บทที่ 1 คืนเร้ารัก
"เอ้าไม่เคยดื่มก็ต้องลอง พวกเรากำลังจะเป็นหมอเต็มตัวกันแล้วกลัวอะไร" เธอพยายามดันแก้วออกหากจากตัวแต่เหมือนว่าเพื่อนสาวในกลุ่มจะไม่ยอมให้ปฏิเสธพยายามยื้อจะให้เธอดื่มเข้าไป
"ไม่เอาเดี่ยวเมาแล้วกลับหอไม่ได้"
"กลัวอะไรมีแต่เพื่อนร่วมรุ่นทั้งนั้น อีกอย่างเธอต้องออกไปทำงานก็ต้องมีงานเลี้ยงสรรค์สังเข้าสังคมเรื่องดื่มต้องหัดเอาไว้ศร"
"กะก็ได้"ลูกศรจำใจยกแก้วกลั่นใจดื่มแอลกอฮอล์ที่ตัวเองไม่เคยแตะต้องมาก่อนในชีวิตรสชาติคอมบาดคอจนแทบกลืนลงไม่ไหวแต่ก็ขืนแรงยุของกลุ่มเพื่อนไม่ได้แล้วมีแต่ต้องฝืนดื่มให้หมดแก้ว
"เก่งมากเพื่อนสาวชะนีน้อยผู้เรียบร้อยของกลุ่มเรา" หนุ่มตี๋เพื่อนเก้งในกลุ่มของลูกศรปรบมืออย่างถูกอกถูกใจที่ยุยงลูกศรดื่มได้สำเร็จ
"ศรรู้สึกว่าแผ่นดินกำลังไหว ทำยังไงดี!" คนที่โดนเพื่อนแกล้งมอมเหล้าตะโกนโวยวายขึ้นมาดังรั้นโต๊ะในงานเลี้ยงรุ่นของพี่ปีสุดท้ายในการเรียนหมอของคณะ
"ฮ่าๆ ไอ้ศรใจเย็นแก้วเดียวถึงกับเมาโวยวายเลยเหรอเพื่อน" สาวน้อยชื่อว่าลูกศรหันไปมองเพื่อนผ่านเลนส์แว่นตาหนาเตอะของเธอพยายามเพ็งเล็งคนพูดว่าคือใครเพราะสมองของลูกศรตอนนี้มันเบลอไปหมดจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว
"แกเป็นใคร" คนเมาถามเสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนปกติสาวแว่นตัวเล็กจะเป็นคนนิ่งไปเงียบไม่ค่อยพูดนอกจากเวลาออกไปพรีเซ็นงานคืออาจารย์เรียกถามเท่านั้นนอกเรื่องวิชาการคือแทบจะไม่คุยอะไรกับใครเลย
"แจน!เพื่อนคนสวยหุ่นอวบๆ น่ารักๆ ของแกไงยัยแว่น" คนเมาพยักหน้ารับ
"อ่อยัยอ้วนตุ้ยนุ้ยของกลุ่มฉันนี้น่า" คนเมาเริ่มจำเพื่อนสนิทที่คบกันมาตลอดหกปีได้แล้ว
"นังแว่นนี้แกจะว่าฉันเกินไปแล้ว ฉันแค่อวบๆ กำลังน่ารักยังไม่ถึงกับอ้วนร้ายกาจเกินไปแล้วนะพอเมาเนี้ย" สาวน้อยตุ้ยนุ้ยโวยวายด้วยความงอนเพื่อน
"ก็ฉันพูดความจริงเมื่อวันก่อนแกไปชั่งน้ำหนักหน้าเซเว่นน้ำหนักขึ้นมา68โลแล้วอ้วนจนจะเดินไม่ไหวแล้วต้องลดเลิกของหวานมันทอดด่วนนะ!" คนเมาชี้หน้าว่าเพื่อนสะเปะสะปะถูกคนบ้างไม่ถูกคนบ้างด้วยความที่มองไม่ชัด
"ร้ายกาจมากนังแว่นคนหัดเมา!" แจนชี้หน้าคนเมากับอย่างโมโห
"ฉันว่าแก้วเดียวลูกศรก็เมาแล้วแก้วต่อไปไม่น่าจะไหวแล้วล่ะ" หนุ่มหล่อเข้มฉบับหนุ่มภาคใต้เพื่อนเก่งอีกคนในกลุ่มพูดขึ้น
"ไหว!" คนเมาแล้วรู้สึกคึกขึ้นมาทันทีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแย้งแก้วเหล้าจากคนพูดไปดื่มรวดเดียวหมดเพื่อนอวดอ้างตัวเองให้เหล่าเพื่อนที่กำลังจ้องมองเธอตาโตอย่างอึ้งงั้น
"ฮ่าๆ ชะนีหล่อนใจแตกแล้วนะยัยแว่น" หนุ่มตี๋หัวเราะลั่นอย่างขบขำเมื่อตั้งสติได้จากนั้นเพื่อนอีกสองคนที่หายอึ้งก็ต่างขำคนเมาแล้วรินเหล้าซนกับคนเมาอย่างเฮฮาต่อ
"เอาๆ มาซนแก้วยัยแว่น" สาวน้อยอวบมากซนแก้วสาวน้อยแว่นหน้าพลางหัวเราะลั่นปกติชวนยัยแว่นนี้ไปร้านเหล้าตลอดหกปีที่เรียนด้วยกันมามีแต่คำว่าไม่แล้วลุกหนีอย่างเดียวแต่พอตอนนี้ได้ลองดื่มกับเปลี่ยนเป็นคนล่ะคนแถมยังไม่เมาหลับน็อกกลางอากาศอีกด้วยถือว่าคอแข็งใช่ย่อย
"จะไปไหนยัยลูกศร!" คนเมาลุกขึ้นจากโต๊ะทั้งที่ในมือของเธอยังถือแก้วเหล้าเอาไว้ไม่ปล่อยทำเอาเพื่อนทั้งสามคนตกใจยกใหญ่
"ปวดฉี่!" คนเมาตอบมาเสียงดังจนเรียกสายตาเพื่อนโต๊ะใกล้ๆ กันมองมาด้วยความขำคนเมา
"แกไปคนเดียวไม่ไหวหรอกเดียวฉันไปเป็นเพื่อน" สาวน้อยอวบมากรีบลุกขึ้นแย้งไปด้วยทั้งๆ ที่ตัวเองก็เริ่มเมาด้วยเหมือนกัน ส่วนเพื่อนชายใจหญิงอีกสองคนมองมาแต่คิดว่าปล่อยให้ผู้หญิงแท้สองคนไปห้องน้ำกันเองจะเหมาะมากกว่า
"ศรแกเดินกลับโต๊ะไปหานังเก้งสองคนนั้นได้ไหมพอดีแม่ฉันโทรมาที่บ้านมีเรื่องต้องกลับด่วนคงไปส่งแกไม่ได้แล้ว" แจนมองลูกศรอย่างเป็นห่วงแต่ที่บ้านเกิดเรื่องด่วนต้องรีบกลับตอนนี้เท่านั้นเธอเลยจำเป็นต้องทิ้งเพื่อนที่พึ่งเคยดื่มเหล้าเมาครั้งแรกเอาไว้ในงานเลี้ยงรุ่นนี้
"ไปเลยฉานกลับเองได้สบายมากแกไม่ต้องห่วงงง" คนเมาที่พอจะมีสติอยู่บ้างโบกมือไล่เพื่อนที่มีธุระด่วนกะทันหันอย่างเข้าใจ
"เอ่อๆ เดินกลับเข้างานดีๆ นะศรไปแล้ว" สาวน้อยตัวอวบมองเพื่อนอย่างเป็นห่วงแต่คนที่บ้านก็โทรมาเร่งทำให้เธอจำใจจากไปหวังว่าจะไม่เป็นอะไรนะลูกศร
ส่วนคนเมาก็เดินเซๆ เข้ามาจนถึงโต๊ะเดิมที่เธอนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนก่อนหน้านี้แต่ว่าเก้งสองคนที่นั่งรออยู่ออกไปเต้นกับเพื่อนในคณะหน้าเวทีกันหมดแล้วทำให้มีแต่โต๊ะไม่มีคนอยู่แล้ว ลูกศรที่ยังไม่หายมึนเมาก็ดื่มน้ำเปล่าเข้าไปเพื่อหวังว่าจะส่างเมาขึ้นมาบ้างนั่งอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อนทั้งสองคนก็ยังสนุกกับการร้องเต้นไม่กลับมาสักทีเลยเลือกพิมพ์ข้อความบอกจะกลับก่อนเพราะไม่ไหวแล้ว
ลูกศรเดินออกมาจนถึงหน้าโรงแรมหรูที่จัดงานเลี้ยงมองหน้าแท็กซี่อยู่ๆ ก็มีผู้ชายมีฉุดแขนเธอเอาไว้
