ตอนที่ 19
โยชิจับจ้องที่ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ ดวงตากลมโตของอีกฝ่ายคล้ายสะกดให้ดึงดูดยามสบตา เขาไม่เอ่ยอะไรไปสักพักก่อนจะลอบระบายลมหายใจออกมา
ให้ตายสิ...คนอะไรน่าจับกินชะมัด
ความคิดนั่นเกือบจะหลุดออกมาเป็นคำพูดด้วยซ้ำ เขาจึงรีบกระแอมไอขัดอารมณ์ฟุ้งซ่านออกจากสมองโดยเร็ว ก่อนที่มันจะถลำลึกจนลงมือทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง อย่าลืมว่าฝ่ายนั้นเป็นตำรวจสายโหดที่ใครๆ ต่างก็พึงระวัง เจ้าตัวมีสัมผัสที่เฉียบไว หากเขาเผลอแสดงตัวออกนอกหน้ามากไป มีแต่จะทำให้ถูกสงสัยและถูกจับได้ในที่สุด
หลังสงบสติอารมณ์ตัวเองให้คงที่ โยชิขยับกายเปลี่ยนใช้แขนทั้งสองข้างวางพาดไว้กับพนักพิงของโซฟา แล้วจึงเริ่มเอ่ยปากถามคนตรงหน้าอีกครั้ง
"ทำไมถึงคิดว่าคนพวกนั้นต้องการหยั่งเชิง ในเมื่อธุรกิจของฉันยังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว อะไรเป็นเหตุให้พวกเขาต้องเสียเวลาทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง"
"คุณโยชิลืมแล้วเหรอครับว่าพวกเราเป็นใคร"
อย่างที่คิด ชายหนุ่มตรงหน้าเธอขมวดคิ้วคล้ายพยายามนึกว่าตนพลาดอะไรไป และเมื่อหญิงสาวเอ่ยปากโดยไม่รอคำตอบของอีกฝ่าย ถึงกับทำให้เจ้าตัวถึงบางอ้อในทันที
"...เพราะพวกเราเป็นมาเฟียไงครับ"
คำตอบของแพรวาแม้จะอยู่เหนือความคาดการณ์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจทำให้นายน้อยมาเฟียแอบสะกดกลั้นรอยยิ้มไว้ในใจ ชายหนุ่มไม่นึกจะเล็งถึงปัญหาที่ตัวเองพยายามทำ แต่คนๆ นี้ที่เป็นตำรวจแอบแฝงเข้ามากลับคิดเผื่อล่วงหน้าเสร็จสัพ แถมหาทางออกของปัญหาและเหมือนจะเตรียมการรับมือไว้รอเสียด้วยซ้ำ
"นี่ไม่ใช่ว่าฉันทำธุรกิจบังหน้าหรอกเหรอ นายกำลังจะบอกว่าทุกอย่างที่ทำไป เพื่อต้องการปกปิดซ่อนเร้นสิ่งอื่นหรือไง...พีระ"
"แล้วไงครับ"
"..."
"เราจะทำอะไรบังหน้าทำไมต้องสนใจ ในเมื่อเป้าหมายของเราชัดเจนอยู่แล้ว คนรอดคือคนที่รู้จักว่าตนเองยืนอยู่จุดไหน"
คำพูดของหญิงสาวแทบจะแทงทะลุอกของเขา ทำไมนะ...เธอคนนี้สมควรเป็นมาเฟียมากกว่าเป็นตำรวจซะอีก ถ้าบอกให้เธอลาออกแล้วมาเดินอยู่บนเส้นทางสีเทาเหมือนเขา บางทีลูกตะกั่วคงถูกยัดแบบส่งๆ ใส่สมองเขาแน่ๆ
"มีใครเคยบอกมั้ยว่านายน่ากลัว"
หางตาของหญิงสาวคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มขยับขึ้นเล็กน้อยก่อนกล่าวประโยคสั้นๆ ออกมา
"เยอะแยะครับ"
หลังคุยกับโยชิต่ออีกเกือบครึ่งชั่วโมง แพรวาก็ถูกสั่งให้ออกไปจากห้อง หญิงสาวค่อมศีรษะให้นายน้อยแห่งตระกูลเซคุนาวะแล้วจึงปิดประตูต้องห้องทำงานให้เขาอย่างเงียบเชียบ
ดวงตากลมโตของเธอขยับมองบนมุมเพดานไม่ไกลจากตัวมากนัก ตรงนั้นมีกล้องวงจรปิดกำลังบันทึกภาพจากมุมสูงส่วนหนึ่งภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ และถัดไปอีกไม่กี่สิบเมตรยังมีกล้องติดไว้ราวสี่ถึงห้าตัว การป้องกันและการจับตาดูของตระกูลใหญ่เป็นภารกิจสุดหินที่แทบจะทำเธอกระดิกตัวไม่ได้ ระดับความยากมากกว่าวิ่งไล่จับพวกค้ายาในโกดัง และซุ่มโจมตีพวกค้าไม้เถื่อนในป่าซะอีก
แต่จะให้ตัดใจกับอาชีพและความรับผิดชอบก็ไม่ใช่วิสัยของเธอ ทุกอย่างมีทางไปเสมอ สำหรับเธอนั่นคือสิ่งที่ยึดมั่น การหาหลักฐานเพื่อจับไอ้พ่อค้ายาข้ามชาติจะเป็นแรงกระตุ้นและผลักดันให้เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อเก็บข้อมูล
และเธอต้องทำมันให้สำเร็จ
"อ้าว! คุณพีคุยกับนายน้อยเสร็จแล้วเหรอครับ"
เสียงริวยะดึงความคิดให้กลับมา แพรวาหันมายิ้มแบบมีมารยาทให้อีกฝ่ายก่อนตอบกลับ
"ครับ เรียบร้อยแล้ว"
"นายน้อยเป็นไงบ้าง เขาโมโหใส่คุณรึเปล่า"
"เปล่าครับ แค่ถามเรื่องงานนิดหน่อย"
สีหน้าโล่งใจของริวยะสะท้อนเข้าดวงตาของหญิงสาว เห็นเขาเป็นคนแบบนี้แต่ริวยะไม่ใช่คนที่สมควรประมาท การหย่อนยานการป้องกันตัวนั่นเป็นแค่อารมณ์ชั่วคราวของเขา คนที่อยู่ข้างกายโยชิได้นั้น นอกจากจะเป็นคนสนิทยังต้องมีไหวพริบและมีทักษะการต่อสู้ขั้นสูง
แค่เขาแสดงออกถึงท่าทางสบายๆ ใช่ว่าจะเป็นของจริงซะทีเดียว
"งั้นเหรอครับ ว่าแต่คุณพีจะไปไหนต่อ"
"ผมว่าจะกลับห้องพักสักหน่อยครับ คุณโยชิบอกว่าให้เตรียมพร้อมสำหรับงานถัดไป"
