บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 แผนล่ม (1)

ในเรือนหลัง จวนซ่งเมืองเยี่ยเฉิง อิ๋นจื่อนั่งปักผ้าอยู่เงียบๆ มานานแล้ว เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นสาวใช้ก็เอ่ยขึ้น “เจ้าไปพักเถอะ ข้าปักผ้าอีกหน่อยก็จะนอนแล้ว” อิ๋นจื่อบอกสาวใช้ที่นั่งเป็นเพื่อนมาครึ่งค่อนคืนแล้ว

นางเอาตะกร้าเย็บปักติดตัวมาที่เยี่ยเฉิงด้วยและปักผ้าเช็ดหน้าได้หกผืนแล้ว ตั้งใจจะปักให้ครบยี่สิบผืนและมอบให้ฮูหยินผู้เฒ่าในวันครบรอบวันเกิดหกสิบห้าปีในช่วงปลายปีนี้ นี่ถือว่าเป็นน้ำใจที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปจากนาง

สาวใช้ออกไปแล้ว อิ๋นจื่อเดินไปลงดาลขัดประตูและกลับมานั่งปักผ้าที่โต๊ะกลมภายใต้แสงเทียนต่อไป ยามดึกสงัดเมืองเยี่ยเฉิงย่อมเงียบเหงากว่าเมืองหลวงอยู่แล้ว ทั้งอากาศยังหนาวกว่ามาก อิ๋นจื่อนั่งอยู่ได้ไม่นานก็วางเข็มลงและเก็บของเข้านอน

วันนี้ใจนางไม่ค่อยสงบนัก ไม่รู้เกิดจากสาเหตุใด หรือที่เมืองหลวงจะเกิดเรื่องหรือไม่ ในจวนมีแค่ผู้ชายสามพ่อลูก กว่าพวกนางจะเดินทางกลับถึงเมืองหลวงรวมระยะเวลาทั้งหมดก็ราวเดือนกว่า ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นจะทำอะไรอยู่...

อิ๋นจื่อรีบสลัดศีรษะและล้มตัวลงนอน พยายามไม่คิดถึงซ่งเว่ยเหลียงอีก ไม่นานก็หลับไป ห้องทั้งห้องมืดมิด เสียงลมและกิ่งไม้ดังให้ได้ยินบ้าง นกกลางคืนนานๆ จะส่งเสียงมาสักครั้ง

แคร่ก!

เสียงหนึ่งเบาแสนเบาแทบจะเหมือนเสียงเข็มตก ต่อจากนั้นหน้าต่างทิศตะวันออกถูกเปิดกว้างขึ้นทีละน้อยพร้อมทั้งควันสีขาวจางๆ ลอยเข้ามาในห้อง หน้าต่างบานนั้นปิดลงแต่ไม่นานมันก็เปิดกว้างขึ้น ร่างหนึ่งในชุดดำรัดกุมผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ค่อยๆ เดินไปที่เตียง มือหนึ่งแหวกม่านเตียงออก เห็นหญิงสาวในเงามืดนอนหลับสนิท อีกมือหนึ่งยื่นไปเขย่าไหล่บาง เห็นว่าอีกฝ่ายหลับสนิทไปแล้ว ร่างนั้นจึงนั่งลงที่ขอบเตียงและปลดผ้าปิดหน้าออก

เขาคือซีเสวี่ย ริมฝีปากแดงจัดยิ้มมุมปาก เขามองอิ๋นจื่อมานาน อยากจะได้หญิงสาวคนนี้มาเป็นของเขาตลอด ติดก็เพียงแต่เขาแต่งกายเป็นหญิงมานาน ทำให้ชอบการอำพรางตัวเช่นนี้เพื่อหาเศษหาเลยกับสตรีเรื่อยมา

อิ๋นจื่นเป็นเด็กสาวที่ฮูหยินผู้เฒ่าพอใจ เขาไหนเลยจะกล้าขอคนจากฮูหยินผู้เฒ่า จะให้หลี่ซื่อช่วย อีกฝ่ายก็หึงหวงจนไม่อยากเห็นอิ๋นจื่อได้ดี เพราะฉะนั้นเขาก็เลยต้องเข้าหาอิ๋นจื่อด้วยวิธีนี้อย่างไรเล่า

ปลายนิ้วค่อยๆ ไล้ใบหน้านวลเนียน เสียดายก็แค่ไม่อาจจุดเทียนให้ห้องสว่าง เขาอยากเห็นตอนอิ๋นจื่อส่งเสียงครางอย่างทรมานอยู่ใต้ร่างเขาจะแย่

ร่างบางขยับเหมือนจะรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย สองเท้าช่วยกันถีบผ้าห่ม จากนั้นก็คลายสาบเสื้อ ซีเสวี่ยไม่รีบ เขานั่งมองนางจัดการกับตัวเองอย่างใจเย็น เพียงแต่ร่างกายส่วนล่างของเขาตั้งตรงเป็นกระโจมสูงขึ้นมาแล้ว

“แค่คิดว่าจะได้ทำกับเจ้า ข้าก็ควบคุมลำเนื้อของตัวเองไม่ได้เสียแล้ว อิ๋นจื่อ ข้ารอเจ้ามานาน”

เมื่อสาบเสื้อคลายตัวจนเห็นเนื้อนุ่มนิ่มขนาดกำลังพอเหมาะเขาค่อยๆ ยื่นมือเข้าไปหา หมายจะบดขยี้ความอ่อนนุ่มนั้นให้สมใจ เพียงแต่ยังไม่ทันแตะเนื้อตัวอิ๋นจื่อ มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น

ซีเสวี่ยเบิกตาโต ผงะไปชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกเสียวสันหลังวาบ บรรยากาศหนาวยะเยือกขึ้นมาทันใด เขาอาศัยความมืดรีบดึงผ้าขึ้นปิดหน้า ลุกขึ้นวิ่งไปทางหน้าต่างและกระโดดผลุบออกไปโดยไม่เหลียวหลัง เขายอมรับว่าตกใจที่อยู่ๆ ก็มีอีกคนโผล่มา แต่เขาก็ไม่อยากเปิดเผยตัวตน เพราะฉะนั้นแผนการวันนี้ต้องล้มไม่เป็นท่าเสียแล้ว รู้สึกเจ็บใจนัก ทั้งยังเสียใจอยู่บ้าง แต่ช่างเถอะ เอาตัวรอดก่อนดีกว่าเพราะคนที่มาปรากฏกายคงมีวรยุทธ์ไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่รู้สึกถึงฝีเท้าของอีกฝ่ายเลยหรือ

“คนผู้นั้นใครกัน เหตุใดไม่ถูกควันพิษของข้า” ซีเสวี่ยพึมพำขณะดอดเข้าทางหน้าต่างยังเรือนข้าง เดินตรงไปที่เตียงที่มีหญิงงามนอนอยู่ เขาถอดเสื้อผ้าออก ขึ้นเตียงด้วยร่างเปลือยเปล่าพร้อมทั้งลำอวบใหญ่ที่แข็งขึงมาพักใหญ่แล้ว รอปลดปล่อยเสร็จก่อนเขาค่อยเล่าเรื่องที่เจอมาให้อีกฝ่ายฟัง

“ซีเสวี่ย!” หลี่ซื่อรู้สึกว่ามีอะไรล่วงล้ำเข้ามาในกายจากทางด้านหลัง เมื่อหันหน้าไปก็เห็นซีเสวี่ยกำลังกอดซ้อนหลังตน สะโพกขยับกระแทกมาด้านหน้า “ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องอยู่ที่ห้องนางอิ๋นจื่อหรอกหรือ”

“มีคนมาเจอเข้าเสียก่อน แผนวันนี้เลยล่ม”

“เจ้าถูกจับได้หรือ?”

ซีเสวี่ยส่ายหน้าพร้อมส่งเสียงคราง “อ่าส์ เอาไว้ค่อยพูด ให้ข้าทำก่อนเถอะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel