบหน้าหล่อเหล่าราวกับเทพพระบุตรในนิยายก็ไม่ปราน

“...” สายตาคมของร่างสูงจ้องมองไปที่ร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการสำรวจ เมื่อเธอเอาแต่ยืนมองเขาตาค้างไม่พูดอะไร

“มะ มาทำความสะอาดค่ะ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ เธอก็แทบบจะไม่มีสติ คนอะไรหล่อเป็นบ้าเลย แต่หน้าตาดุไปนิด

เมื่อเธอบอกเช่นนั้นก็จำได้ว่าก่อนขึ้นมาเขาแจ้งกับทางนิติบุคคลไปว่าต้องการแม่บ้านทำความสะอาด ปุณณกันต์จึงเดินกลับไปที่ระเบียง หมายจะจุดบุหรี่ต่อสุด

แคร่ก แคร่ก

“เป็นอะไร ป่วยก็ไม่ต้องมาทำงาน” เสียงทุ้มเรียบนิ่งเอ่ยถาม ที่ได้ยินเสียงคนร่างเล็กไอตั้งแต่เดินเข้ามาภายในห้อง

“เปล่าค่ะ แค่เหม็นควันบุหรี่เฉย ๆ” เธอรีบปฏิเสธแล้วเอ่ยบอกถึงเหตุผล พร้อมกับยกมือขึ้นปิดจมูก เพราะกลิ่นบุหรี่ยังลอยคละคลุ้งเข้ามาเมื่อเขาเปิดประตูระเบียง

“หึ...” ปุณณกันต์แค่นยิ้มมุมปากก่อนที่จะเลื่อนประตูระเบียงปิดคืน แล้วโยนม้วนบุหรี่และไฟแช็คลงที่โต๊ะทันที

“ต้องทำในห้องนอนด้วยไหมค่ะ...” เธอเอ่ยถาม เพื่อขออนุญาต เพราะบางที่ที่เธอไปทำ บางคนจะไม่ให้เข้าไปในห้องนอนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว

“ทำสิ ทุกซอกทุกมุม และต้องสะอาดภายในสองชั่วโมง” เขาพูดพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ทั่วทุกบริเวณห้องสุดกว้างของเขา

“สองชั่วโมง?” เธอเบิกตากว้างขึ้นมาทันที เมื่อมองรอบ ๆ บริเวณห้องเขานั้นไม่ใช่เล็ก ๆ เลย น่าจะเป็นห้องที่กว้างที่สุด และมีห้องเขาห้องเดียวของชั้นนี้

“ทำไม่ได้” คิ้วเข้มขมวดมองเธออย่างท้าทาย

“...” เธอนิ่งไม่ได้ตอบอะไรเขา

“ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไป จะได้โทรฯบอกให้เขาหาคนอื่นมาทำแทน” พูดพร้อมกับยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที

“ทะ ทำได้ค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel