บทย่อ
เธอมีหนี้สินเพราะต้องการรักษาชีวิตของพ่อ เงินจำนวนมากแบบนั้น ชนิดาภาไม่รู้จะหาทางใช้หนี้ได้อย่างไร เมื่อวันหนึ่งท่านประธานหนุ่มยื่นข้อเสนอว่าจะใช้หนี้ให้ เธอจึงยอมรับ แม้ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เธอจะต้องพบเจอและแลกมันมาด้วยอะไร คนไม่มีทางเลือกอย่างเธอทำได้แค่จำยอมไม่ว่ามันจะดีจะร้ายแค่ไหน
ปัญหา
ตอนที่ 1
ปัญหา
ชนิดาภาก้าวขาลงจากรถประจำทาง เธอแวะกินอาหารร้านข้าวแกงใกล้ๆบริษัท เจ้าของร้านทักทายหญิงสาวที่เป็นลูกค้าประจำ ตักแกงราดลงบนข้าวให้มากกว่าคนอื่นเล็กน้อย เนื่องจากเอ็นดู ชนิดาภาเป็นพิเศษ
“เอาอะไรอีกไหมวันนี้ป้าแถมให้หนึ่งอย่าง”
หญิงสาวเกรงใจรีบส่ายหน้าพร้อมกับปฏิเสธ ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ข้าวของก็ราคาแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขืนแม่ค้าตักแจกแบบนี้ ทุนหายกำไรหดกันพอดี
“ไม่เอาหรอกค่ะป้า เก็บไว้ขายคนอื่นดีกว่า”
ชนิดาภาเอ่ยก่อนที่เธอจะรีบจ่ายเงิน หากชักช้าอีกฝ่ายคงจะแถมอะไรให้อีกอย่างแน่นอนหญิงสาวเกรงใจจนไม่อยากมาที่นี่อีกแล้ว แต่รอบๆบริเวณ มีแค่ร้านข้าวแกงร้านนี้ที่ราคาถูกที่สุด เธอจึงต้องหิ้วท้องมาฝากทุกวัน
ชนิดาภารีบกินอาหาร เมื่อเห็นว่าอีกไม่นานก็ใกล้ถึงเวลาเข้างานแล้ว วันนี้เธอต้องรีบไปเคลียร์งานที่ทำค้างไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ช่วงสิ้นเดือนฝ่ายบัญชีจะค่อนข้างยุ่ง เพราะต้องจัดการอะไรหลายๆอย่าง อีกทั้งช่วงนี้พนักงานก็เหลือน้อยลง งานที่เคยแบ่งๆกันทำก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ชนิดาภาเดินลัดเลาะมาตามฟุตบาทเพื่อตรงไปยังบริษัท แต่ขณะที่เธอนั้นเดินผ่านตรอกเล็กๆ ก็มีมือปริศนาเอื้อมมาดึงเธอเข้าไปด้านใน
หญิงสาวตกใจจนเกือบหวีดร้อง แต่เมื่อเธอเห็นปลายมีดที่จ่ออยู่ตรงหน้าก็ถึงกับชะงัก
“ว่าไงคนสวย สรุปจะจ่ายหนี้ให้พวกพี่ได้เมื่อไหร่”
ผู้ชายผอมโซท่าทางสกปรกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหี้ยม สายตานั้นจ้องมองเรือนร่างหญิงสาวด้วยท่าทางโลมเลีย ทำให้ชนิดาภารู้สึกขยะแขยงจนขนลุก
“เงินเดือนฉันยังไม่ออกเลย รอหน่อยได้ไหม”
ชายหนุ่มท่าทางกักขฬะส่ายหน้า ตัวมันต้องทวงหนี้ให้ได้เพราะเป็นคำสั่งเจ้านาย ลำพังถ้าเงินนั้นเป็นของมันเอง คงไม่โหดเหี้ยมกับหญิงสาวแบบนี้ เพราะพิจารณาดูแล้ว เธอก็พอมีอะไรให้แลกเปลี่ยนได้บ้าง
“ได้ยังไงล่ะ เลื่อนมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว นี่มันเงินกู้รายวันนะไม่ใช่รายเดือน แค่นี้ก็ถือว่านายพี่ยอมมากแล้วนะน้อง อีกอย่างแม่น้องก็เพิ่งไปเอาเงินเพิ่มมาด้วย”
ชนิดาภาได้ยินแบบนั้นก็แทบจะร้องไห้ เธอเพิ่งใช้หนี้ไปจนจะหมดอยู่แล้ว แต่แม่ดันไปเอาเพิ่ม แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไง
“แต่ตอนนี้ฉันไม่มี”
หญิงสาวเอ่ยถามเสียงสั่น สายตามองออกไปด้านนอก ตั้งใจจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือแต่อีกฝ่ายรู้ทัน จึงได้ขยับปลายมีดเข้ามาชิดติดลำคอ
“อย่าคิดจะส่งเสียงดัง ไม่งั้นปาดคอแน่”
หญิงสาวโดนข่มขู่เธอก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่นชนิดาภาได้แต่ยืนนิ่งเกร็ง พยายามต่อรองกับอีกฝ่าย
“เอาอย่างนี้นะ ให้เวลาฉันได้ถึงวันไหน”
