บทที่ 4
“พี่ติณ ไหนบอกไปทำกิจกรรมที่ต่างจังหวัดกับบริษัทไงคะ แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” สีหน้าแปลกใจของณัฐชยาทำให้ชายหนุ่มยิ้ม ติณณ์ไปต่างจังหวัดกับที่บริษัทจริงๆ แต่กำหนดกลับเลื่อนขึ้นมา เขาจึงได้พบหน้าณัฐชยาเร็วขึ้นอีกหนึ่งวัน
“ไปแต่ก็กลับมาแล้ว”
“เอ้! ยังไงกัน ไปแต่กลับมาแล้ว” คนฟังงงเล็กน้อย
“เลื่อนวันกลับน่ะครับ ก็เลยรีบบึ่งมาหาคนแถวนี้ก่อนเข้าบ้าน”
“แน่ะ...เดี๋ยวเถอะ” เมื่อโตเป็นสาวย่อมมีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง ณัฐชยาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอรักกับติณณ์ ชายหนุ่มเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเพื่อนเธอ ซึ่งเพื่อนคนนี้แนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกันเมื่อหลายปีก่อน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการคบหากันและสนับสนุนกันในทุกๆ เรื่อง ติณณ์ไปมาหาสู่ณัฐชยาอย่างจริงใจ เข้าออกบ้านหญิงสาวเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้เห็นว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเสียหาย อยู่ในสายตาผู้ใหญ่เสมอ อย่างเช่นวันนี้ที่ชายหนุ่มแวะเวียนมาหาเธอที่บ้าน
แม้ฐานะของพวกเขาสองคนจะต่างกันมาก แต่ติณณ์ก็มั่นใจว่าอนาคตเขาจะสร้างรากฐานของตัวเองให้มั่นคงและดูแลณัฐชยาให้เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบายหากตัดสินใจอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ซึ่งชายหนุ่มหวังให้เป็นแบบนั้น พอจบมาเขาก็เข้าทำงานในบริษัทชื่อดัง เก็บเล็กผสมน้อยจนเริ่มมีเงินก้อน เนื่องจากลึกๆ แล้วชายหนุ่มอยากมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของเขาเอง
“แล้วนี่พี่ติณกินอะไรมาหรือยังคะ”
“ยังครับ”
“งั้นอยู่กินก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกับซอก่อนนะ ป้าอ้วนกำลังทำ” ณัฐชยาเอ่ยชวน เพราะอยากอยู่คุยกับติณณ์อีกหน่อย ชายหนุ่มไปค่ายอาสามาหลายวัน พักนี้จึงไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก
“ครับ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยรับ ก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าแล้วยื่นมาให้ณัฐชยา นั่นคือขวดแก้วเล็กๆ ขวดหนึ่งที่ปิดฝาผูกโบว์ ภายในมีทราย น้ำ และเปลือกหอยขนาดเล็กคู่หนึ่ง
“อะไรคะ”
“ของฝากจากทะเลประจวบครับ” ติณณ์ส่งยิ้มมาให้ สายตามองณัฐชยาสลับกับขวดแก้วในมือเธอ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มไปที่ไหนไกลๆ อยากให้ณัฐชยาไปด้วย แต่เธอไม่สามารถไปได้ ติณณ์ก็มักจะทำแบบนี้เสมอ ชายหนุ่มมักจะเก็บความทรงจำใส่ขวดแก้วแล้วนำมาฝากเธอ
“ทรายกับเปลือกหอย”
“ที่เห็นคือน้ำทะเลนะครับ พี่อยากเก็บสิ่งที่เห็นมาฝากซอ” คำพูดหวานๆ ของติณณ์ทำให้คนฟังยิ้ม เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนชายหนุ่มมักจะคิดถึงเธอเสมอ
“ขอบคุณนะคะ”
“ชอบไหม”
“ชอบค่ะ น่ารักดี” ขณะตอบณัฐชยาก็มองขวดแก้วในมือ เพราะเขย่าขวดแก้ว ทรายเม็ดละเอียดก็ลอยขึ้นตามน้ำมองผิวเผินก็เหมือนหิมะ
“ไม่ใช่ของฝาก แต่หมายถึงพี่ ซอชอบพี่ไหม”
“บ้า...อยู่ๆ พี่ติณมาถามซอแบบนี้ได้ยังไงกัน” ใบหน้าของณัฐชยานั้นแดงก่ำเพราะเขินอาย หญิงสาวเริ่มทำตัวไม่ถูกกับแววตาที่ติณณ์ส่งมาให้ ก่อนที่สงครามความรักจะจบลงเมื่อเห็นป้าอ้วนเดินถือถาดก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาให้
เพราะอากาศนอกบ้านกำลังเย็นสบาย ทำให้ณัฐชยาชวนติณณ์ออกไปนั่งเล่นและทานของว่างที่สวนแทน โดยมีป้าอ้วนนั่งคุยกับหนุ่มสาวอีกคน เนื่องจากไม่อยากให้คนอื่นๆ มองณัฐชยาในทางที่ไม่ดี ซึ่งติณณ์ก็เข้าใจ ทั้งสามพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน ท่วมกลางบรรยากาศเย็นๆ ของฤดูหนาวที่นานๆ จะมาเยือนกรุงเทพฯ สักครั้ง
ในขณะที่ทั้งสามกำลังหัวเราะอยู่นั้น กลับมีแววตาคู่หนึ่งที่แสดงออกถึงความไม่พอใจมากมองมา นั่นคือแววตาของธัญชยา เพราะนิสัยอยากได้อะไรแล้วต้องได้ สิ่งที่เป็นของณัฐชยาต้องเป็นของเธอ ณัฐชยาไม่มีสิทธิ์ได้ใครหรืออะไรที่ดีกว่าก่อนคนเป็นพี่อย่างเธอ ณัฐชยาต้องรับของที่เหลือเดนจากเธอแล้วเท่านั้น
ตลอดเวลาที่ณัฐชยาคบหากับติณณ์ ธัญชยาเองก็ชอบชายหนุ่มอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะติณณ์นั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา หุ่นก็ดี แถมยังเป็นหนุ่มตามสเปคของธัญชยาก็ว่าได้ แต่ความชอบก็มาพร้อมๆ กับความที่ต้องการช่วงชิงเอาชนะณัฐชยา
“ติณเขาต้องเป็นของฉัน ไม่ใช่เธอยายซอ”
“ติณเขาต้องเป็นของฉัน ไม่ใช่เธอยายซอ”
ธัญชยาเอ่ยอย่างมาดมั่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอนั้นเฝ้ามองติณณ์อยู่ เธอหลงใหลแค่รูปลักษณ์ภายนอก หลงเสน่ห์ในความหล่อของเขาตั้งแต่แรกเห็นก็ว่าได้ และไม่มีสิ่งไหนที่คนอย่างธัญชยาต้องการแล้วไม่ได้มาครอบครอง
กระทั่งเห็นว่าติณณ์กำลังจะกลับ ธัญชยาก็รีบคว้ากระเป๋าพร้อมกุญแจรถมาถือไว้ ก่อนจะรีบเดินไปยังรถแล้วขับออกไปจากบ้าน โดยจุดประสงค์ของเธอคือขับตามติณณ์ไปนั่นเอง เสียงบีบแตรที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ติณณ์หันไปมอง ธัญชยาเลี้ยวรถสปอร์ตมูลค่าหลายสิบล้านที่มารดาซื้อให้เข้ามาจอดหน้าชายหนุ่มไว้ แล้วเปิดประตูลงมาคุยด้วย
“พี่ติณจะไปไหนคะ ขึ้นรถสิเดี๋ยวพิณไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ พี่กลับเองได้” เพราะเกรงใจทำให้ติณณ์เลือกที่จะปฏิเสธ อีกเหตุผลหนึ่งคือชายหนุ่มพอจะเดาออกว่าธัญชยานั้นคิดยังไงกับเขา จึงพยายามทำตัวออกห่างให้มากที่สุด ไม่อยากได้ชื่อว่าพญาเทครัว ได้ทั้งพี่ทั้งน้อง เพราะในใจเขานั้นมีเพียงณัฐชยาคนเดียวและจะมีเพียงเธอตลอดไป
“ไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะ พิณยินดี ไปค่ะ ขึ้นรถ” แทนที่จะปล่อยให้ชายหนุ่มกลับเอง แต่ธัญชยากลับคล้องแขนของติณณ์ไว้พร้อมกับลากชายหนุ่มขึ้นรถ จากนั้นเธอก็อ้อมมานั่งฝั่งคนขับแล้วขับรถออกไป ติณณ์ดูเหมือนจะเกร็งไม่น้อย แต่พยายามเก็บอาการไว้
“เอ่อ...พิณส่งพี่ลงที่ป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านก็ได้นะครับ”
