บท
ตั้งค่า

Prologue

ตึก ตึก ตึก

เสียงของส้นรองเท้าที่ดังกระทบพื้นหินอ่อนเรียกสายตาจากเหล่าชายฉกรรจ์นับสิบคนให้หันไปมองยังเรือนร่างบอบบางในชุดเสื้อนักศึกษาตัวโคร่งกับกระโปรงพลีทสีดำสนิทความยาวกรอมเท้าเป็นตาเดียว และถึงแม้ว่าชุดที่เธอใส่จะไม่ได้โชว์เนื้อหนังมากนัก แต่มันก็ไม่สามารถปกปิดความเซ็กซี่ของหุ่นทรงนาฬิกาทรายของเธอได้มิด โดยเฉพาะหน้าอกของเธอที่โดดเด่นออกมาจากเสื้อสีขาว...ทุกอย่างบนตัวของเธอนี่ช่างยั่วยวนให้สัมผัสเสียเหลือเกิน

หญิงสาวที่ทำให้ผู้ชายร่างกำยำทั้งหลายพากันกลืนน้ำลายลงคอผู้นี้คือ ‘ทอรุ้ง พิรุณประกาย’ นักศึกษาชั้นปีที่สาม คณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัย CS มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศ อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงมีคำถามเดียวกันคือเพราะเหตุใดนักศึกษาสาวที่เพิ่งเลิกเรียนถึงรีบตรงดิ่งมายังโรงแรมหรูระดับห้าดาวใจกลางเมืองทั้งที่ยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เช่นนี้ คำตอบก็คือ...

...เธอมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ

มันเป็นภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเธอก็เต็มใจที่จะทำเสียด้วย

“บอสรออยู่บนชั้น 13 แล้วครับ” คีย์การ์ดห้องสูทที่แพงที่สุดของโรงแรมถูกยื่นมาตรงหน้าทอรุ้ง เธอพยักหน้าก่อนจะรับมันมาถือไว้ในมือแลกกับกุญแจรถสปอร์ตคันหรูซึ่งตอนนี้จอดอยู่หน้าประตูโรงแรม

“ฝากเอารถไปเก็บให้ทีนะคะ”

“ครับ”

การสนทนาจบลงแค่นั้น ขาเรียวบนรองเท้าผ้าใบมอมแมมก้าวเดินผ่านไหล่ของชายคนสุดท้ายไป แต่ยังไม่ทันจะพ้นโถงทางเดิน เธอก็ตกเป็นขี้ปากคนพวกนั้นอีกจนได้

“น่าเย็ดฉิบหายเลยว่ะ”

“อย่าแม้แต่จะคิดเลยนะมึง ยัยนั่นเป็นเด็กของบอสเชียวนะเว้ย”

“เออ กูรู้น่า! แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเด็กบอสตลอดไปสักหน่อย ยังไงสักวันเธอก็ต้องถูกบอสเขี่ยทิ้งอยู่ดี และถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่...กูจะเป็นคนแรกที่กระแทกร่องหลวมๆ นั่นเอง หึๆ”

“งั้นกูขอเป็นคนที่สองนะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะลีลาเด็ดแค่ไหน บอสถึงได้หลงหัวปักหัวปำมาเกือบหนึ่งปีแบบนี้”

“ก็คงจะร่านน่าดูนั่นแหละ มึงดูนมมันดิ ขนาดใส่เสื้อตัวใหญ่ขนาดนั้น ก็ยังเห็นแม่งเด้งดึ๋งๆ อยู่เลย...โคตรอยากขยี้”

“เออจริง ถ้ากูเป็นบอสนะ กูจะดูดนมนังเด็กนั่งดริ๊งนั่นให้ยานจนถึงตีนเลย”

“ส่วนกูก็จะเอาแม่งจนเดินไม่ได้ไปสักอาทิตย์นึงเลย ฮ่าๆๆๆ”

