สิ้นสกุลในรุ่นเจ็ด

148.0K · จบแล้ว
ไป๋ชิงหง-เกียร์สายฟ้า
75
บท
6.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขา "ทายาทรุ่นที่เจ็ด" จากตระกูลขุนนางเก่าแก่ ถูกชะตากำหนดให้สิ้นสกุลในรุ่นนี้ ใครจะคิดว่าปี 2024 ยังมีคุณไสย มนตร์ดำ คำสาปแช่ง วนเวียนอยู่รอบตัว --------------- ระมิงค์ ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกก่อนวันครบรอบห้าปีเพียงไม่กี่วัน พร้อมทั้งได้รับเช็คมูลค่าสิบล้านบาทด้วยเหตุผลที่เขาให้เป็นค่าเสียเวลา หลังจากตั้งหลักได้เธอจึงเลือกจะหลบไปเลียแผลใจที่เชียงใหม่ พร้อมทั้งกลับมาเขียนเรื่องราวความรักที่เคยถ่ายทอดเป็นเรื่องราวผ่านนิยาย ระหว่างนั้นเธอก็ได้พบกับบุคคลลึกลับที่ใช้ชื่อว่า 'White Rose' อีกฝ่ายเป็นแฟนคลับตัวยงที่คอยโดเนตให้ทุกครั้งที่เธออัปเดตตอนใหม่ แต่แล้ววันหนึ่งแฟนตัวยงคนนั้นก็บอกลาเธออีกครั้ง ดูเหมือนว่าการจากลาครั้งนี้จะเป็นการจากลาตลอดกาลเสียด้วย แม้ว่าจะใจหาย แต่ระมิงค์ก็หวังว่าอีกฝ่ายจะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ และเมื่อถึงวันที่เธอใกล้เปิดรีสอร์ต น้องสาวของแฟนเก่าก็ปรากฏตัวอีกครั้ง ทว่า...ครั้งนี้เจ้าหล่อนไม่ได้มาตัวเปล่า แต่พา 'วิญญาณ' ของพี่ชายมาด้วย

นิยายรักโรแมนติกนิยายแฟนตาซีประธานดราม่าโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกจีบเมียเก่าผู้ชายอบอุ่นนักศึกษา

บทนำ

ความรัก…เติบโตอย่างยากลำบาก

“เราเลิกกันเถอะ” เสียงเรียบนิ่งทำลายความเงียบ สีหน้าแข็งกระด้างของเขาทำให้ความหล่อเหลากลายเป็นความเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง เขาสวมสูทเรียบหรู กระดุมทุกเม็ดทำจากทองคำแท้ บุคลิกเย่อหยิ่งราวกับราชนิกูล

อารมณ์ที่แสดงออกมาส่งให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซ็นติเมตรดูห่างเหินราวกับอยู่กันคนละโลก

เหนือสิ่งอื่นใด คำพูดเย็นชาสะท้อนกังวานในหัวของคนฟังราวกับเสียงระฆัง มือที่กำลังจะตักสลัดใส่ปากชะงัก มองดวงตาสีมรกตของชายตรงหน้าค้างนิ่ง เลือดในกายพลันเย็นเฉียบเมื่อสมองประมวลผลได้ว่าเขากำลังพูดอะไร

หญิงสาวกะพริบตา วางมืออันสั่นเทาบนโต๊ะราวกับไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน

“อะไรนะ พี่ฟ้าอย่าล้อเล่นแบบนี้มิงค์ไม่ตลกด้วย” น้ำเสียงหวานใสเต็มไปด้วยความโกรธ หัวใจเต้นแรง พยายามหลอกตัวเองว่าเขากำลังอำเธออยู่แน่ๆ

ชายตรงหน้าเอนหลัง วางช้อนส้อมและกอดอกมองเธอด้วยท่าทีเหยียดหยามเล็กน้อย แม้ว่าสีหน้าจะเรียบนิ่งทว่าดวงตาสีมรกตกลับแสดงออกถึงความรังเกียจ

“ฉันเบื่อจะเล่นกับเธอแล้ว” เขาพูดเสียงต่ำ หลุบตาลงยกไวน์ขึ้นจิบอย่างสบายๆ ไม่สนใจจะมองใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาวแม้แต่น้อย

ระ‍‍มิง‍ค์ตัวสั่นเทา สมองอื้ออึงราวกับโลกทั้งใบถล่มลงมาตรงหน้า ดวงตากระจ่างใสค่อยๆ แตกซ่านและมีม่านน้ำปกคลุมอย่างรวดเร็ว

“ฮะๆ” เธอแสยะริมฝีปากหัวเราะอย่างขมขื่น น้ำตาพลันร่วงพรูราวกับห่าฝน

เขากำลังพูดอะไร?

บอกเลิกเธอเหรอ?

เบื่อเธอแล้ว?

