หนี้รักภรรยาจำเป็น

85.0K · จบแล้ว
JAOTUNTEE ( ธัญญ์ธีร์ / ไป๋ลั่วเซียน )
49
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะมีพ่อติดการพนัน ทำให้ชีวิตสาวน้อยวัยแรกแย้มอย่าง 'สกุณา' ต้องมีชะตากรรมตกมาเป็นสิ่งของขัดดอก "เป็นแค่สิ่งของ มีสิทธิ์ปฏิเสธฉันตั้งแต่เมื่อไหร่? ต่อให้ฉันกระแทกเธอจนตาย เธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน!"

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนิยายรักพลิกชีวิตพาลูกกหนีมาเฟียเศรษฐีมีลูกดราม่า

|เริ่มเลยไหมตอนเช้า ๆ มังกรของฉันกำลังตื่นได้ที่ [1]

บทที่ 1

...

“อ๊า! แรงอีก! แรงอีกค่ะคุณราชันย์ อ๊ะ!”

ป๊าบๆ ปึกๆ ป๊าบ ๆ

“เสียวจังเลยค่ะ อ๊ะ!”

กิจกรรมสุดเร่าร้อนของชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังบรรเลงไปอย่างออกรสออกชาติ ด้วยเพลิงโลกีย์หามีความรักใคร่ หญิงสาวตัวเล็กใต้ร่างของชายหนุ่มกำยำ หน้าท้องที่ประกอบด้วยลอนสวยน่าหลงใหล ร่างของเธอกำลังเคลื่อนไหวไปตามจังหวะที่ชายหนุ่มนั้นส่งให้ ร่างกายนุ่มนิ่มเริ่มกระตุกเกร็งด้วยความเสียวกระสันที่จุดสยิวกลางลำตัว ยิ่งเมื่อชายหนุ่มด้านบนขยับเร่งจังหวะในสนามรบ ทำให้ดวงตาหวานของเธอหลับพริ้ม ปากรูปกระจับเผยอเชิดขึ้นหวังจะได้รับรสจูบสุดเร่าร้อนจากชายหนุ่มด้านบน แต่แล้วเธอกลับต้องกัดปากรูปกระจับสีแดงสดของเธอลงไปเป็นการระบายอารมณ์ที่พร้อมจะพวยพุ่งของเหลวจากตัวเธอแทนเท่านั้น เมื่อไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มด้านบนของเธอจะจุมพิตเธอเลย ไม่ว่าเธอจะบรรเลงเพลงรักกับเขามากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

ป๊าบ ป๊าบ!

“อ๊ะ! จะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้วคุณราชันย์ อื๊อ!!”

“อืม..”

น้ำกามสีขาวขุ่นได้พวยพุ่งออกมาจากแท่งเอ็นของเขา ที่มันกำลังกระตุกอยู่ในถ้ำสวาทของเธอสองสามครั้งก่อนจะแน่นิ่งอย่างสงบ ‘ราชันย์’ เหลือบมองหญิงสาวใต้ร่างเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ถอดถอนแท่งเอ็นออก เขาเอื้อมฝ่ามือผ่านหน้าของเธอไปหยิบทิชชูมาพันรอบแท่งเอ็นก่อนจะค่อย ๆ รูดถอดถุงยางออกอย่างช้า ๆ จัดการโยนมันทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี ชายหนุ่มก้าวขาลงจากเตียงหยิบกางเกงยีนที่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วมันถูกถอดกองไว้ที่พื้นขึ้นมาสวมอย่างไม่รีบร้อน เสื้อเชิ้ตตัวแพงถูกหยิบขึ้นมาสวมทับร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาติดกระดุมช้า ๆ

“คุณราชันย์ขา จะไปแล้วหรอคะ”

หญิงสาวโผเข้ามาสวมกอดเขาจากทางด้านหลังอย่างออดอ้อนคล้ายลูกแมว ถูไถแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยเนินอกคู่โตขนาดหกร้อยซีซีไปมาอย่างยั่วยวนและเซ๊กซี่ สายตาหวานช้อนขึ้นมองชายหนุ่มจากทางด้านหลังเล็กน้อย