“พูดแล้วก็เงี่ยนว่ะ สงสัยคงต้องแอบถ่ายรูปมันแล้วเอาไปชักว่าวสักหน่อยละ ฮ่าๆๆๆ”

เพราะแบบนี้ไง...การคุมกำเนิดถึงเป็นเรื่องสำคัญ

เพื่อไม่ให้มีผลผลิตไร้ค่าเช่นนี้ออกมาเดินเพ่นพ่านอยู่บนโลก เราจึงมีนวัตกรรมที่เรียกว่า ‘ถุงยางอนามัย’ และ ‘ยาคุมกำเนิด’ ออกมาให้ได้ใช้สอย แต่ก็ต้องยอมรับว่าวิธีการอันแสนสะดวกสบายเหล่านี้ไม่ได้เข้าถึงมนุษย์ทุกคน และเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าอสุจิตัวไหนมันจะดีหรือไม่ดี ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดท้ายแล้วเราก็ยังต้องอยู่ร่วมกับ ‘สัตว์ประเสริฐ’ บางตัวที่มีสมองอยู่ตรงกลางระหว่างขาจนกว่าจะตายกันไปข้าง

ทอรุ้งได้พิสูจน์แล้วว่าการแต่งตัวไม่มีผลต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลยสักนิดเดียว เพราะไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยเพียงใด มิดชิดขนาดไหน แต่ถ้าจิตใจของคนเราอยู่ใต้โคนตม ต่อให้เริ่มต้นมาดีแค่ไหน ยังไงมันก็จบลงที่การสำรอกถ้อยคำที่โง่เง่าเหมือนไม่ได้ผ่านสมองออกมาอยู่วันยันค่ำ

การถูกคุกคามทางเพศไม่ควรจะกลายเป็นเรื่องปกติในสังคม คนทุกเพศทุกวัยสมควรได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียม และถึงแม้ว่าทอรุ้งจะเคยได้ยินถ้อยคำลวนลามแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอก็ไม่คิดที่จะปล่อยผ่านมันไปอีกแน่นอน

ติ๊ง!

‘ชั้นสิบสามค่ะ’

ครืด

“สวัสดีครับ คุณทอรุ้ง”

“สวัสดีค่ะ คุณเบนจามัน”

ทันทีที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ทอรุ้งก็พบกับผู้ชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทพอดีตัวซึ่งต่างจากเครื่องแบบของพวกคนที่อยู่ด้านล่างอย่างชัดเจน เขาคือ ‘เบนจามิน สมิธ’ บอร์ดีการ์ดมือขวาของคนที่ทอรุ้งต้องมาพบในวันนี้ และแน่นอนว่าเบนจามินต่างจากพวกบอร์ดีการ์ดหางแถวพวกนั้นโดยสิ้นเชิง เขา ‘อยู่สูง’ กว่านั้นมาก

“คุณมาสายไปหนึ่งนาทีนะครับ” เบนจามินพูดเสียงเรียบพลางมองนาฬิกาข้อมือ

“พอดีรถติดน่ะค่ะ” ทอรุ้งหัวเราะแห้ง เธอแอบกลอกตามองบนให้กับความเจ้าระเบียบของเบนจามิน สมแล้วที่เป็นหัวหน้าบอร์ดีการ์ด...เป๊ะทุกระเบียดนิ้วจริงๆ

“เข้าไปเถอะครับ บอสกำลังรอคุณอยู่”

เบนจามินผละตัวออกจากบานประตูสีดำด้านเพื่อหลีกทางให้ทอรุ้ง แต่เธอกลับไม่ยอมแตะคีย์การ์ดแล้วหันมาทำหน้าจริงจังใส่เขาแทน

“...อะไรครับ?”

“หนูมีเรื่องที่ต้องบอกคุณก่อนค่ะ”

“หือ?”

