บท
ตั้งค่า

วังหลวงปั่นป่วนวุ่นวาย

"พี่หญิงพวกเราสองคนมาแล้วขอรับ"หลายวันก่อนพวกเขาก่อเรื่องเอาไว้แต่เพราะเสด็จพ่อไม่เอาความพวกเขาจึงไม่โดนลงโทษแต่ก็โดนกักบริเวณอยู่สามวันเมื่อพวกเขาทั้งสองออกมานอกวังหลวงก็ตรงดิ่งมาหาพี่หญิงของพวกเขาแทบจะทันที

"น้องสิบสามน้องสิบสี่พวกเจ้ามาพอดีเลยพี่สาวต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดี"องค์ชายทั้งสองมองหน้ากันว่าเรื่องอะไรดูพี่หญิงเร่งด่วนเอามากๆ

"เรื่องอะไรหรือขอรับ"องค์ชายสิบสามถามพี่หญิงออกไปแต่องค์ชายสิบสี่เดินไปยังรถเข็นที่มีกรงขนาดใหญ่ถูกผ้าปกคลุมเอาไว้

"พี่สาวต้องการให้น้องสิบสามน้องสิบสี่ช่วยเข็นกรงหนูเข้าไปในวังหลวงที"

"กะ...กรงหนู!"องค์ชายสิบสี่คิดในใจว่างานเข้าแล้วสิ

"พี่หญิงจะเอาไปทำอันใดหรือขอรับ"องค์ชายสิบสามถามพี่หญิงของตนออกไปทั้งที่ก็พอเดาได้ไม่ยากว่างานนี้เสด็จพ่อต้องเสียทรัพย์ส่วนตัวให้พี่หญิงอีกกี่ตำลึง เพราะขนาดคนงานสร้างตำหนักใหม่ของพระสนมกุ้ยเฟย ก็ยังคือคนของพี่หญิงแถมพี่หญิงก็ยังเรียกเก็บเงินอย่างมหาโจรโหดสุดๆเล่นเอาเสด็จพ่อเข่าอ่อนกินนอนไม่ได้อยู่หลายวันแค่คิดตนก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาขืนไม่ร่วมมือด้วยมีหวังเขากับน้องสิบสี่ต้องเสียทรัพย์ส่วนตัวอีกเป็นแน่

"ก็นำไปปล่อยในวังหลังให้นางสนมของเสด็จพ่อพากันหวาดกลัวจนเสด็จพ่อนั่งไม่ติดตำหนักเลยอย่างไรเล่า"นางอธิบายแผนของนางให้กับองค์ชายทั้งสองพระองค์ฟัง

"คราวนี้เจ้าจะเรียกสิทธิ์อันใดหรือน้องหญิง"เสียงองค์ชายใหญ่ดังมาแต่ไกลแต่ก็ยังโดนน้องสาวคนดีเมินใส่ตามเคย

"มาทำมั้ยเพคะองค์ชายใหญ่!"สุ่ยปิงมององค์ชายใหญ่อย่างไม่สบอารมณ์

"พี่แค่นำไข่มุกราตรีหายากจากทางแคว้นเถียนมาให้"สุ่ยปิงได้ยินดั่งนั้นก็หูผึ่งขึ้นมาทันทีจากท่าทีเมินเฉยก็รีบเปลี่ยนอารมณ์เป็นยิ้มแย้มเดินไปรับของมาชื่นชมอย่างถูกอกถูกใจ จากเคยไม่ชอบหน้าก็เปลี่ยนไปทันตาเห็นใครที่กล้าเปย์ทรัพย์สินเงินทองให้นาง นางก็จะตอบรับว่าคนผู้นั้นคือพี่น้องแต่มันคนละเรื่องกับที่ว่านางจะเอาคืนเสด็จแม่ของเหล่าองค์ชายทั้งสิบสี่พระองค์และนางเล็กๆทั้งหลาย

"ขอบใจพี่ใหญ่น้องชอบของฝากมากเพคะ"