“ทำอะไร”

แต่แทนที่เธอจะได้เสียเหงื่อบรรเลงเพลงโลกีย์อีกครั้งตามที่ใจปรารถนา กลับกลายเป็นว่าเขานั้นรีบผละออกจากเธอราวกับว่าร่างกายของเขานั้นโดนของร้อนก็ไม่ปาน เขาหันไปจ้องมองเธอที่หน้าซีดเป็นไก่ต้มนั่งคอพับไร้ปราการใด ๆ ห่อหุ้มอยู่บนเตียงด้วยสายตาดุดันแทน

“อย่าโกรธมาหยาเลยนะคะ ก็มาหยาคิดถึงคุณมากแค่นั้นเอง”

เธอก้มหน้างุดตีหน้าเศร้าบีบน้ำตา ก่อนจะค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้นมามองผู้ชายด้านหน้าอีกครั้ง ส่งสายตาปริบ ๆ ให้อย่างออดอ้อนออเซาะราวกับว่าแมงมุมตัวใหญ่ที่สร้างใยเพื่อหลอกล่อแมลงให้มาติดกับก็ไม่ปาน

แต่มันก็ไร้ซึ่งเสียงตอบใด ๆ จากชายหนุ่มเบื้องหน้า เขาไม่ได้เพิ่งรู้จักผู้หญิงคนนี้มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร ราชันย์เอื้อมมือหนาไปหยิบกระเป๋าเงินก่อนจะเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบเงินปึกหนึ่งวางไว้ให้เธอบนโต๊ะ พร้อมกับหยิบกุญแจแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่ไยดีว่าหญิงสาวในห้องนั้นจะรู้สึกอย่างไร

_________

ตึกสูงเสียดฟ้าตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหลวง มีผู้ชายวัยสามสิบสองปีเดินเข้ามาหาทันทีที่ราชันย์ก้าวเท้าเข้ามาที่บริษัท ราวกับว่ามีเรื่องใหญ่โตที่ต้องรีบแจ้งให้ผู้บริหารอย่างเขารับรู้ให้ได้

“ราชันย์ นายพลเบี้ยวนัดชำระหนี้อีกแล้ว คราวนี้แกจะให้กูจัดการเลยมั้ย”

“นายพล? เบี้ยวชำระหนี้มากี่รอบแล้ว”

“รอบนี้รอบที่สาม”

“งั้นมึงไปจัดการได้เลย กูฝากมึงด้วยแล้วกัน”

ธันวาเป็นเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้มากที่สุดของราชันย์ ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่ ม.ต้น จนวันที่ราชันย์ขึ้นปี1 อยู่ ๆ ก็พูดกับธันวาว่าอยากเปิดกาสิโน และเรื่องกฎหมายไม่ต้องห่วงเพราะครอบครัวนั้นมีอิทธิพลระดับต้น ๆ ของประเทศอยู่แล้ว และธันวาก็เห็นดีเห็นงามด้วย ทั้งคู่จึงช่วยกันเริ่มก่อตั้งแรก ๆ ก็มีทุลักทุเลบ้างแต่อาจเพราะมีคนหนุนหลังเป็นพ่อที่เป็นมาเฟียอยู่แล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างดูง่ายดาย และทำให้ทั้งคู่รักกันเหมือนพี่น้องในครอบครัว

ธันวาเดินออกจากห้องทันทีที่ราชันย์พูดจบเพื่อไปจัดการตามล่าหาตัวนายพลซึ่งก่อนหน้านี้ลูกน้องแจ้งว่าหาตัวไม่พบคาดว่าไปกบดานที่อื่น ไม่มีลูกหนี้คนไหนที่เบี้ยวนัดแล้วมีชีวิตรอดกลับไปจากเงื้อมมือของผู้ชายที่ชื่อราชันย์ได้สักคนเพราะกฎก็คือกฎ คำพูดต้องเป็นคำพูด

โคร๊ม! ตุ๊บ! ตั๊บ! ปัง!!