คิดถึงตอนที่เขาตามตื๊อให้เธอยอมรับรักในสมัยมัธยมปลาย เป็นคนแรกที่ไล่ล่าเธออย่างบ้าคลั่ง ประกาศไปทั่วโรงเรียนว่าเขาชอบระ‍‍มิง‍ค์ ห้อง ม.4/10 เทียวไล้เทียวขื่ออยู่ครึ่งปีจนท้ายที่สุดเธอก็หวั่นไหวและเปิดใจให้เขาในวันวาเลนไทน์ แม้ว่าน้องสาวตัวดีของอีกฝ่ายจะไม่ชอบขี้หน้าเธอก็ตาม

แต่เพราะผ่านฟ้าปกป้องเธอจากน้องสาวตัวร้ายมาโดยตลอด ระ‍‍มิง‍ค์จึงหวั่นไหวอย่างช่วยไม่ได้

เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอเปิดใจให้

และยังเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอมอบทุกอย่างให้เขา วาดฝันว่าทั้งคู่จะมีอนาคตด้วยกัน หากไม่นับรวมน้องสาวแท้ๆ ของเขาที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง แม้กระทั่งพ่อแม่ของเขาก็ต้อนรับเธออย่างอบอุ่น

แล้วตอนนี้เขากำลังพูดอะไร

“ทำไม” เสียงสั่นเครือเปล่งออกมาจากริมฝีปากแดงที่เกิดจากรอยฟันจนห้อเลือด เธอไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าเขากำลังบอกเลิกเธอด้วยท่าทีเย็นชาขนาดนี้

ทั้งๆ ที่มันกำลังจะถึงวาเลนไทน์แท้ๆ

ทั้งๆ ที่มันกำลังจะค‍ร‍บรอบห้าปีที่คบกัน

“เพราะว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หามาให้ จากนี้ไปคงไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเธอแล้ว”

น้ำเสียงนุ่มทุ้มราวกับกำมะหยี่ หากแต่ทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมาราวกับมีดที่กรีดเฉือนหัวใจของเธออย่างไม่มีชิ้นดี ประหนึ่งจะตอกย้ำว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น

“คู่หมั้นเหรอ พี่ฟ้ามีคู่หมั้นตอนไหน…” หางเสียงลดลงอย่างรวดเร็วก่อนที่ใบหน้าของระ‍‍มิง‍ค์จะกลายเป็นซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำมองเขาด้วยหัวใจแตกสลาย หรือว่า… “พี่ฟ้าหายไปทั้งเดือนเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า”

“อืม…ขอโทษด้วย ฉันจะเซ็นเช็คให้เธอสิบล้านเพื่อชดเชยค่าเสียเวลาตลอดเกือบห้าปีที่ผ่านมา จากนี้ไปหวังว่าเธอจะลืมฉันไปซะ เพราะชาตินี้เราสองคนคงไม่ได้เจอกันอีก” เขาหยิบสมุดเช็คออกมาแล้วเซ็นมันอย่างไม่รีบร้อน ปากกาที่ใช้เซ็นยังเป็นปากกาสีแดงที่สลักตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า ‘Panfa’ ซึ่งเคยเป็นของขวัญที่เธอซื้อให้

หากเป็นช่วงเวลาปกติระ‍‍มิง‍ค์คงมีความสุขมากที่เขาใช้มัน แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปและสิ่งที่เขากำลังเขียนอยู่คือสิ่งที่ใช้ตัดขาดความสัมพันธ์ตลอดระยะเวลาเกือบห้าปีอย่างไร้เยื่อใย

หัวใจเจ็บปวดราวกับถูกคมมีดกรีดเฉือนอย่างเลือดเย็น

ร่างกายของระ‍‍มิง‍ค์ก็หนักอึ้งราวกับถูกถ่วงด้วยหินก้อนใหญ่ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำตาที่ไหลออกมานั้นมากมายขนาดไหน แต่เสียงร้องไห้กลับไม่สามารถเปล่งออกมาได้ เพียงเพราะหัวใจแทบแหลกสลาย

ตั้งแต่คำบอกเลิกดังขึ้น เธอได้กลายเป็นคนตัวเล็กที่น่าสังเวชที่สุดในร้านอาหารสุดหรูแห่งนี้ รอบตัวเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาด้วยบรรยากาศของเดือนแห่งความรัก ทว่าตอนนี้มันไม่ต่างอะไรจากการลงโทษเธอเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาพร่าเลือนมองการเคลื่อนไหวที่สง่างามหมดจดของคนตรงหน้า เสียงฉีกเช็คราวกับตอกย้ำความน่าอดสูในสถานการณ์ตอนนี้ เสียงหัวเราะรื่นเริงรอบข้างเปรียบประหนึ่งเสียงเย้ยหยันของผู้คนที่มองเธออย่างเวทนา

ราวกับตอกย้ำว่าคนอย่างระ‍‍มิง‍ค์…ไม่สมควรจะมีความรักที่ดี

คำ‍สา‍ปแช่งว่าเธอเป็นตัวหายนะที่ทำให้คนรอบข้างทยอยล้มหายตายจากไปทีละคนปรากฏในห้วงความคิด ใจของเธอว่างเปล่า แม้กระทั่งน้ำตาก็หยุดไหลไปนานแล้ว

นั่นสินะ…

เธอมองเช็คที่วางตรงหน้าราวกับตุ๊กตาที่ไร้วิญญาณ ในหัวไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป เงาพร่าเลือนของชายคนนั้นค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินจากไป

คนคนหนึ่งปรากฏตัวพร้อมกับความรัก ขอร้องให้เธอช่วยฟูมฟักมัน และวันหนึ่งเมื่อความรักนั้นสุกงอม เขากลับจากไปพร้อมกับมัน เหลือทิ้งไว้เพียงหัวใจที่แหลกสลาย