หญิงสาวเอ่ยถาม ไม่ว่าเจ้าหนี้จะต้องการอะไรเธอจะรับปากไปก่อน ทำได้ไม่ได้ก็ค่อยว่ากันอีกที
“อย่าเกินเย็นนี้ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นจะตามไปถึงบ้าน”
หญิงสาวพยักหน้า ลูกน้องเจ้าหนี้จึงหายเข้าไปในตรอกมืด เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ค่อยๆเดินออกมา โชคดีที่ช่วงสายไม่ค่อยมีคนแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงจะรู้สึกอับอายมากที่ถูกทวงหนี้ ใจกลางเมืองแบบนี้
ตลอดทั้งวันชนิดาภาไม่มีสมาธิทำงาน พักกลางวันเธอก็ไม่ลงไปกินอาหารพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน เลือกที่จะปลีกตัวขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าเพื่อโทรหาแม่
“ทำไมแม่ไม่บอกหนูว่าต้องใช้เงิน”
หญิงสาวต่อว่าที่แม่นั้นเลือกแก้ปัญหาด้วย การไปกู้หนี้นอกระบบดอกแพง แทนที่จะบอกเธอตรงๆ ชนิดาภารู้ดีว่าแม่ของเธอต้องแบกรับอะไรบ้าง แต่ตอนนี้เธอเองก็ยังพอช่วยเหลือได้อยู่
“แม่รู้ไหมว่าวันนี้เจ้าหนี้มาตามทวงใกล้บริษัท เอามีดมาจ่อคอหนู”
คนเป็นแม่เมื่อได้ยินว่าลูกนั้นประสบพบเจอความอันตรายก็ตกใจ รีบเอ่ยถามทันทีด้วยความเป็นห่วง
“แล้วมันทำอะไรลูกหรือเปล่า”
“ตอนนี้ยังไม่ทำ แต่วันหน้าก็ไม่แน่นะเเม่ หนูถึงบอกไงว่าถ้าแม่ต้องการเงินให้บอกหนูตรงๆ อย่าไปเอาเงินกู้นอกระบบอีก”
หญิงสาวเอ่ยขอร้อง เธอรู้ว่าแม่เกรงใจไม่อยากรบกวนเพราะเห็นว่าเธอนั้นแบกรับภาระเยอะแล้ว แต่ไม่ว่าจะหนักหนาสักแค่ไหนเธอก็จะหาทางดิ้นรนจนได้ ดีกว่าไปกู้หนี้ยืมสินจนเดือดร้อนแบบนี้
“แม่ขอโทษนะลูก”
หญิงวัยกลางคนรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ นับตั้งแต่วันที่แต่งงานเธอก็ไม่ได้ทำงาน คอยเลี้ยงลูก ในขณะที่สามีนั้นเป็นเสาหลักของบ้าน
แต่หลังจากที่ชนิดาภาเรียนจบและเพิ่งเริ่มทำงาน สามีของเธอก็ล้มป่วย ต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอต้องกู้หนี้ยืมสิน จะไปหางานทำก็ไปไม่ได้ เพราะเธอไม่สามารถทิ้งสามีให้นอนอยู่ที่บ้านเพียงลำพังโดยไร้คนดูแล
“หนูจะพยายามหาเงินมาใช้หนี้ แต่ต่อไปนี้แม่อย่าไปยุ่งกับเงินกู้นอกระบบอีกนะ หนูไม่อยากให้แม่ต้องเดือดร้อน หนูกลัวว่าพวกมันจะมาทำร้ายแม่”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เมื่อครู่เธอยอมรับว่ารู้สึกโมโหแม่มาก แต่เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้แม่ของเธอต้องตัดสินใจทำแบบนี้ ความโกรธมันก็หายไป
ชนิดาภาเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าถอนหายใจยาวและทรุดนั่งลงที่พื้น ปัญหาที่รุมเร้าทำให้เธอรู้สึกเครียดมากจนกินอะไรไม่ลง แม้ว่าท้องจะร้องประท้วงแต่หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจ
ชนิดาภารีบทำงานให้เสร็จก่อนเวลา เนื่องจากช่วงเย็นเธอต้องรีบไปขายของที่ตลาดเพื่อหารายได้เสริม
หญิงสาวติดต่อไปหาเพื่อนสนิทซึ่งเป็นแม่ค้าอยู่ในตลาดที่เธอไปขายของ ก่อนจะขอร้องให้เพื่อนช่วยจัดร้านให้หากว่าวันนี้เธอนั้นไปไม่ทันเวลา
โชคดีที่เพื่อนของเธอมีน้ำใจ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยใช้อีกฝ่ายช่วยฟรีๆ เมื่อเงินเดือนออกเธอก็จะให้ค่าน้ำใจเพื่อนรักคนนี้เสมอ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่เคยมีรอยร้าวเพราะต่างฝ่ายต่างก็เอื้อเฟื้อกันและกัน

