บทที่ 5 กิ๊กกั๊กกัน
“จะไหวไหมเนี่ย ที่บ้านไม่มีผู้ชายเหรอ เรื่องลุยๆโศดูแลไม่ไหวหรอก” วิธานมองร่างเล็กอรชรอ้อนแอ้นของโศรดาแล้วส่ายหน้าไปมาบอกว่าไม่ไหว
“ตอนนี้โศมาดูงานคร่าวๆก่อนพอโศทำจริงแล้วจะให้พนักงานมาฝึกงานที่นี่ก่อนจะเปิดอย่างเป็นทางการค่ะ อีกอย่างญาติผู้ชายก็มีค่ะแต่เขาไม่ชอบลุยแต่โศทำได้ค่ะ” โศรดาตอบชายหนุ่มหน้าดุที่ดูถูกเธอเห็นตัวเล็กแบบนี้เธอก็สู้นะขนาดที่ลูกพี่ลูกน้องผู้ชายอายกันเลยทีเดียว
“งั้นลองดูจะได้รู้ว่ามันไม่ง่าย” วิธานขู่เพื่อนน้องสาว
“พี่ธานแค่ขู่น่ะโศ มันไม่อยากหรอกแพมยังทำได้เลย ถ้าโศทำจริงแพมจะให้ยืมตัวพี่ธานไปช่วยเทรนงานให้สามเดือนเลย เอ้า.” คนเป็นน้องพูดอย่างใจป้ำให้เพื่อนยืมพี่ชายไปใช้งาน
“เฮ้ยัยแพม แกถามพี่ก่อนมั้ยว่าอยากไปหรือเปล่า ดีไม่ดีถูกแฟนโศเป่าดับไม่ได้กลับกาญเลยนะ” วิธานพูดแล้วมองเพื่อนน้องสาวดูว่าเธอจะแก้ยังไง
“โศก็กลัวสาวๆของพี่ธานตามไปแหกอกถึงสุโขทัยมากกว่าค่ะ”
“ตกลงกันเองนะ แพมไปล่ะจีบกันรอทัวร์ลงละกัน” เลอมานพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปทันที
“แพม แพมรอโศด้วยสิ”
“จะไม่ฝึกงานแล้วเหรอ” วิธานรั้งโศรดาด้วยคำพูด
“ก็ ค่ะ” ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
“อยากทำจริงๆเหรอ การท่องเที่ยวแบบผจญภัยมันต้องมีสถานที่ๆมันเหมาะสมและเป็นธรรมชาติ เราอาจจะสร้างขึ้นมาบ้างแต่ยังคงธรรมชาติไว้ให้ได้มากที่สุด มีรูปถ่ายที่รีสอร์ทบ้างมั้ยเอามาให้พี่ดูก่อนเดี๋ยวโศมาดูงานแล้วไม่ได้ทำมันจะเสียเวลา” วิธานพูดเป็นการเป็นงานเพราะไม่ใช่ว่าอยากทำแล้วทำเลยหากสถานที่ไม่เหมาะที่จะทำก็จะได้ไม่เสียเวลาเปล่าเท่าที่เขาศึกษามามีเยอะที่อยากทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่มีสถานที่เพียงพอในการจัดสรรพื้นที่แต่ละโซนว่าเหมาะจะทำอะไรและพื้นที่ของ ริมแคว รีสอร์ท แอนด์ จังเกิล ปาร์ค ที่มีสี่สิบไร่แล้วสวนกล้วยไม้อีกแปดสิบกว่าไร่ติดกันแต่แบ่งโซนไว้ให้นักท่องเที่ยวขับรถเอวีตะลุยทะลุไปชมสวยกล้วยไม้และมีขี่ช้าง โหนเชือก ไต่เชือก ปั่นจักยาน พาเรือ ล่องแพ และมีกิจกรรมปีนเขาจำลองของเด็กๆอีก
“รีสอร์ทของโศติดแม่น้ำยม มีสามสิบกว่าไร่แต่เป็นสวนมะม่วงและลำไย พื้นที่ราบเป็นส่วนใหญ่เป็นเนินเขาแค่ติดแม่น้ำยมค่ะ” โศรดาบอกชายหนุ่มผู้ริเริ่มการท่องเที่ยวผจญภัยของรีสอร์ทชื่อดังติดอันดับสิบของเมืองกาญ
“พี่ต้องเห็นพื้นที่รีสอร์ทของโศก่อนถึงจะบอกได้ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากช่วยนะแต่กลัวจะเสียเวลาหากไม่ได้ทำ.”