กึก

ทอรุ้งยกโทรศัพท์ขึ้น เธอกดปุ่มเพลย์บันทึกเสียงล่าสุด

‘เออ กูรู้น่า! แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเด็กบอสตลอดไปสักหน่อย ยังไงสักวันเธอก็ต้องถูกบอสเขี่ยทิ้งอยู่ดี และถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่...กูจะเป็นคนแรกที่กระแทกร่องหลวมๆ นั่นเอง หึๆ’

สิ่งที่ได้ยินไม่ได้ทำให้เบนจามินทำอะไรไปมากกว่ายืนนิ่งเฉยเหมือนเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว ใบหน้าหล่อแบบตะวันตกยังคงไว้ซึ่งความเงียบสงบ ดวงตาสีฟ้าว่างเปล่าและเยือกเย็นราวกับภูเขาน้ำแข็งไม่เปลี่ยนแปลง

“จะให้ผมทำยังไงครับ?” เขาถาม

“ช่วยจัดการให้ทีค่ะ” ทอรุ้งพูดพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าตามเดิม “จะไล่ออกเหมือนเดิมหรือทรมานก่อนไล่ออกก็ได้ ขอแค่หนูไม่ต้องเจอพวกเขาอีกก็พอ”

“โอเคครับ”

“แต่อย่าบอกคุณไลนะคะ”

“....”

“หนูไม่อยากให้พวกเขาถึงขั้น ‘ตาย’ น่ะค่ะ”

“ครับ”

บอกแล้ว...ว่าเบนจามินไม่เหมือนคนพวกนั้น

ในความคิดของทอรุ้ง เบนจามินคือพี่ชายที่เธอสามารถไว้ใจได้ ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรลับหลังเธอบ้างรึเปล่า แต่แค่ต่อหน้าเขาให้เกียรติเธอในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เธอก็พอใจแล้ว

ทอรุ้งถูกบอร์ดีการ์ดระดับล่างลวนลามทางสายตาและคำพูดมาหลายต่อหลายครั้ง และเบนจามินก็เป็นคนที่จัดการเรื่องในเธอทุกครั้ง เขาเป็นเหมือนเกราะป้องกันของเธอ และเขาจะเป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะหมดประโยชน์ต่อเจ้านายของเขา

“ขอบคุณนะคะ ^^”

ทอรุ้งกล่าวขอบคุณก่อนจะหันไปแตะคีย์การ์ดลงบนช่องข้างประตู เธอโค้งศีรษะให้เบนจามินเล็กน้อย มือเล็กยกขึ้นจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะเปิดประตูออก

กึก

ประตูถูกปิดลงแล้ว ทอรุ้งก้าวขาเข้ามาภายในห้องก่อนจะก้มลงถอดรองเท้าออก เธอพยายามทำทุกอย่างให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้คนที่กำลังนั่งหันหลังอยู่บนอ่างจากุชชี่กลมรู้สึกตัว หญิงสาวย่องเข้าไปหาชายเจ้าของแผ่นหลังซึ่งมีรอยสักรูปมังกรขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง มือบางค่อยๆ เอื้อมออกไปข้างหน้าก่อนจะปิดตาเขาอย่างรวดเร็ว

“จ๊ะเอ๋!!!”

“โอ๊ะ ตกใจจังเลย”

“โห่ คุณไลอ่า~ นี่รู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ยคะเนี่ย?” ทอรุ้งทำหน้ามุ่ย ไหล่เล็กลู่ลงอย่างผิดหวัง

“ฮ่าๆ ก็รุ้งเล่นปิดประตูซะดังเลยนี่นา” เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับหญิงสาว ริมฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มอ่อนโยนเมื่อสบกับดวงตาสีเปลือกไม้ “สวัสดี”

ตึกตัก ตึกตัก

“สะ สวัสดีค่ะ”

ดวงตาสีดำสนิทดุจรัตติกาลทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ใบหน้าสวยของทอรุ้งขึ้นสีแดงระเรื่อลามไปถึงหู เธอก้มหน้าลงเพื่อปกปิดความเขินอายเอาไว้ หารู้ไม่ว่า...คนตรงหน้ามองเห็นมันหมดแล้ว

เขายิ้มให้กับความใสซื่อของทอรุ้ง ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่กับเขามาเกือบปีแล้ว แต่ความน่ารักของเธอก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย ตรงกันข้าม มันกลับเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เขาพบกับเธอ จนบางครั้งเขาก็คิดเหมือนกันนะว่า...ทอรุ้งจงใจทำให้เขาติดหนึบอยู่กับเธอตลอดไปรึเปล่า?

“เธอมาสายไปห้านาทีนะ”

“ขอโทษค่ะ” ทอรุ้งก้มหน้างุด “พอดีว่ารถติดแล้วหนูก็คุยกับคุณเบนจามินจนเพลินด้วย…”

“คุยอะไรกับเบนจามิน?”

น้ำเสียงทรงอำนาจทำให้ทอรุ้งชะงักไปด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตมองใบหน้าดุดันอย่างหวาดๆ เขาโกรธที่เธอมาสายขนาดนี้เลยเหรอ?

“หนู ขะ ขอโทษจริงๆ นะคะ ต่อไปนี้หนูจะไม่ มะ มาสายอีกแล้วค่ะ” หญิงสาวละล่ำละลักพูดออกไปจนลิ้นพัน และทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดเผลออมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

…แล้วเขาจะไปโกรธเธอลงได้ยังไงล่ะ

“ฉันแค่อยากรู้เฉยๆ ว่าเธอคุยอะไรกับเบนถึงได้เข้ามาหาฉันช้าแบบนี้ ปกติเธอไม่ค่อยคุยกับเบนไม่ใช่เหรอ?” เขาเก็บความไม่พอใจทั้งหมดเอาไว้ภายใต้ดวงตาสีรัตติกาลแสนอ่อนโยนได้อย่างแนบเนียน นิ้วเรียวเชยคางเล็กให้เงยหน้าขึ้นสบตาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากเมื่อครู่ราวฟ้ากับเหว

“ฉันไม่ได้โกรธเธอเลยนะ”

“จะ จริงเหรอคะ?” ทอรุ้งเบะปาก เธอพูดกับอีกฝ่ายเสียงออดอ้อน “คุณไลไม่ได้โกรธหนูจริงๆ นะคะ?”

“จริงสิ” เขาพยักหน้า ลูบไล้แก้มใสไปมาก่อนจะเลื่อนสายตาลงต่ำไปยังผิวขาวที่โผล่พ้นคอเสื้อนักศึกษาออกมา

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันทีหลังดีกว่าเนอะ ตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำก่อน”

“....”

“เธอรู้ใช่มั้ยว่าเราจะทำอะไรกัน?” เสียงนุ่มถามพร้อมกับคลอเคลียริมฝีปากบริเวณข้างกกหูของหญิงสาว ทอรุ้งประคองใบหน้าหล่อเอาไว้ก่อนจะคลี่ยิ้มหวาน

“เดี๋ยวสิคะ หนูยังไม่ได้ถอดเสื้อเลย”

“เดี๋ยวฉันถอดให้” ไม่รอคำยินยอมจากอีกฝ่าย มือหนารีบปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกจนหมดทุกเม็ดก่อนจะโยนมันออกไปให้พ้นสายตา ทอรุ้งลุกคุกเข่าอย่างรู้งาน เธอเอื้อมมือไปเกาะบ่าแกร่งเอาไว้ในระหว่างที่เขากำลังถอดกระโปรงออกให้เธอ

“คุณไลนี่ใจร้อนจังเลยนะคะ”

“ก็ฉันไม่ได้เจอเธอมาตั้งสามวันเชียวนะ” เขาพูดพร้อมกับปลดตะขอบราเซียร์ลูกไม้สีดำออก ตามมาด้วยกางเกงชั้นในสีเดียวกัน และแล้ว...เรือนร่างสุดเย้ายวนก็ปรากฏสู่สายตาของราชสีห์กระหายเหยื่อ

ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองทอรุ้งตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เธอยังคงงดงามราวกับภาพวาดของจิตรกรชั้นเอกเช่นเดิม ไม่มีร่องรอยของการถูกกระทำบนผิวขาวๆ ทอรุ้งยังคงบริสุทธิ์และเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

“เธอรู้มั้ย...ตอนที่อยู่ฮ่องกง ฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน” ฝ่ามือที่เป็นเหมือนประกายไฟลูบไปตามกระดูกไหปลาร้าก่อนจะเลื่อนไปยังสะโพกกลมกลึง อุ้มเธอลงมาในอ่างจากุชชี่ ทอรุ้งรีบยกแขนขึ้นคล้องคอเขาทันทีเพราะกลัวตก เรียกเสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดูจากร่างหนาได้เป็นอย่างดี

“หนูก็คิดถึงเฮียนะคะ” ทอรุ้งรู้ดีว่าในเวลานี้เธอต้องพูด ต้องปฏิบัติยังไง ผู้ชายคนนี้ถึงจะพอใจ ริมฝีปากอวบอิ่มแตะลงบนริมฝีปากสีคล้ำก่อนจะผละออกมาฉีกยิ้มขี้เล่น อีกทั้งยังบดเบียดอกอวบเข้ากับอกแกร่งอย่างเอาใจ

“หนูรอให้คุณไลกลับมาหาหนูทุกคืนเลยล่ะค่ะ”

“หึ ใครสอนให้เธอยั่วฉันแบบนี้กัน?”

“แล้วคุณไลชอบให้หนูยั่วแบบนี้รึเปล่าคะ?” ทอรุ้งถูไถจมูกลงกับปลายจมูกโด่งรั้น มือเรียวจุ่มลงไปใต้น้ำ ควานหามังกรยักษ์ภายใต้ฟองสบู่หนา และเมื่อเจอแล้ว เธอก็ไม่ลังเลที่จะปลุกมันให้ตื่นเลยสักนิด

...เขาแข็งอยู่แล้ว แต่เธอจะทำให้มันแข็งและขยายขนาดมากกว่าเดิม

“ว่าไงคะ? คุณไลชอบเด็กยั่วๆ แบบนี้รึเปล่า~”

“ชอบสิ ฉันชอบเธอที่สุดเลย”

“งั้นคุณไลก็ต้องให้รางวัลหนูนะคะ” ทอรุ้งกะพริบตาปริบๆ

“ได้สิ เธออยากได้อะไรล่ะ ฉันให้ได้หมดเลย”

“หนูอยากได้...ของของคุณไลค่ะ”

“....”

“หนูอยากให้คุณไลกระแทกเข้ามาในตัวหนูแรงๆ ให้สมกับความคิดถึงที่คุณมีต่อหนู”

“แล้วเธอจะไหวเหรอ? ซี้ด เธออาจจะสลบกลางครันได้เลยนะ” เขาถามเสียงกลั้วหัวเราะ ตัวตนของเขากำลังถูกมือเรียวเล่นงานจนตั้งชูชัน มือใหญ่ยกขึ้นเค้นคลึงดอกบัวคู่สวยพลางสังเกตสีหน้าของหญิงสาวไปด้วย ทอรุ้งส่งเสียงครางออกมาเบาๆ เธอเชิดหน้าขึ้น และดวงตาสีเปลือกไม้ก็เต็มไปด้วยความปรารถนาเช่นเดียวกับเขา

“อ๊ะ ต้องไหวสิคะ หนูจะทำให้คุณไลมีความสุขค่ะ อ๊า อ๊ะ”

ดวงตาสีรัตติกาลเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าทอรุ้งเริ่มสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ริมฝีปากอุ่นร้อนคลอเคลียอยู่กับริมฝีปากสีแดงธรรมชาติไม่ห่าง นิ้วเรียวสะกิดยอดถันจนมันเริ่มแข็งเป็นไต

...ในเมื่อทอรุ้งต้องการเขาขนาดนี้ เขาก็จะจัดให้

“อย่ามาขอให้หยุดทีหลังก็แล้วกัน…เพราะฉันจะเอาจนกว่าจะพอใจ”

ทั้งชั้นสิบสามประกอบไปด้วยห้องเพียงห้องเดียวคือห้องสูทขนาดใหญ่ที่กำลังถูกใช้เป็นสมรภูมิรักอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคนที่มีกรรมสิทธิ์ครอบครองก็มีอยู่คนเดียวในประเทศนี้นั่นก็คือ…เจ้าของโรงแรม

เขามีชื่อว่า ‘เอไลจาห์ หวัง’ นักธุรกิจลูกครึ่งฮ่องกงชื่อดังผู้ร่ำรวยติดอันดับโลก ธุรกิจหลากหลายแขนงของเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาประกอบกับเงินในบัญชีทำให้เขาเป็นที่พูดถึงของนักข่าวเกือบทุกสำนัก นิตยาสารรายเดือนอย่างน้อยหนึ่งฉบับต้องมีรูปของเขาอยู่บนหน้าปกอย่างน้อยหนึ่งเล่มทุกเดือน ใครๆ ต่างก็รู้จักเขาในฐานะผู้ทรงอิทธิพลของประเทศ ทุกคนต่างเกรงกลัวเขา เอไลจาห์มีอำนาจล้นฟ้า เขาเพอร์เฟ็คทั้งรูปร่าง หน้าตา และฐานะ และเขาเป็น ‘ภารกิจสำคัญ’ ของทอรุ้ง

บอร์ดีการ์ดที่อยู่ข้างล่างตึกพูดถูกหมดทุกอย่าง ทอรุ้งคือเด็กของเอไลจาห์ หน้าที่ของเธอคือปรนนิบัติเขาด้วยเรือนร่างและเซ็กส์แสนเร่าร้อน เธอต้องทำให้เขาพึงพอใจเพื่อแลกกับเงินจำนวนมหาศาลที่จะได้รับเป็นรางวัลหลังจากเสร็จภารกิจในแต่ละครั้ง

“อ๊า อ๊ะ คุณไลขา…ระ แรงกว่านี้อีก ซี้ด หนูขอแรงกว่านี้!!”

สิ่งที่เธอต้องทำก็มีแค่เชื่อฟังและเป็นเด็กดีของเขาจนกว่าเขาจะเบื่อและทิ้งเธอไป...

…อาจจะเป็นเดือนหน้าหรือพรุ่งนี้เลยก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าเอไลจาห์หมดความพิศวาสในตัวเธอตอนไหน

“หนูชอบคุณไลที่สุดเลยค่ะ อ๊ะ หนูชอบมาก…”

ซึ่งทอรุ้งไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเลย

“ฉันก็ชอบเธอที่สุดเหมือนกัน”

ตึกตัก ตึกตัก

ทอรุ้งรู้ดีว่ามันไม่มีความหมายอะไรพิเศษ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นโครมครามอย่างน่าไม่อาย

“อื้อ เฮีย...เสียว อย่ากดตรงนั้น”

“ชอบก็บอกว่าชอบสิ ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ”

“หนูชะ ชอบ อ๊ะ แต่หนูก็เสียวด้วย อ๊าส์”

“น่ารักจริงๆ เด็กน้อยของฉัน”

ใช่แล้ว ทอรุ้งเป็นเด็กเสี่ย มันไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าอะไรเพราะเธอเต็มใจที่จะอยู่ในสถานะนี้ตั้งแต่แรก

แต่เรื่องที่ทำให้เธอน้ำตาไหลพรากด้วยความทุกข์ระทมจริงๆ น่ะมีอยู่ว่า...

...เธอดันตกหลุมรัก ‘เสี่ย’ แบบถอนตัวไม่ขึ้นเนี่ยสิ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel