ตอนที่ 4
4
ข้ารู้แล้วว่าบุรุษผู้นั้นที่จะทำให้สิ่งที่ข้าคิดไว้สำเร็จชื่อเรียงเสียงใด...ที่เมื่อได้รู้ มันก็ทำให้ข้านั้นตกตะลึง งุนงงและคาดไม่ถึงเอาเสียเลย ทั้งที่เป็นคนที่มีอำนาจมาก จะเลือกใครเป็นอนุภรรยาก็ได้ แต่กลับมาเลือกข้าผู้ซึ่ง...ไม่มีอะไรเลย แต่ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะมีความคิดเช่นไรที่เลือกข้าไปเป็นหนึ่งในอนุภรรยา ข้าก็ไม่คิดจะหาคำตอบ เพราะการอยู่ใกล้เขาผู้นั้นก็เหมือนกับว่าข้ายื่นเท้าข้างหนึ่งลงไปในยมโลกแล้ว ถ้าทำดีก็เพียงแค่เสมอตัว แต่ถ้าเมื่อใดที่ข้าทำพลาด...โอกาสที่จะมีชีวิตของข้าก็จบสิ้นลงในทันที!
มัวแต่คิดถึงเรื่องของเขาคนนั้นไปก็เสียเวลาอันมีค่าของข้าไปมากมายนัก สิ่งที่ข้าควรจะทำในตอนนี้คือคิดหาวิธีการเพิ่มเงินในกระเป๋าเงินดีกว่า
การค้า...ก็ต้องมีสินค้า ที่มันควรจะแปลกใหม่ไม่ซ้ำกับผู้อื่น แต่ไม่ว่าใครเห็นแล้วจะต้องชื่นชมชื่นชอบและอยากจะได้มันจนถึงขั้น...ไม่ว่าจะต้องเสียเงินกี่อีแปะก็ยอม ว่าแต่...ไปถึงที่นั่นแล้วข้าจะทำการค้าขายอันใดดีนะ
เย็บปักถักร้อยหรือ...ฝีมืออย่างข้าที่ปักผ้าเป็นรูปฟ่งเหนี่ยว เป็น...เอาตามตรงข้าเองก็มองไม่ออกว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ เพราะมันเละ มันขาดและมันสกปรกเสียยิ่งกว่ารองเท้าคู่เก่าที่ขาดจนเห็นถุงเท้าที่ก็เก่าอีกเช่นกันของข้าเสียอีก ถ้าอย่างนั้นปักอะไรที่ง่าย ๆ อย่างผลผิงกั๋ว ก็แล้วกัน ผลที่ออกมาก็เป็นเช่นเดิม มันกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ ที่ข้าเห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก
ไม่ผ่าน!
จะค้าขายอาหารหรือ...มันก็ดูน่าจะยุ่งยากไม่น้อย ที่สำคัญคือว่าตัวข้า...ทำอาหารพอแค่ทานได้...เท่านั้น ถ้าทำจริงข้าจะต้องหาที่ทางเพื่อเปิดร้านด้วย ถ้าได้ที่ดีหน่อยก็น่าจะพอขายได้ แต่อาจจะต้องเจอเจ้าถิ่น ซึ่งคนผอมแห้งแรงน้อยขี้โรคอย่างข้ากับเสี่ยวฝานเห็นทีว่าจะต้องวิ่งหนีอย่างเดียวแล้วล่ะ
จะขายอาภรณ์แพรพรรณ...จะทำโรงน้ำชา นอกจากข้าจะด้อยความรู้แล้ว อา...ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ต้องมีเงินทุนเป็นก้อนทั้งนั้น ซึ่งถ้ามันเยอะมาก ด้วยทรัพย์สินที่ฮูหยินสี่อิงเหม่ยให้ข้าติดตัวไป ถึงข้าจะไร้ความทรงจำเรื่องนี้ แต่ข้าก็พอจะคาดเดาไปได้ว่า คงจะไม่มากเกินหนึ่งกำปั่นแน่ ดูท่าจะไม่เพียงพอให้ข้านำไปลงทุนแน่นอน แล้วข้าจะทำการค้าอันใดดีนะ
ท่านแม่...ท่านคงจะไม่โกรธเคืองข้าใช่ไหมที่ข้าจำท่านไม่ได้ แต่ถ้าท่านยังรักบุตรชายคนนี้อยู่ ท่านช่วยเมตตาปรานีข้าสักหน่อย ช่วยคิดหาทางออกให้ข้าสักเล็กน้อยได้ไหมขอรับ
ข้าหลับตาลง...ยังไงท่านแม่ก็รักข้าแหละ ท่านต้องช่วยข้าและมันก็ใช่!