“อ๊าก! อย่า ๆ อย่าทำผม ผมกลัวแล้ว อย่าทำผมเลย ผมขอร้อง”

เสียงร้องของผู้ชายวัยเกือบสิบห้าปีร้องของชีวิตทันทีที่เท้าทั้งห้าคู่ของลูกน้องที่มากับธันวาก็หยุดลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ธันวาเดินเข้าไปใกล้ ๆ ตะแคงคอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและน่ากลัวสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกหนี้แน่นอน

“ห้าล้านที่ยืมไปวันนี้กูต้องได้!”

“คุณธันวา ผมขอเวลาอีกสองวัน ผมจะเอาเงินไปให้คุณแน่นอน ผมสัญญา”

“เห็นทีจะไม่ได้นะครับคุณพล เพราะเรื่องนี้ถึงหูราชันย์แล้ว ผมเองคงช่วยอะไรคุณไม่ได้นอกจากผมต้องได้เงิน!”

หลังจากสิ้นเสียงของธันวาแล้วนั้นลูกน้องทั้งห้าคนที่ยืนรออยู่แล้วก็พร้อมใจกันยกกระบอกปืนพกเล็งไปที่หัวของนายพลทันทีอย่างพร้อมเพรียงกัน ขอแค่ลูกพี่อย่างธันวาสั่งเท่านั้นลูกกระสุนจากปลายกระบอกก็พร้อมจะออกจากปากกระบอกทันทีโดยพร้อมเพรียงกันแน่นอน

“อย่า อย่ายิงผม ผมมีข้อเสนอ!”

นายพลที่พยายามยื้อชีวิตตัวเองสุดกำลังขอยื่นข้อเสนอ ทำให้ธันวายืนมองหน้านายพลนิ่ง ๆ รอฟังจนจบ ก็เกิดอาการตกใจกับข้อเสนอที่นายพลยื่นมานั้นค่อนข้างไม่คาดคิดว่าจะออกมาจากปากของนายพล และก็ไม่รู้ว่าข้อเสนอนี้จะถูกใจไอ้ราชันย์หรือเปล่าด้วย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ยิงทิ้งไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ธันวาพยักหน้าตอบรับข้อเสนอของนายพล ก่อนจะหันไปสั่งให้ลูกน้องของเขาหิ้วปีกนายพลขึ้นรถเพื่อกลับไปยังบ้านของนายพลตามที่นายพลได้ยื่นข้อเสนอไว้

เมื่อรถตู้สีบรอนซ์คันใหญ่จอดเทียบที่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง นายพลก็ถูกโยนออกมาจากรถตู้อย่างไม่ไยดี โดยมีธันวาเดินลงตามหลังมาหยุดยืนอยู่ที่ประตูบ้าน สั่งให้ลูกน้องกดกริ่งหนึ่งครั้งก็มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินออกมาเปิดประตูบ้านให้ด้วยชุดนอนกระโปรงลายคิตตี้! เธอมีอาการตกใจเมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นพ่อ ที่นอนจมกองเลือดอยู่ด้านหน้า ร่างเล็ก ๆ ของเธอก็ปรี่หวังจะเข้าไปหาผู้เป็นพ่อทันที แต่ก็ถูกขวางไว้ด้วยผู้ชายร่างกายกำยำสองคน ที่ยืนคั่นกลางระหว่างเธอและพ่อเอาไว้

ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ปากเรียวเล็กสีชมพูดั่งกรีบกุหลาบ จมูกเล็ก ๆ ที่โด่งรับกับใบหน้าหวาน บัดนี้ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาไหลลื้นขึ้นมาทันทีที่เห็นเหตุการณ์ด้านหน้า

“พวกคุณเป็นใคร พวกคุณทำอะไรพ่อฉัน!”

เสียงตวาดเล็ก ๆ เหมือนแมวของเธอถูกพ่นออกมาอยากสงสัย แต่เมื่อธันวาได้ฟังเสียงเล็ก ๆ ของเธอแล้วกลับทำให้ธันวาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก เธอจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เรื่องหน้าตาสะสวยอย่างที่พ่อของเธอบอกไว้ไม่มีผิด แต่แววตาของเธอนั้นช่างไร้ประสีประสาและไม่รู้เรื่องรู้ราวเสียเหลือเกิน

“เธออายุเท่าไหร่?”

“คุณถามทำไม! ปล่อยพ่อฉันเดี๋ยวนี้นะ!”

“ปล่อย? งั้นเธอเอาเงินที่พ่อเธอยืมไปมาคืนฉันสิ”

“เท่าไหร่! พ่อฉันยืมไปเท่าไหร่ทำไมต้องมาทำรุนแรงกับพ่อฉันด้วยละ”

“ห้าล้าน”

ธันวาตอบคำถามเธอเบา ๆ แต่คำตอบที่ได้ทำให้สาวน้อยถึงกับอ้าปากค้าง อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เธอหันไปมองหน้าคนเป็นพ่อที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น สลับกับหันไปมองหน้าธันวาไปมาอย่างไม่เข้าใจ และท่าทางที่แสดงออกมาว่าไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้าให้เดาพ่อของเธอนั้นคงเป็นคนที่ดีที่สุดในสายตาเธอ เธอถึงได้แสดงอาการไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินแบบนั้นออกมาอย่างชัดเจน แต่คราวนี้เธอคงต้องผิดหวังแล้วละนะ

“ไม่จริง! คุณโกหกพ่อฉันจะเอาไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ! ไม่จริงใช่ไหมคะพ่อ”

“มันคือเรื่องจริง”

“พ่อ!”

“ผมขอพูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยละกัน ผมจะไว้ชีวิตพ่อคุณ ก็ต่อเมื่อคุณไปกับผม”

“หมายความว่าไง”

“ก็หมายความอย่างที่คุณธันวาเขาพูดนั่นแหละ หรือแกอยากเห็นพ่อแกตายเหมือนหมาอยู่ตรงนี้ละ!”

“พ่อเอาเงินไปทำอะไรตั้งห้าล้าน! ทำไมพ่อไม่เคยบอกหญ้าเลยคะ”

“ถ้าไม่อยากเห็นหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก็ไปกับคุณธันวาซะเถอะถือว่าทำเพื่อพ่อนะ”

“แล้วทำไมหญ้าต้องไป นี่มันเรื่องอะไรคะพ่อ หญ้าไม่เข้าใจ”

“แกไปอยู่กับคุณราชันย์ แกจะได้ช่วยพ่อไงกอหญ้าแค่ไปทำงานตามที่คุณราชันย์สั่งนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ต้องกลัวนะ”

กอหญ้าเงียบนิ่งทันทีที่ได้ยินคำพูดจากคนเป็นพ่อ ในสมองตีรวนวุ่นวายตั้งคำถามมากมายขึ้นมาแต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบใด ๆ เธอไม่เคยรู้เลยว่าทำไมพ่อของเธอถึงมีหนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอเห็นทุกวันนี้พ่อแทบไม่ใช้เงินเลยด้วยซ้ำ ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนขัดสน มันยิ่งตอกย้ำให้เธอไม่เข้าใจเข้าไปอีก

“พ่อบอกกอหญ้าได้ไหม ว่าเงินตั้งห้าล้านพ่อเอาไปทำอะไรคะ ถ้าหญ้าต้องไปกับเขา หญ้าก็ควรรู้เหตุผลใช่ไหมคะ”

“พ่อขอโทษนะกอหญ้า พอเสียพนันแล้วไปกู้เงินคุณราชันย์ แต่สุดท้ายพ่อก็เสียหมดตัว”

“พ่อ..”

“คิดดี ๆ นะว่าอยากช่วยพ่อหรืออยากเห็นพ่อเธอตายที่นี่”