ตอนที่ 3 ไปรับเมีย
ณัฐวดีนั่งคุยกับแม่สามีอีกครู่ใหญ่ก็ขอตัวออกไปข้างนอก หญิงสาวไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง กุลนิดาจึงสั่งให้คนขับรถที่บ้านไปส่ง และไม่ต้องรอรับให้กลับมาได้เลย เรื่องรับกลับบ้านให้เป็นหน้าที่ของคนเป็นสามีเถอะ
กริ๊ง!!!...รัชชานนท์ล้วงมือหยิบมือถือมาจากกระเป๋ากางเกง ครั้นเห็นเบอร์โทรเข้าก็รีบกดรับสาย ไม่เจอหน้ากันหลายวันคงจะคิดถึงแล้ว รู้หรือยังผลของการบังคับเขาเป็นอย่างไร
“ว่าไงครับ คิดถึงนนท์แล้วเหรอ”น้อยครั้งนักที่จะเห็นว่าหมอศัลยกรรมมือทองออดอ้อนใครสักคน หมออาร์มเพื่อนในแผนกถึงกับยักคิ้วหลิ่วตาหยอกล้อ
“อิจฉาคนมีเมียโว้ย เพิ่งออกจากบ้านไม่เท่าไร เมียก็โทรตามละ”
“เดี๋ยวกูถีบ ไปไกล ๆ เลยไอ้อาร์มนี่แม่กูเว้ย ไม่ใช่ยัยหนูผี”ไม่ใช่เดี๋ยวกูถีบหรอก แต่ถีบไปแล้วต่างหาก
หมออาร์มถลึงตาใส่ ยกมือปัดเสื้อกาวน์ตนเอง ดีที่มันถอดรองเท้าไม่อย่างนั้นเขาไม่ต้องใส่เสื้อกาวน์ที่เป็นรอยฝ่าเท้าของไอ้เพื่อนชั่วหรอกหรือ
หมอหนุ่มไม่กล้าแซวเพื่อนตนเองอีก เขาคว้าstethoscopeขึ้นมาห้อยคอและสะบัดหน้าเดินหนีออกจากห้อง ไม่สนใจอีก
“อะไรกันตานนท์พูดไม่เพราะเลย”
“โธ่..คุณแม่ครับนนท์พูดกับเพื่อนนะ ไอ้อาร์มน่ะแม่จะให้นนท์พูดกับมันยังไง คุณอาร์มครับกรุณาไปไกล ๆ ไม่อย่างนั้นผมจะประเคนฝ่าเท้าให้นะครับ แบบนี้เหรอ”กุลนิดาถลึงตาขึ้น ถึงแม้ลูกชายตัวแสบนี่จะไม่เห็นก็ตาม
“พอเลยตานนท์จะกวนประสาทให้ได้อะไรขึ้นมา แล้วเมื่อเช้ายอมกลับบ้านแล้วใช่ไหม นี่ถ้าไม่กลับต่อไปก็ไม่ต้องกลับมาอีกเลย ลูกคนเดียวแม่ตัดทิ้งได้ จะบอกได้หรือยังว่าไปนอนไหนมาทำไมปล่อยให้เมียตัวเองเฝ้าบ้านคนเดียว เรานี่มันยังไงจะต่อต้านแม่เหรอ ตกลงกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอ นนท์ไม่ต้องเล่นการเมืองสืบทอดเจตนารมณ์ของที่บ้านก็ได้ ทั้ง ๆ ที่ครอบครัวเราเป็นนักการเมืองมาทุกยุคทุกสมัย แต่นี่แม่ก็ตามใจนนท์แล้ว ยอมให้ไปเป็นหมออย่างที่ลูกอยากเป็น แต่ขอแค่...”
“แม่ครับนนท์ก็แต่งงานกับยัยหนูผีตามใจแม่แล้วไง แล้วยังจะเอายังไงอีก”เขาเถียงออกมาโดยไม่รอให้คนเป็นแม่พูดจบ
ทุกคนอยากให้เขาแต่งงาน เขาก็แต่งแล้ว แต่นี่ยังจะมาบังคับถึงเรื่องเข้าหออีก มันไม่เกินไปหน่อยหรือ
“เอายังไงอีกเหรอตานนท์!!!...แต่งงานแต่ไม่ค้างกับเมีย ไม่นอนกับเมียแล้วแม่จะอุ้มหลานจากที่ไหน ไม่รู้ละแม่อยากได้หลาน เราไม่เล่นการเมืองแต่คุณพ่อเขาก็หวังว่าหลานชายเขาจะสืบทอดความต้องการของเขา นนท์ก็เห็นความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ดีนัก พ่อเขาอยากช่วยเหลือคนจน ให้สิทธิ์ให้เสียงคนเหล่านั้น ที่พ่อเล่นการเมืองก็เพื่ออนาคตของประเทศในวันข้างหน้า รุ่นพ่ออาจจะยังไม่เห็นผล แต่รุ่นหลานรุ่นเหลนมันต้องเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ”
“แล้วเป็นหมอช่วยคนไม่ได้เหรอครับแม่ นนท์เป็นหมอก็เพื่อรักษาคนไข้ อีกอย่างครอบครัวคุณตาก็เป็นหมอเหมือนกัน ไม่ใช่แค่นักการเมืองที่ช่วยคนได้ หมอก็ช่วยได้เหมือนกัน”
“นนท์...แม่เข้าใจลูกนะ แต่แม่อยากให้ลูกเข้าใจพ่อกับแม่ด้วย พวกเรามีลูกแค่คนเดียว หนูนัดเป็นเด็กดีให้โอกาสเธอหน่อย ลูกจะตกหลุมรักเธอไม่ยากเลย วันนี้หนูนัดไปคลินิก นนท์ไปรับน้องกลับบ้านหน่อยนะลูก”รัชชานนท์ถอนหายใจออกมา ไม่อยากจะเถียงกับแม่อีก เถียงไปชนะแล้วอย่างไร ก็ดีแต่ทำให้ท่านเสียใจ หากวันนั้นเขาไม่เห็นน้ำตาคนเป็นแม่ เขาไม่มีวันยอมแต่งงานแน่ ๆ สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตก็คือน้ำตาของคนเป็นแม่นี่แหละ
“ได้ครับเดี๋ยวเลิกงานนนท์ไปรับให้ จะปูพรมแดงตั้งแต่รถจนถึงหน้าคลินิกคุณเมียของผมเลยครับ พอใจยัง”คำพูดที่ประชดประชันออกมา อยากรู้จริง ๆ เขาหรือยัยหนูผีเน่านั่นกันแน่ที่เป็นลูก
“ถ้าทำให้น้องเสียใจอย่าหาว่าแม่ใจร้ายแล้วกัน” กุลนิดายกมือขึ้นกุมศีรษะอยากจะซัดไอ้เด็กปากดีนั่นสักป๊าบ ก็แค่ให้ไปรับเมียมันจะประชดทำไมกัน
หลังวางสายหมอหนุ่มก็ทิ้งตัวพิงเก้าอี้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเวลาที่ได้ต่อปากต่อคำกับคุณแม่พลันหุบลง เรื่องเล่นการเมืองเป็นสิ่งที่ติดค้างครอบครัว เขารู้ดีแต่ใจมันไม่ชอบจริง ๆ
คุณพ่อเคยบอกว่า หากท่านมีลูกอีกหลาย ๆ คนจะไม่บังคับเลย แต่ทว่าคุณแม่คลอดเขามาได้แค่คนเดียวเท่านั้น
ความจริงเขามีพี่หรือน้องที่เป็นฝาแฝด แต่พี่น้องเขาก็จากไปตั้งแต่อยู่ในท้องได้เจ็ดเดือน และตัวเขาเองก็คลอดก่อนกำหนด หลังจากนั้นมาคุณแม่ก็ไม่สามารถตั้งท้องได้อีก เพราะอย่างนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ติดค้างพ่อกับแม่เป็นอย่างมาก และเพราะตอนเด็ก ๆ ไม่ค่อยแข็งแรงคนที่บ้านจึงได้ตามใจไม่เคยขัด พอมาถูกขัดใจเรื่องแต่งงาน ในใจมันยากที่จะยอมรับจริง ๆ
************************
