ตอนที่ 3 ไร้ที่พึ่ง
หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้
วัดป่าเงียบสงบอยู่ห่างไกลหมู่บ้าน
พราวฟ้ากับครอบครัวไปทำบุญกันที่วัดป่าเป็นประจำทุกอาทิตย์ ในวันนี้เธอเดินทางมากับพ่อและแม่เมื่อทำบุญเสร็จกำลังจะเดินไปขึ้นตู้ของโรงแรม อยู่ ๆ ก็มีชายฉกรรจ์ซึ่งไม่รู้จำนวนคลุมผ้าดำอำพรางใบหน้าวิ่งเข้ามาประชิดตัวแล้วเอาผ้าชุบยาสลบโปะหน้าสามคนพ่อแม่ลูกก่อนจะลากขึ้นไปยังรถตู้อีกคันหนึ่ง เหตุการณ์นั้นมีเพียงคนขับรถตู้ของทางโรงแรมรู้เห็นกับกลุ่มโจร ด้วยฤทธิ์ยาสลบพราวฟ้าไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งเหมือนมีน้ำเทราดบนตัวเสียงฟ้าร้องดังโครมครามจนพื้นสั่น พราวฟ้าสะดุ้งกะพริบตาถี่น้ำฝนตกลงใส่ตาจำนวนมากเธอหรี่ตามองรอบตัวมีต้นไม้สูงล้อมรอบกลิ่นดินชุ่มไปด้วยน้ำฝนชัดเจนเธอเหลือบมองหน้าฝั่งขวาที่แนบอยู่กับดินเปียกแฉะถึงได้รู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นดินเห็นขาคนยืนหันหลังสองคน เสียงรถแม็คโครดังอยู่ไม่ห่างเธอพยายามเพ่งมองรถแม็คโครกำลังขุดดินและมีหลุมขนาดเล็กตรงหน้าเธอ พราวฟ้าตื่นตระหนกหวาดกลัวเสียงฟ้าร้องดังไม่ขาดสักพักฟ้าผ่าเปรี้ยงลงต้นไม้ใหญ่กิ่งไม้ตกใส่หน้ารถแม็คโครขวางค้ำที่ตักทำให้ใช้งานไม่ได้ ชายเสื้อดำวิ่งกรูกันเข้าไปช่วยดึงกิ่งไม้ขนาดใหญ่ออกจากรถแม็คโครโดยไม่ได้สนใจด้านหลัง พราวฟ้ารีบลุกนั่งหน้าตามอมแมมเต็มไปด้วยดินมองหาพ่อแม่ทั้งน้ำตาเธอไม่เห็นพ่อแม่อยู่บริเวณนั้นเลยรีบหาจังหวะลุกขึ้นวิ่งหนีหน้าตาตื่น
พื้นดินชุ่มไปด้วยน้ำแฉะทำให้วิ่งรองเท้าหลุด พราวฟ้าตัดสินใจวิ่งหนีเท้าเปล่าแม้จะเจ็บแสบแต่ขอให้มีชีวิตรอดกลับไปท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำและเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังต่อเนื่อง ยิ่งวิ่งยิ่งเหนื่อยหายใจไม่ทันต้องหยุดพักสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ สักพักแสงไฟจากไฟฉายสว่างวาบตามหลังพร้อมเสียงคนวิ่ง พราวฟ้าตกใจวิ่งหน้าตั้งไม่คิดชีวิตหากจะขาดใจตายตรงนี้ก็ต้องวิ่งให้ถึงที่สุด เท้าบางเหยียบย้ำพื้นดินกิ่งไม้ใบหญ้าจนเละเทะทั้งเลือดทั้งโคลนผสมจนแยกไม่ออกบ้างก็โดนกิ่งไม้ฟาดหน้าฟาดตัวก็ฮึดวิ่งหนีอย่างไร้จุดหมายจนเมื่อวิ่งมาถึงถนนเธอเห็นแสงไฟของรถกำลังวิ่งผ่านมาเลยวิ่งเข้าไปหารถยุโรปคันหรูนั่นคือรถของอคิระและเขาช่วยเธอไว้
คอนโดหรูใจกลางเมือง
เมื่อมาถึงคอนโด ชายคนนั้นอนุญาตให้เธอเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาและให้ลูกน้องทำแผลบนใบหน้าและศีรษะและตามแขนขาให้ จุดที่มีแผลมากที่สุดคือเท้าต้องพันผ้าพันแผลเต็มเท้าเดินไม่ค่อยสะดวก หลังจากทำแผลเสร็จอคิระที่ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาดูเธอที่นั่งอยู่ห้องนั่งเล่น
“ฉันไม่รู้ว่าเธอเจออะไรมา แต่จะให้พักอยู่ที่นี่หนึ่งคืนเช้าวันพรุ่งนี้เธอต้องออกไป” อคิระยืนมองใบหน้าใสที่ถูกล้างดินและคราบเลือดออกด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากแต่ภายใต้ความนิ่งนั้นเขากลับรู้สึกดีใจที่ช่วยเธอกลับมาได้
“ขอบคุณในความกรุณา ฉันจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้เลย” พราวฟ้าน้ำตาไหลยกมือขึ้นไหว้สำนึกบุญคุณที่เขาช่วยเหลือไม่อย่างนั้นเธอคงตายไปแล้ว
“กินข้าวแล้วนอนพักเอาแรง” อคิระหลบเลี่ยงสายตาหันหลังหนีไม่อยากมองมากไปกว่านี้
“คุณเป็นเพื่อนพี่ยุใช่ไหมคะ รบกวนขอเบอร์โทรหน่อยฉันจำเบอร์ไม่ได้”
“อื้ม....” เขากำลังจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มากดดูเบอร์ของวายุเพื่อนของเขาที่เป็นคู่หมั้นของเธอ พราวฟ้าอึกอักรีบพูดต่อ
“ขอรบกวนยืมเงินห้าร้อยบาทไว้ใช้เดินทางไปหาญาตินะคะ”
“หลายเรื่อง ช่วยมาแล้วต้องเสียเงินอีก?” อคิระหันมองเคืองนี่ขนาดแค่ช่วยมาไม่ถึงชั่วโมงเธอก็จะเอาโน่นนี่จนเขารำคาญ
“ฉันคืนให้คุณแน่นอน ฉันสัญญา” พราวฟ้าเสียงอ่อนลงรีบยกมือไหว้รู้ตัวว่าวุ่นวายเกินไป
“อื้ม....” เขาสะบัดหนีอย่างบึ้งตึงเดินกระทืบเท้าหนักขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนที่เป็นชั้นลอยหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์เดินลงมาหาเธอที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง แต่ตอนนี้เธอนอนหลับบนโซฟาอ้าปากหวอด้วยความอ่อนเพลีย อคิระยืนมองหน้าสวยด้วยแววตาหลากหลายตอนนี้เธอเป็นตัวอันตรายอยู่ใกล้ใครคนอื่นก็จะเดือดร้อนวันพรุ่งนี้หวังว่าจะมีญาติช่วยเหลือเธอหรือไม่คู่หมั้นก็คงไม่ละทิ้งเธอให้เผชิญโชคชะตาเลวร้ายเพียงลำพัง
รุ่งเช้า
พราวฟ้าลืมตาขึ้นมองรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น ร่างบางค่อย ๆ เขยิบตัวขึ้นนั่งปวดเมื่อยเจ็บตามร่างกายโดยเฉพาะเท้าที่ระบมจากการวิ่งเท้าเปล่าหนีตายไม่คิดชีวิต
“เงินกับเบอร์โทรของวายุอยู่บนโต๊ะ เสื้อผ้าอยู่ปลายเท้า” อคิระนั่งไขว่ห้างดื่มกาแฟที่โต๊ะอาหารสีขาวที่อยู่ด้านหลังโซฟา เขาไม่โทรติดต่อวายุให้มารับเธอเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาเป็นคนช่วยเธอกลับมา
“ขอบคุณค่ะ” พราวฟ้าหันไปมองเขาแล้วยกมือไหว้ก่อนจะหันมองเงินกับกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก เธอค่อย ๆ ยันตัวขึ้นยืนเดินกะเผลกหยิบเสื้อผ้าไปเข้าห้องน้ำ อคิระมองเท้าเธอที่แปะผ้าพันแผลแล้วรีบเลี่ยงสายตาหนีไม่อยากจะใส่ใจเธอมากมายหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากญาติหรือคู่หมั้นเธอคงย้ายหนีไปอยู่ต่างประเทศ เขาและเธอจะไม่ได้พบกันอีกต้องปล่อยให้เธอไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ทุกอย่างจะได้ไม่ยืดเยื้อ
