ตอนที่ 7
ตอนที่ 7
‘ยายปริม! พี่ตกลงทำเรื่องบ้าบอคอแตกให้ แต่ยายเพื่อนรักของเธอห้ามเห็นหน้าหรือรู้เรื่องเกี่ยวกับพี่เด็ดขาด! จะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ห้ามบอก’
ข้อตกลงที่พี่ชายเธอขอไว้ยังกึกก้องให้คนกลางอย่างปริมได้แต่โอดครวญ เมื่อคนหนึ่งอยากเสียพรหมจรรย์ แต่ห้ามได้อีกคนรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม ส่วนอีกคนไม่ต้องการให้เพื่อนรักของเธอเห็นหน้า แล้วมันต้องทำไงล่ะ
“ยายปริม! ” เสียงของลลิตาดังมาตามสายเมื่อเพื่อนรักเงียบหายจนผิดปกติ
“อะไรล่ะ” ปริมตอบกลับด้วยเสียงยานคาง ยังกลุ้มไม่เลิกและไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดีเพื่อนเธอถึงจะจดจำหน้าพี่ชายเธอไม่ได้
“แหม...แกยังจะมาอะไร แล้วตกลงหาได้ไหม” คนที่ลุ้นรอฟังจนตัวโก่ง และรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ
“อ๋อ! ผู้ชายหล่อล่ำน่ะเหรอ ได้แล้วสิ...แต่ว่า...เอ่อ..”
“ได้แล้วงั้นเหรอ เขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน สูงเท่าไหร่ หนักกี่โล มีแฟนหรือยัง แล้วอายุเท่าไหร่ ตรงตามสเปกผู้ชายในฝันของฉันไหม”
“ยายต้าร์! พอก่อนได้ไหม” ปริมแทบจะโยนโทรศัพท์ในมือทิ้งเมื่อเพื่อนรักถามคำถามที่เป็นข้อห้ามของพี่ชายเธอซะหมด นึกว่าจะตอบคำถามของเพื่อนอย่างไรดี
“ก็ได้ งั้นก็บอกมาเลยแล้วกัน เพราะฉันจะไปสนามบินแล้ว” บอกเสียงอ่อยๆ แล้วหันหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือที่บ่งบอกว่าเธอจะไปไม่ทันแน่หากช้ากว่านี้
“ก็...” ปริมพูดได้แค่นั้น เสียงของลลิตาก็ดังแทรกขึ้น ก่อนลอบถอนใจอย่างโล่งอก
“ตายแล้ว! ยายปริม! เอาเป็นว่าแกไม่ต้องบอกอะไรฉันนะ ฉันต้องไปแล้ว เดี๋ยวตกเครื่อง อ้อ...เรื่องที่ฉันจะไปบ้านพักตากอากาศ บอกแม่บ้านเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยแล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะเพื่อนรัก” ปริมวางสายแล้วรีบโทรหาพี่ชายเพื่อนัดแนะเวลา แล้วค่อยโทรบอกเพื่อนรัก แต่งานนี้เธอนึกออกแล้วว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เพื่อนสาวจำหน้าพี่ชายเธอได้
*********************
ลลิตานั่งรอเวลาขึ้นเครื่องด้วยความกระวนกระวายใจ หลังจากที่เธอฝากข้อความให้กับบิดาแต่ทว่าบิดาผู้ให้กำเนิดกลับไม่โทรกลับมาหาเธอเสียที “คุณป๊า นะ คุณป๊า ทำไมไม่โทรกลับต้าร์บ้างเลยล่ะ แล้วนี่จะได้อ่านข้อความหรือยังก็ไม่รู้ แล้วอย่าบอกนะว่าคุณป๊าจัดการยึดบัตรเครดิตของต้าร์ไปหมดแล้วนะคะ” เมื่อคิดว่าต้องถูกตัดบัตรเครดิตเท่านั้นแหละ คุณหนูคนสวยก็รีบจัดการเบิกเงินเอาไว้ใช้ล่วงหน้าสักเดือนเสียเลย
“อืม แค่นี้คงพอ เอาไว้หลบคนของคุณป๊า” คุณหนูคนสวยพึมพำหลังจากได้เงินมาและรอให้ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ร่างสมส่วนก็เดินตรงไปห้องน้ำเพื่อจัดการเติมแต่งตัวเองให้สวยเสียก่อน
“ขอโทษค่ะ” เสียงหวานใสรีบกล่าวขอโทษขอโพยเจ้าของหุ่นสูงราวนายแบบทันที เมื่อคุณหนูลลิตาหลังจากออกจากห้องน้ำมาก็เอาแต่เดินก้มหน้าตาคิดถึงแต่เรื่องแต่งงานกับอาตี๋ปราโมทย์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้หากเธอเดินทางถึงแผ่นดินไทย
“ไม่เป็นไรครับ” บุรุษหนุ่มร่างสูงกล่าวอย่างสุภาพ พร้อมทั้งโค้งให้เล็กน้อย ส่วนคนที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่มก็อึ้งไปชั่วขณะ
“อ๋อ..เอ่อ..คุณเป็นคนไทยหรือคะ” ลลิตาเอ่ยถามราวกับคนละเมอ ดวงตากลมเล็กยังคงมองร่างสูงตาไม่กะพริบ ก่อนจะได้สติเมื่ออีกฝ่ายหัวเราะเธอเบาๆ
“ครับ ผมคนไทย ผมไรวินท์ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ...” ชายหนุ่มยิ้มรับและกล่าวแนะนำตัวเอง พร้อมทั้งเลิกคิ้วเป็นการชี้ชวนให้หญิงสาวแสนสวยทำความรู้จักกับเขา
“ลลิตาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน แต่คุณเรียกฉันว่าต้าร์ก็ได้ แต่ดีใจจังที่ได้เจอคนไทยที่นี่” หญิงสาวยิ้มหวานตอบรับไมตรีที่บุรุษหนุ่มรูปหล่อส่งมาให้
“ครับ งั้น คุณต้าร์เรียกผมว่าจอห์นก็ได้ครับ จะได้ดูสนิทสนมกันดี ว่าแต่คุณกำลังจะเดินทางไปไหนหรือครับ” หลังจากแนะนำเพื่อรู้จักกันและกันพอสมควร สองหนุ่มสาวก็เดินกลับมาเพื่อนั่งรอขึ้นเครื่อง โดยทั้งสองพูดคุยกันราวกับรู้จักมักคุ้นกันมาเนิ่นนาน โดยที่ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าหญิงสาวที่ตนพูดคุยด้วยอยู่นั้นก็คือลูกสาวเจ้าสัวทรงชัยที่บิดาของเขาเคยหมายมั่นอยากให้มาเป็นลูกสะใภ้ แต่เป็นเพราะทุกครั้งที่นัดพบปะกันทำให้ไรวินท์และลลิตาคลาดเคลื่อนจากกันทุกครั้งไป ทำให้เขาและเธอต่างก็ไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ากันมาก่อน แถมลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านเจ้าสัวทรงชัยก็ไม่ชอบออกงานสังคมที่มีเหล่าบรรดานักข่าวรุมล้อมขอสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลลิตาพยายามหลบเลี่ยงและเธอก็รอดได้ทุกครั้งไป