ใช่แล้ว! ถ้าเป็นสิ่งนั้น ข้าทำได้และสามารถทำได้ดีด้วย ทรัพย์สินอันน้อยนิดที่ฮูหยินสี่อิงเหม่ยกับนายท่านเหวินหม่าให้ติดตัวข้าไปย่อมเพียงพอต่อการใช้ลงทุนแน่นอน
“ขอบคุณขอรับท่านแม่” สี่หนิงเหอคลี่ยิ้มอย่างดีใจเป็นที่สุดเมื่อคิดได้แล้วว่าจะทำการค้าอันใด เขายังสามารถทำการทดลองก่อนเปิดตลาดได้ด้วย รับรองได้ว่าจะต้องมีคนสนใจสั่งของกับข้าอย่างมากมายแน่นอน!
ว่าแต่...ควรลองทำดูก่อนดีไหมนะ เผื่อเวลาที่มันผ่านมาเนิ่นนาน ฝีมือข้าอาจจะตกไปบ้าง ทว่าข้ายังไม่ทันจะได้ลุกขึ้นเพื่อไปจัดหาวัตถุดิบที่ต้องใช้ หากข้าก็จำเป็นต้องหยุดคิดไปก่อนเมื่อเสี่ยวฝานวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อโชกฉายแววตื่นตระหนกและขลาดกลัว
“คุณชาย...คุณชายขอรับ แย่แล้วขอรับ”
“ใจเย็น ๆ เสี่ยวฝาน มีเรื่องอันใดก็ค่อย ๆ พูด ไม่ต้องรีบร้อน” ข้ารินน้ำชาส่งให้เสี่ยวฝานดื่ม พลางยื่นมือไปลูบหลังให้ เมื่อเสี่ยวฝานรีบร้อนจนเกินไปทำให้สำลักน้ำชา
“คนพวกนั้นขอรับคุณชาย...คนพวกนั้น” เสี่ยวฝานชี้มือออกไปนอกห้อง มันทำให้ข้าเริ่มรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก มันคงไม่ใช่...
“เสี่ยวฝาน” ข้าจับต้นแขนเสี่ยวฝานเอาไว้ “ค่อย ๆ พูดนะ ไม่ต้องรีบร้อน” แต่ใจข้านะร้อนราวกับถูกไฟเผาผลาญไปแล้ว
“คนพวกนั้น...จะมาพาคุณชายไปแล้วขอรับ”
คนพวกนั้น! เหมือนถูกฟาดด้วยแส้เส้นโตฟาดบนลำตัว แทบจะพลัดตกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เท่าที่ฟังมาจากเสียงนินทาของคนในเรือน...ดูเหมือนว่าเวลาที่ข้าจะไปจากที่นั่นยังอีกหลายวัน น่าจะร่วมเดือนด้วยซ้ำ หากตั้งแต่ฟื้นมานี่มันเพิ่งจะวันที่ห้าเองนะ คนพวกนั้นก็มารับข้าแล้ว...
