ตอนที่หนึ่ง พังพินาศ
ตอนที่หนึ่ง
พังพินาศ
เช้งๆๆๆ
เสียงดาบปะทะกันดังก้องลั่นอากาศ บางครั้งมีเสียงโลหะเสียดสีจนชวนขนลุกบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือดที่กำลังใกล้เข้ามา
เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังขายของอย่างคึกคักและชาวบ้านที่กำลังเดินเลือกหาซื้อของอย่างเพลิดเพลินในตลาดกลางเมืองเผิงอู่ต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่านเมื่อสัมผัสได้ถึงควันอันคละคลุ้งจากโต๊ะเก้าอี้ไม้ของแผงอาหารข้างทางที่โดนเตะจนกระเด็นไปติดไฟในเตาแล้วไหม้ลุกลาม
ไป๋หนิงรู้สึกตัวขึ้นตอนได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังรัวจนหูแทบดับ หลังสับสนมึนงงอยู่ในกลุ่มควันซึ่งรมจนแสบหูแสบตาจึงมีมือมาฉุดให้รีบวิ่งตามคนอื่นไปซ่อนตัวอยู่ข้างโอ่งน้ำขนาดใหญ่
ครั้นหันไปมองกลุ่มคนที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่บนหลังคาก็เห็นใบหน้าคุ้นตาซึ่งจดจำได้ว่าคือพระเอกของเรื่องผู้กำลังพลิกตัวหลบดาบซึ่งฟันลงมาอย่างคล่องแคล่ว
เขาเหวี่ยงดาบในมือสวนกลับได้ยินเสียงปะทะดังสนั่นก่อนคมดาบจะเฉียดใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างน่าหวาดเสียว
“ฟันอีกทีสิ เอาให้โดน”
ไป๋หนิงเผลอตะโกนให้กำลังใจแต่เจ้าของมือที่ฉุดรั้งทั้งโอบกอดเอวบางเอาไว้กลับส่งเสียงขัดด้วยความไม่พอใจ
“จะบ้าหรือไง พวกเขาตีกันจนพวกเราเกือบโดนลูกหลงกลับไปยุยงให้ฟันเข้าไปอีก ต้องบอกให้พวกเขาไปไล่ตีกันที่อื่นได้แล้วต่างหาก”
ไป๋หนิงเพิ่งรู้ตัวว่ารอบข้างช่างโกลาหลวุ่นวายนัก กระทั่งพระเอกของเรื่องฟาดดาบในมือที่เปรียบดั่งพายุพร้อมพัดทุกอย่างที่ขวางทางให้พังพินาศก่อนจะกระโดดพากลุ่มคนร้ายห่างออกไป
หัวของชาวบ้านจึงค่อยๆโผล่ออกมาจากที่ซ่อนทีละคนสองคน เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์สงบลงแน่แล้ว คนมากมายจึงทยอยออกมาบนท้องถนนซึ่งเละเทะไปด้วยซากความวอดวายจากการไล่ฆ่าฟันของพระเอกกับเหล่าคนร้าย
ไม่ว่าพวกเขาจะไล่กันไปถึงไหนต่อไหน ความพังพินาศเสียหายย่อมบังเกิดจนมีแต่เสียงก่นด่าของพ่อค้าแม่ขายซึ่งสูญเสียอุปกรณ์ทำมาหากินโดยไม่อาจหาตัวคนรับผิดชอบ
ไป๋หนิงซึ่งโดนฉุดให้ยืนขึ้นยังไม่คลายความมึนงงจึงสังเกตรอบข้างอีกครั้งอย่างตั้งใจ
เดี๋ยวนะ!
เมื่อคืนก่อนนอนเธอเพิ่งเปิดดูซีรีส์เรื่องหนึ่งจนถึงฉากไล่ฟาดฟันนี้นี่นา
แม้จะจำชื่อเรื่องไม่ได้ แต่เธอจำพระเอกสุดหล่อคนเมื่อครู่ได้
แล้ว...ทำไม ถึงรู้สึกคล้ายกับกำลังอยู่ในซีรีส์เรื่องนั้นเลยล่ะ
คงไม่ใช่ว่า!
“ใช่” เสียงที่ตอบกลับมาได้ยินอยู่ด้านข้างนั้นเอง ไป๋หนิงจึงหันขวับ
“รู้สึกตัวสักที มัวแต่เอ๋ออยู่ได้ มันเหนื่อยรู้ไหม”