"เดี๋ยวก่อน!" ลูกศรหันไปมองตามแรงรั้นอย่างมึนงง
"เธอช่วยฉันหน่อยสิขอร้อง" ลูกศรที่เมาอยู่มองจ้องคนพูดว่าเป็นใคร
"อะอาเธอร์!" ผู้ชายที่ลูกศรแอบชอบมาตลอดแต่ไม่เคยได้พูดคุยกันมาก่อนถึงแม้จะเรียนคณะเดียวกันมาตลอดหกปีที่ผ่านมาก็ตามอยู่ๆ เขาก็มาดึงแขนของเธอเอาไว้ตอนนี้
"คือว่าเราถูกวางยาปลุกเซ็กส์มาอยากให้เธอช่วยกันคนที่วางยาเราหน่อยได้ไหมแกล้งมาด้วยกันหน่อยนะขอร้อง"
"อืมได้สิ" ไม่รู้ว่าเพราะไม่ค่อยมีสติไม่สร่างเมาหรืออาจจะเรียกว่าเต็มใจแต่ขาเจ้ากรรมก็ก้าวเดินตามแรงชักจูงของคนที่แอบชอบไปโดนไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปไหน
ขึ้นลิฟต์มาจนถึงหน้าห้องพักห้องหนึ่งคนที่พาเธอมาก็แตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้อง
"ขอบใจมาก เธอไปอยู่ในห้องน้ำจะปลอดภัยอย่าออกมาเด็ดขาดจนกว่าจะเช้าเดียวพรุ่งนี้เราตอบแทนเธอนะ" อาเธอร์ผลักลูกศรเข้าไปในห้องน้ำ พอเข้ามาในห้องน้ำก็ได้ยินเสียงเคาะประตูรัวจากด้านนอกห้องและได้ยินเสียงครางของอาเธอร์ที่อยู่ในห้องดังมาในห้องน้ำที่ลูกศรอยู่
แต่เสียงครางที่เหมือนจะทรมานเจียนตายของคนที่ลูกศรแอบชอบจากที่เมาๆ ไม่ค่อยมีสติแต่ความรู้สึกด้านหนึ่งกับทำให้เธอเห็นใจเจ้าของเสียงจนอกทนไม่ไหวเปิดประตูออกมาเมื่อเสียงเคาะประตูเงียบลง
"อาเธอร์ให้เราช่วยไหม" ลูกศรพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"เธอแน่ใจนะว่าจะยอมมีอะไรกับเรา แต่เราคงไม่รับผิดชอบเธอเพราะยาปลุกเซ็กส์นะ" อาเธอร์พูดขึ้นทั้งที่ตัวเขาจะไม่ไหวแล้วใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อที่ผุดขึ้นมาด้วยความทรมาน
"เรายอมถะถ้าจะช่วยให้เธอไม่ทรมานอย่างนี้" ลูกศรคิดว่าเธอทนเห็นผู้ชายที่เธอแอบชอบทรมานถึงตายต่อหน้าไม่ได้ คนเรียนแพทย์จนจะจบอยู่แล้วย่อมรู้ผลของยาปลุกเซ็กซ์ดียิ่งไม่ได้มียาแก้มากินยิ่งยากเพราะเสียงเคาะประตูด้านนอกห้องดังขึ้นมาอีกแล้วแสดงว่าคนทีาคุกคามยังไม่ยอมล้าถอยไปไหนทีที่จะออกจากห้องไปโรงพยาบาลตอนนี้ได้
"อืมขอบใจเธอมาก" อาเธอร์ผลักลูกศรลงนอนแล้วขึ้นคร่อมทาบทับร่างของลูกศรจากนั้นก็เริ่มขั้นตอนปลดปล่อยความทรมานออกจากร่างกายของเขามาในตัวของเธออย่างรุนแรงและหลายต่อหลายรอบจนกว่าฤทธิ์ยาจะหมดก็ใช้เวลาไปนานกว่าค่อนคืนจนเกือบเช้าเล่นเอาคนไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนสลบลงกลางอากาศโดยไม่รู้ว่าเขาจะหยุดพักลงตอนไหน