พราวฟ้าอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าของเธอที่คนของอคิระซักและเย็บร่องรอยที่ขาดให้เรียบร้อย เธอออกมาจากห้องน้ำพบว่าภายในห้องว่างเปล่าอคิระไม่ได้อยู่แล้ว เธอเลยเดินไปหยิบเงินและเบอร์โทรศัพท์ของวายุติดมือไปด้วยแล้วสวมรองเท้าสลิปเปอร์ที่มีไว้สวมในห้องเดินออกมาข้างนอก เพราะไม่มีรองเท้าใส่ พราวฟ้ามองรอบข้างอย่างหวาดระแวงหัวใจเต้นรัวกลัวและกังวล เธอรีบโบกมือเรียกรถแท็กซี่หน้าคอนโดแล้วมุ่งตรงไปยังบ้านญาติทันที
รถแท็กซี่มาจอดหน้ารั้วบ้านญาติ พราวฟ้าก้าวเท้าลงมองซ้ายมองขวาแล้วรีบไปกดกริ่งประตูเรียกรัว ๆ รปภ.ในป้อมหน้ารั้วเดินออกมามองแล้วส่ายหน้า
“หนูมาหาป้าพิศช่วยเปิดประตูให้หนูหน่อย”
“คุณพิศสั่งห้ามไม่ให้เปิดประตูครับ”
“ทำไมล่ะคะ หนูพราวฟ้าไงลุงจำไม่ได้เหรอ” พราวฟ้าหน้าเสียน้ำตาคลอหวาดกลัวบริเวณข้างนอกอยากขอเข้าไปหลบในบ้านป้า
“จำได้ครับแต่เปิดไม่ได้ คุณหนูกลับไปเถอะครับ” ลุงรปภ.สีหน้าหนักใจ พราวฟ้านิ่งอึ้งพูดไม่ออก
“กลับไปเถอะอย่าให้พวกเราต้องเดือดร้อนไปด้วย” ป้าพิศตะโกนมาจากหน้าบ้านไม่แม้แต่จะเดินเข้ามาใกล้รั้ว
“ทำไมคะ?”
“เรื่องครอบครัวพราวถูกอุ้มไปฆ่าดังขนาดนั้น พวกเสี่ยหงามันก็ตามมาสอดส่องบ้านป้า พราวรีบหนีไปเถอะถ้าพวกมันมาเจอจะยุ่ง เห็นใจป้าเถอะนะ ป้าไม่อยากให้คนในครอบครัวโดนอุ้มไปฆ่าเหมือนครอบครัวพราว” ป้าพิศหน้าเครียดสงสารหลานสาวที่เห็นมาตั้งแต่เกิด ทว่าตอนนี้ป้าพิศจำเป็นต้องเลือกความปลอดภัยของคนในครอบครัว
“แล้วอย่ามาบ้านอานะ อากลัวว่าลูก ๆ ไม่ปลอดภัย” เสียงของอาภพดังออกมาจากโทรศัพท์ที่เปิดลำโพงในการสนทนา พราวฟ้าได้ยินอ้าปากค้างยืนช็อกไปชั่วขณะ หยดน้ำตาร่วงลงแก้มตัวสั่นเทาจุกในอกท้องไส้ปั่นป่วนกระอักกระอ่วนคล้ายจะเป็นลม ญาติพี่น้องหวาดกลัวจนไม่มีใครกล้าช่วยเหลือเธอที่เป็นเหยื่อของธุรกิจโดยที่ไม่รู้ตัว คนสนิทที่พ่อเคยช่วยเหลือกันมากลับกลายเป็นคนแปลกหน้าด้วยกลัวว่าครอบครัวตัวเองจะเดือดร้อน หน้าสวยบิดเบี้ยวทรุดนั่งยอง ๆ ยกมือปิดหน้าร้องไห้โฮเกินกลั้น ป้าพิศตัดใจเดินหนีเข้าไปในบ้านทันที รปภ.ก็เดินหนีด้วยเช่นกัน พราวฟ้านั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวเจ็บบาดแผลตามตัวที่เหงื่อออกไหลเข้าแผล เธอเงยมองในบ้านป้าอย่างตัดพ้อรู้สึกอ้างว้างเจ็บปวด หากตายไปตั้งแต่เมื่อคืนทุกคนคงสบายใจไม่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว
พราวฟ้าเดินกะเผลกอย่างไร้เรี่ยวแรงน้ำใสยังเคลือบดวงตาสวยที่รินไหลลงแก้มเป็นระยะ เธอมองข้างหน้าอย่างเลื่อนลอยไร้ที่พึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีเบอร์ของคู่หมั้น มือน้อย ๆ หยิบกระดาษโน้ตในกระเป๋ากางเกงออกมาดูแล้วก้มมองอยู่อย่างนั้น ถ้าโทรติดต่อไปจะได้รับคำตอบเหมือนญาติ ๆ ไหม หากเป็นเช่นนั้นเธอคงเสียใจจนไม่อยากอยู่ต่อเพราะเขาเป็นชายที่เธอรักและเคยคิดว่าจะแต่งงานฝากชีวิตไว้กับเขาได้