แม้ข้าจะจดจำบางสิ่งได้บางสิ่งมิได้ หากความรู้สึกของข้าบอกได้ว่ามันมีบางอย่างแปลกไป...สี่หนิงเหอขมวดคิ้วเข้าหากัน ด้วยในสมองมันช่างว่างเปล่า จนคิดไม่ออกว่าเรื่องที่รู้สึกว่าแปลกไปนั้นคือเรื่องใด คงมีทางเดียวให้ข้าทำ นั่นก็คือการยอมรับและเตรียมตัวรับกับการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับค้นหาคำตอบของมันให้กระจ่าง
“เสี่ยวฝาน ข้าถามเจ้าอีกครั้ง” ข้าคงจะเคยถามไปแล้วนะ แต่ข้าจำมันไม่ได้ “เจ้าจะไปกับข้าใช่หรือไม่” หากให้ข้าไปคนเดียว...มันคงจะเป็นอะไรที่โหดร้ายกับข้าที่สุด
“คุณชาย...คุณชายจะทิ้งข้าหรือขอรับ”
“เปล่านะ ที่ข้าถามเพราะต้องการให้แน่ใจ ว่าเราสองคนจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน” ขนาดว่ามีข้าอยู่ บ่าวไพร่พวกนั้นยังคอยกลั่นแกล้งรังแกเสี่ยวฝานของข้าไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าหากข้าไม่อยู่แล้ว พวกนั้นอาจจะรีบจัดการขายเสี่ยวฝานของข้าออกไปก็เป็นไปได้
“ไปขอรับ...ข้าจะไปรับใช้คุณชาย” เสี่ยวฝานพูดเสียงสั่น ในดวงตามีน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า
“ไม่ใช่หรอกเสี่ยวฝาน เราไปด้วยกัน เจ้าจะไม่ใช่บ่าวของข้า แต่เจ้าจะเป็นน้องชายของข้าและเป็นผู้ร่วมหุ้นของข้า เราจะไปสร้างชีวิตใหม่กัน” ข้ายิ้มให้เสี่ยวฝานที่อ้าปากค้างและกะพริบตาปริบ ๆ
“คุณชาย!”
“เจ้าไปบอกกับคนเหล่านั้นก่อน ข้าขอเวลาตระเตรียมข้าวของสักครึ่งชั่วยาม เจ้าก็เช่นกันนะเสี่ยวฝาน เก็บเอาไปเพียงแค่ของสำคัญที่พาได้ง่ายเท่านั้นและอย่าลืมที่ข้าเคยสั่งเอาไว้ เตรียมไปให้พร้อม เสร็จแล้วเราจะได้เดินทางไปสู่ชีวิตใหม่กัน”
จะเร็วหรือช้า ข้าก็เลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ต้องไปอยู่ดี เร็วหน่อยก็ดีเหมือนกัน จะได้เร่งสร้างทางไปให้กับตัวเองได้เร็วขึ้น ข้ารู้ว่าหนทางข้างหน้านั้นไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดหวังหรอกนะ แต่ข้าก็จะไม่ย่อท้อ ข้าจะอดทน ข้าจะทำมันให้สำเร็จ เพื่อวันหนึ่งเมื่อข้ามีทุกอย่างพร้อม ข้าจะกลับมาที่เรือนแห่งนี้...มาเพื่อทำให้คนที่อิจฉาในตัวข้าและอิจฉาความสุขที่ข้ามี ข้าจะมารับท่านแม่ไปอยู่กับข้า
“เรากลัวได้ แต่อย่าให้ความกลัวอยู่เหนือสติ ข้ารู้...คนพวกนั้นจะต้องน่ากลัว แต่ถ้าเราไม่ทำสิ่งใดผิด พวกเขาจะไม่ทำอะไรเราและที่ซึ่งเรากำลังจะไป ถ้าเราทำตัวดี มันย่อมจะดีกว่าที่นี่แน่ ข้าจะทำให้เจ้าและตัวข้าพบเจอแต่สิ่งที่ดีแน่นอน...ข้าให้สัญญา!”
เสี่ยวฝานมองหน้าข้าและเมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของข้าก็เข้าใจและออกไปทำตามคำบอกของข้า ส่วนตัวข้าเอง...ข้าวของที่สำคัญที่จะพาติดตัวไปนั้นหามีไม่ คงจะมีเพียงแค่ความกล้า ความมุ่งมั่นและหัวใจเท่านั้นที่จักพกพาไปในการเดินทางครั้งนี้!