“โศเข้าใจค่ะ ช่วงนี้ที่รีสอร์ทนักท่องเที่ยวน้อยโสก็อยากทำอะไรเพิ่มเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวค่ะ ถ้ายังเป็นแบบนี้อีกไม่นานรีสอร์ทคงปิดตัวลงแล้วโศไม่อยากให้เป็นแบบนั้น” โศรดาพูดตรงๆเพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวเข้าพักน้อยต่างจาก ริมแคว รีสอร์ท แอนด์ จังเกิล ปาร์ค ที่มีนักท่องเที่ยวมาพักกันทุกวันไม่ขาด
“โอเคงั้นวันนี้ลองไปเป็นผู้ช่วยพี่ก่อนละกัน แล้วเรื่องที่โศอยากทำเราค่อยมาคุยกัน”
“ขอบคุณพี่ธานมากนะคะที่ให้คำแนะนำโศ” โศรดายกมือไหว้พี่ชายเพื่อนที่ให้คำปรึกษาเธอทำให้รู้สึกดีกับชายหนุ่มหน้าดุขึ้นมาอีกเท่าตัว
“ไม่เป็นไร อันไหนช่วยได้พี่ก็อยากช่วย.”
“ก๊อกๆ ก๊อกๆ”
“จีบกันเสร็จหรือยังคะพี่หน่องโทรมาแจ้งว่ารถกำลังเลี้ยวเข้าหน้ารีสอร์ทค่ะ” เลอมานแง้มประตูโผล่แค่หน้าเข้ามาถามเพื่อนกับพี่ชายที่มองหน้ากันอย่างเคอะเขิน
“คุยกันเรื่องานไม่ได้จีบ”
“ใช่ พี่ธานให้คำปรึกษาโศน่ะ”
“โอเค้ ไม่จีบก็ไม่จีบงั้นแพมไปนะ” เลอมานปิดประตูแล้วเดินออกไปยืนรอที่ใต้ต้นไม้หน้าสำนักงานต้อนรับแขกมีที่จอดรถกว้างขวางทั้งรถบัสและรถของนักท่องเที่ยวที่มากับครอบครับคนรักและเพื่อนมีหลังคากันแดดให้เรียบร้อย มองไปรอบๆรีสอร์ทด้วยความภูมิใจที่เธอและพี่ๆสามารถทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงและมีนักท่องเที่ยวมาพักไม่ขาดทำให้มีรายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนถึงแม้จะเป็นหนี้จากที่กู้ธนาคารมาสิบล้านเพื่อปรับปรุงรีสอร์ทและเรือนแพและเพิ่มส่วนแอดเวนเจอร์ออกไปก็ยังไปได้ดีสามารถผ่อนธนาคารไปได้เกือบครึ่งของเงินที่กู้มาแม้จะเหนื่อยแต่เธอก็มีความสุขที่ได้สานงานต่อจากพ่อ
เมื่อรถตู้วีไอพีขนาดแปดที่นั่งขับตามกันมาห้าคันจอดลงตรงหน้าสำนักงานหนึ่งหนุ่มหล่อสองสาวสวยก็ไปต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและเชิญไปที่ซุ้มอาหารที่อยู่ห่างไปยี่สิเมตรสร้างด้วยโครงเหล็กแข็งแรงกว้างใหญ่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้มากว่าร้อยคนและมีโต้ะตั้งอยู่ถึงห้าสิบโต้ะและมีอาหารบุฟเฟ่ต์ปรุงร้อนๆให้นักท่องเที่ยวรับประทานอาหารกลางวัน
“พี่ต้องขอขอบคุณน้องแพม น้องโศ และคุณธานด้วยนะคะ พอดีเพื่อนพี่มันเกิดท้องเสียกระทันหันค่ะแล้วไกด์ไม่มีใครว่างเลย น้องนินก็ต้องออกดูแลทริปฮ่องกงเองเพราะมีแต่ไฮโซ คุณนนท์ต้องเฝ้าออฟฟิศเพื่อประสานงานค่ะ” หน่องหนุ่มหล่อใจหญิงจีบปากบอกเพื่อนเจ้านายสาวที่ธนนท์บอกให้เขาขอความช่วยเหลือแล้วเจ้านายก็โทรมาหาพิธานอีกครั้งเพื่อขอให้ช่วย
“ไม่เป็นไรค่ะพี่หน่อง มีอะไรก็บอกแพมได้ค่ะ ช่วยๆกันแค่ทัวร์ยัยนินมาลงแพมก็ขอบคุณมากค่ะ”
“ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวชอบเที่ยวแบบลุยๆกันเยอะ น้องโศไม่ลองทำโบชัวร์โปรโมตเหมือนน้องแพมละคะ จัดทริปกิจกรรมอะไรสักอย่างดึงดูดใจนักท่องเที่ยว” หน่องบอกเพื่อนเจ้านายเพราะรู้ว่าที่บ้านของโศรดาก็มีรีสอร์ท
“โสกำลังคิดค่ะพี่หน่อง พอดีโศเพิ่งเข้ามารับงานเต็มตัวก็เลยมาดูงานที่นี่ก่อนค่ะ รอเสร็จแล้วโสจะต้องนำไปเสนอที่บริษัทของยัยนินแน่นอนค่ะ”
“ดีครับ พี่จะได้ไปเที่ยวสุโขทัยบ้าง” หน่องพูดคุยกับสองสาวหนึ่งหนุ่มเรื่องห้องพักและกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต้องการเข้าใจตรงกันแล้วก็แยกย้ายกันพานักท่องเที่ยวที่กินอาหารกลางวันอิ่มแล้วไปห้องพักซึ่งมีพนักงานชายหญิงหกคนช่วยกันบริการแขกจนเสร็จเวลาผ่านบ่ายโมง นักท่องเที่ยวก็เดินออกมาจากห้องพักที่เป็นบ้านหลังเล็กเรียงตามเนินเขาลดหลั่นไปยี่สิบหลังมีหลังเล็กสิบหลังสำหรับสองคนและหลังใหญ่อีกสิบหลังสำหรับคอบครัวและเพื่อนๆที่มาเป็นกลุ่มตั้งแต่ห้าคน ถึงสิบคนและตึกสองชั้นหันหน้าไปทางแม่น้ำแควมีห้องพักกว่ายี่สิบห้องและเรือนแพลอยอยู่ในแม่น้ำแควอีกยี่สิบหลัง ฝั่งตรงข้ามก็มีรีสอร์ทเหมือนกันและมีเส้นทางรถไฟสายมรณะติดหน้าผาเลียบฝั่งแม่น้ำแควมีระยะทางสี่ร้อยเมตรมีสถานีอยู่ที่ถ้ำกระแซะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดและอันตรายที่สุด
“น้องแพมสองคนนั้นเขากิ๊กกันอยู่เหรอคะ” หน่องกระซิบถามเลอมานเมื่อวิธานกับโศรดาพานักท่องเที่ยวไปขี่ช้างและขับรถเอวีตะลุยป่าและไปเที่ยวชมสวนกล้วยไม้