"ดีจริงที่น้องหญิงชอบ"

"แต่เรื่องที่น้องจะไปป่วนวังหลังพี่ใหญ่อย่าขอร้องไห้น้องล้มเลิกความคิดเป็นอันขาด"สุ่ยปิงก็อยากรู้จุดประสงค์ขององค์ชายใหญ่แม้ว่านางจะชอบของมีค่าก็ใช่ว่าจะรับมาโดยไม่มีเหตุผลไปเสียทุกเรื่อง

"พี่ใหญ่รู้และก็ไม่คิดจะห้าม"

"แน่ใจนะเพคะ"

"ที่พี่มาหาเจ้าก็เพียงอยากจะร่วมสนุกด้วยเท่านั้นเพราะวังหลวงเงียบเหงามานานต้องสร้างสีสันให้วังหลวงเสียหน่อย"สุ่ยปิงยิ้มร้ายอย่างมีความในว่า 'ข้าได้ลูกน้องเพิ่มแล้วพลทหารของข้าไม่ไกลเกินเอื้อม'

"งั้นพี่ใหญ่ท่านช่วยน้องเอากรงเหล็กนั้นเข้าไปยังหวังหลังด้วยเพคะ"

"ได้เลย"

ทั้งสามองค์ชายร่วมมือกับองค์หญิงสองอย่างเต็มใจพวกเขาเคยคิดว่าหากมีพี่น้องเป็นผู้หญิงก็อยากจะคอยปกป้องพวกนางและยิ่งรู้ว่านางต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่ในตำหนักเย็นนึกโกรธเสด็จพ่อที่ทรงสั่งขังลืมอดีตฮองเฮาส่วนเสด็จแม่ของพวกเขาก็เอาแต่ยุให้พี่น้องแตกคอกันจนเกือบเกิดเรื่องใหญ่โตโชคดีที่พวกเขารู้ทันจึงเพียงแสดงบทบาทของพวกตน แท้จริงพวกเขาเหล่าพี่น้องก็รักกันดีเพียงแค่แสดงออกไม่ได้มากนัก

ยิ่งน้องหญิงเป็นคนบุกป่าฝ่าดงไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใดเก่งกาจมากความสามารถไปเสียทุกอย่างครั้งก่อนนางทำเสด็จพ่อต้องอับอายไหนจะระเบิดตำหนักจนเสด็จพ่อต้องเสียเงินสร้างตำหนักใหม่ไปในราคา สิบล้านตำลึงทองแต่เงินกลับเข้าคลังเงินเก็บของน้องหญิงด้วยเหตุผลที่ว่า 'พวกเขาคือคนของข้า' เล่นเอาเสด็จพ่อล้มทั้งยืนสมกับเป็นองค์หญิงสามัญชนแม้จะไม่มีตำแหน่งแต่ประชนก็รักนางเพราะนางมักจะบริจาคเงินให้กับคนจน แต่จะไม่ยอมเสียเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่นางต้องการอย่างเด็ดขาด เพราะของเหล่านั้นมีคนคอยส่งมานาวให้ตลอดเรียกว่าปล้นคลังหลวงถึงจะถูก

"แถวนี้คงพอได้"สุ่ยปิงหยุดยืนอยู่ตรงตำหนักร่วมของนางสนมขั้นต่ำและเลือกที่จะปล่อยพวกหนูน้อยที่นางเลี้ยงเอาไว้ออกมา

"น้องหญิงเจ้าแน่ใจนะที่คิดจะปล่อยพวกมันตรงนี้"

"พี่ใหญ่ตรงนี้และเพคะเพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเป็นการดีที่จะปล่อยพวกมัน"

"แล้วพวกหนูสามแสนตัวของพี่หญิงไปหามาจากไหนหรือขอรับ"องค์ชายสิบสามถามพี่หญิงออกไปอย่างนึกสงสัย

"พี่สาวเลี้ยงมันไว้เองและเพาะพันธุ์จนได้ออกมาเยอะอย่างทุกคนเห็น"ใครจะบอกล่ะว่านางไปขอจากเทพพระเจ้ามาความลับสวรรค์ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ห้ามพูดออกไป

"พี่หญิงข้าว่าปล่อยเลยขอรับข้าอยากเห็นว่าเสด็จพ่อจะเป็นเช่นไร"และสุ่ยปิงก็ทำการปล่อยหนูขาวไปทุกๆตำหนักอย่างนึกสนุก

กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด

กรี๊ด กรี๊ด ~

เสียงดังสนั่นลั่นวังหลวงทั้งนางสนมและนางกำนัลต่างก็กรีดร้องอย่าเสียขวัญ เพราะเจอหนูขาวมากมายออกมาเต็มตำหนักส่วนทั้งสี่พระองค์ที่ขยันสร้างเรื่อง ต่างก็พากันหัวเราะท้องแข็งอยู่บนหลังตาคอยดูต่อไปว่าฮองเต้จะทรงทำเช่นไรกับพวกหนูๆ

"ฝ่าบาท ฝ่าบาท นะ...หนูขาวเต็มตำหนักของเหล่านางสนมและพระสนมเอกเยอะแยะเลยพะย่ะคะ"กงกงรีบร้อนมาบอกข่าวกับฮองเต้จนลืมไปว่าตนนั้นไม่ได้สวมใส่อาภรณ์เนื่องจากเจอหนูเต็มตำหนักจนลุกลี้ลุกลนรีบมาเข้าเฝ้าเล่นเอาคนที่พบเห็นยังยืนมองตาค้าง

"ทหารพากงกงกลับจวนไปสวมอาภรณ์ด่วน!"

"พะย่ะคะ!"

กงกงอับอายเสียหน้าไม่น้อยงานนี้มีหวังกงกงไม่กล้าออกจากจวนไปอีกหลายวันเพราะอุษาวิ่งมาแต่ไกลสุดท้ายต้องกลับจวนไปอย่างอับอาย

"ฮะ ฮ่า ฮา อะโอ้ยขำ พี่ใหญ่ท่านดูกงกงสิ ฮะ ฮ่า ฮา"สุ่ยปิงขำกลิ้งจนไม่สามารถหยุดขำได้

"ฮะ ฮ่า นั้นสิพี่ใหญ่ก็พึ่งเคยเห็นกงกงเสียหน้าเป็นครั้งแรก"

"ท่านพี่ขอรับดูนั้น"องค์ชายสิบสามเรียกพี่ๆไปทั้งสองให้มองไปยังอีกทางหนึ่ง

"เสด็จพ่อมาแล้ว"องค์ชายสิบสี่พูดขึ้นบ้าง

ทางด้านฮองเต้

"เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร"

"ทูลฝ่าบาทองค์หญิงสองกับองค์ชายทั้งสามพระองค์อีกแล้วพะย่ะคะ"เมื่อฮองเต้ได้ยินว่ามีผู้ใดบ้างก็ถึงกับยืนนิ่งเป็นตอไม้จนกระทั่งหนูขาวไต่ขึ้นมาบนตัวของฝ่าบาทพระองค์มองไปยังหนูขาวอยู่นานจนมันร้องเท่านั้นล่ะ

จี๊ด จี๊ด~

พรึ่บ~

ฮองเต้ถึงกลับเป็นลมล้มลงไปนอนบนพื้นจนทหารต้องมาแบกกลับตำหนักส่วนองค์หญิงองค์ชายก็ถึงกับร้องออกมาว่า

"เฮ้ย!"ทั้งสี่คนถึงกลับตกใจไม่นึกว่าแค่หนูขาวเสด็จพ่อก็ถึงกลับเป็นลมแบบนี้ไม่สมกับที่เป็นฮองเต้จอมเผด็จการเอาเสียเลยทั้งสี่คนได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่อยากจะเชื่อกะอีแค่หนูขาวยังเป็นลมแล้วสัตว์ชนิดอื่นไม่ร้องไห้ไปฟ้องเสด็จย่าเลยหรือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel