บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ในขณะที่ปริญเองก็ชะงักไปเมื่อได้เผลอสบเข้ากับดวงตาคู่สวยของหญิงสาวปริศนาตรงหน้า ความคุ้นเคยบางอย่างทำให้เขาเผลอนึกถึงใครบางคนขึ้นมา เด็กผู้หญิงผอมบาง นัยน์ตาเศร้าที่เขาบังเอิญได้พบเมื่อหลายสิบปีก่อนในงานเลี้ยงที่พ่อแม่บังคับให้ไปร่วมทั้งๆ ที่เขาอยากอยู่บ้านมากกว่า จนถึงวันนี้ก็ยังนึกขอบคุณพวกท่านอยู่เพราะมันทำให้เขาได้เจอกับใครบางคน

คนที่อยู่ในความทรงจำของเขามาโดยตลอด และคงเป็นไปไม่ได้ที่เด็กคนนั้นจะมาปรากฏตัวที่นี่วันนี้ เรื่องบังเอิญแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น แม้ใจเขาจะอยากให้มันเกิดขึ้นก็เถอะ!

“คุณพอจะลุกขึ้นไหวไหมครับ” เขาจำต้องถามเพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ แต่ที่แน่ๆ คงปล่อยให้เธอทิ้งไว้แบบนี้ไม่ได้ เมื่อยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว ก็จำต้องช่วยต่อให้ถึงที่สุด อย่างน้อยก็ในฐานะเจ้าของที่นี่ที่ต้องดูแลแขกให้ดีเท่าที่จะดีได้

“นะ...น่าจะไหวนะคะ โอ้ย!” หญิงสาวให้คำตอบก่อนจะแสร้งเซล้มลงไปทันทีที่ลุกขึ้นดูเหมือนเท้าเธอจะพลิกจริงก็หนนี้

คงหนีไม่พ้นสุภาษิตที่ว่า ‘ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว’

“ให้ผมช่วยดีกว่า ขออนุญาตนะครับ” เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะค่อยๆ ประคองคนเจ็บให้ลุกขึ้นด้วยสองมือก่อนจะเอ่ยถามไปพร้อม “ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ”

“ฉันได้ข่าวว่าที่นี่กำลังเปิดรับสมัครพนักงานฝ่ายบัญชีอยู่ก็เลยตั้งใจจะมาสมัครค่ะ แต่เพราะไร่ของคุณสวยมาก ฉันก็เลย...เดินดูจนเผลอสะดุดล้มเข้า ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะที่ทำให้คุณต้องมาพลอยเสียเวลาไปด้วยแบบนี้” ความตั้งใจทั้งหมดถูกบอกออกไป ก่อนที่หญิงสาวจะใช้โอกาสนี้ลอบมองความเปลี่ยนไปของพี่ชายใจดีที่เธอไม่เคยลบภาพเขาไปจากใจได้เลย แม้จะดูโตขึ้น แต่แววตาที่แสนอ่อนโยนยังคงเหมือนเดิม

“คุณรู้จักผม”

เพราะเมื่อครู่เธอบอกว่า ‘ไร่ของเขา’ นั่นทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากเธอรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาเป็นใคร

“ไม่มีใครไม่รู้จักพ่อเลี้ยงปริญหรอกค่ะ”โดยเฉพาะข่าวของพ่อเขาที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อหลายเดือนก่อน และนั่นคงเป็นเหตุผล ที่ทำให้เขาต้องบินด่วนกลับมาเพื่อสานต่อสิ่งที่ท่านได้เริ่มไว้ ในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล

ไม่รู้เหมือนกันทำไมเธอถึงได้รู้สึกใจสลายไปพร้อมกับเขาเมื่อทราบข่าว อาจเป็นเพราะเคยเป็นคนสูญเสียบุคคลอันที่เป็นที่รักมาก่อน เลยเข้าใจดีถึงความรู้สึกของคนที่สูญเสียดีกว่าใคร อีกทั้งเธอเองก็เคยพบพ่อของเขามาแล้ว ท่านเป็นคุณลุงใจดีที่ไม่ถือสายามที่เธอเดินชนในงานเลี้ยงงานหนึ่งที่เธอถูกผู้เป็นพ่อลากให้ไปทำความรู้จักกับบรรดาเพื่อนๆ ของท่านและก็เป็นคุณลุงคนนั้นที่ช่วยเธอเอาไว้จากการถูกแทะเล็ม

‘อายุเท่านี้คงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เราคุยกันเท่าไหร่ ผมว่าให้แกออกไปเดินเล่น ทำความรู้จักกับเด็กรุ่นเดียวกันไม่ดีกว่าหรือครับ’ เพราะคุณลุง เธอถึงได้รับอนุญาตจากพ่อให้ออกมาจากห้องนั้น ไม่ต้องทนยืนให้ชายแก่ที่เหลือในห้องจับจ้องประหนึ่งสิ่งของอีกต่อไป

“คุณรู้จักผมฝ่ายเดียว ไม่คิดว่ามันเป็นการเอาเปรียบกันเหรอครับ เพราะผมยังไม่รู้จักคุณเลย” ปริญไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับใครบ่อยๆ ความรู้สึกที่อยากเย้าแหย่อีกฝ่ายให้อายเล่น และมันก็ได้ผลเมื่อสิ้นคำพูดเมื่อครู่ เขาก็ได้เห็นว่าใบหน้าของคนในอ้อมแขนแดงระเรื่อขึ้น

เขารู้สึกดี ที่เห็นคำพูดของตัวเองมีผลต่อคนในอ้อมแขน

“หนูนิดค่ะ”

“นะ...หนูนิด...ชื่อของคุณเหมือน...”

“เราเคยพบกันแล้วครั้งหนึ่งที่งานเลี้ยงเมื่อสิบปีก่อนค่ะ” คำตอบนั้นทำเอาหัวใจคนฟังอุ่นร้อนไปหมด เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าโลกนี้จะมีความบังเอิญแบบนี้อยู่ ยิ่งพอให้พิจารณามองคนในอ้อมกอดชัดๆ ก็ยิ่งทำให้มั่นใจจนไม่ต้องถามอะไรต่อ

ใช่เธอจริงๆ ยัยตัวเล็กของเขา!

“พี่...เอ่อ ผมไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีก โลกมันกลมจริงๆ เลยนะครับ” เธออยากบอกเขาเหลือเกินว่าไม่มีความบังเอิญอะไรที่จะง่ายดายแบบนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้มันเป็นความตั้งใจของเธอแทบทั้งสิ้น และเขาคงไม่มีวันได้รู้เพราะเธอจะไม่มีวันบอก

“นิดเองก็ไม่คิดว่าพี่ชายที่ใจดีคนนั้นจะยังจำนิดได้” เขาไม่เคยลืมเธอได้เลยต่างหาก แม้ชีวิตจะผ่านผู้หญิงมามาก แต่ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึก ‘คิดถึง’ ได้ มันเป็นความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันจนกระทั่งวันนี้ วันที่เธอได้กลับมาปรากฏตัวต่อหน้ากันอีกครั้ง ทุกอย่างมันเลยยิ่งจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel