Ep.2 สบตาต้องใจ (2)
ไคล์พยายามลอบมองสาวใช้แบบไม่ให้แฟนสาวจับได้ แต่มีหรือที่ผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาหลายคนจะดูไม่ออก ว่าแฟนหนุ่มดูจะสนใจเด็กสาวไม่น้อย แต่เธอไม่แคร์หรอก เพราะเธอไม่ได้รักเขา แค่อยากคบหนุ่มลูกครึ่งดูบ้างก็เท่านั้น
สาวน้อยผิวขาวเหลืองตลอดทั้งร่าง หล่อนสวมเสื้อยืดสีขาวรัดรูปและกางเกงยีนขาสั้นจึงสังเกตความผุดผ่องของสีผิวได้ไม่ยาก ทว่าบนใบหน้านวลผ่องในยามที่เขาสบตากลับเป็นสีแดงระเรื่อน่ามอง หล่อนเหมือนจะเขินอายเมื่อเดินเข้ามาใกล้เขา แล้ววางแก้วน้ำดื่มลงตรงหน้าเขาและวางแก้วน้ำส้มตรงหน้าแวววิไล
“นอกจากน้ำเย็นนี่แล้ว นายท่านจะรับเครื่องดื่มอะไรอีกหรือเปล่าคะ”
“ฉันขอไวน์แดงสักแก้วนะ”
“ได้ค่ะ”
ไม่นานนักแก้วคริสตันทรงสูงที่ภายในมีของเหลวสีแดงบรรจุอยู่ก็ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าแขกหนุ่ม ก่อนที่ร่างเล็กจะหลบเลี่ยงออกไป
เมริณขอตัวกับแม่บ้านเข้าไปในห้องน้ำโดยบอกเหตุผลว่าปวดเบา ทว่าพอเข้าไปอยู่ในห้องน้ำเพียงลำพัง สาวน้อยก็ยกมือขึ้นลูบแก้มของตนเองที่ยังรู้สึกถึงความร้อนที่ฉาบอยู่หาย เธอรู้ว่าใบหน้าของเธอเห่อร้อนขึ้นมาทันทีที่สบตากับหนุ่มลูกครึ่งคนนั้น
‘เขาหล่อมากกกกกก... หุ่นก็ดี อายุน่าจะพอๆกับนายหญิง ว่าแต่รูปร่างหน้าตาแบบนี้ นายหญิงน่าจะคบได้นานมากกว่าหนึ่งเดือนนะ’
เมริณนั่งอยู่บนโถคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนานสองนาน เพราะยังเหลือเวลาก่อนรับประทานอาหารค่ำอีกตั้งห้าหกนาที ซึ่งหน้าที่ของเธอก็ไม่มีอะไรมากแล้ว นอกจากจะคอยรับคำสั่งจากนายหญิงเวลาที่นายหญิงต้องการอะไรเพิ่มเติมและรอเก็บถ้วยชามไปล้างเท่านั้น
แต่ว่า ก่อนที่จะถึงหนึ่งทุ่ม เธอขอเวลานั่งทำใจให้สงบอีกสักสองสามนาทีก็แล้วกัน เพราะยังไม่เคยเห็นผู้ชายตัวเป็นๆคนไหน จะหล่อเท่าผู้ชายคนนี้ของนายหญิงเลย
ว่าแต่ทำไมใจของเธอถึงได้เต้นรัวมากเวลาที่เขาสบตานะ ใจเต้นแรงมากกว่าตอนสบตากับผู้ชายบ้านข้างๆเสียอีก
‘ไม่เอาน่า เธอไม่ควรคิดอะไรกับผู้ชายของนายหญิง หากนายหญิงทิ้งเขาแล้วก็ว่าไปอย่าง’
สาวน้อยที่กำลังอยู่ในช่วงที่ฮอร์โมนรักกำลังทำงาน นั่งคิดถึงใบหน้าของแขกหนุ่มอีกประมาณสองนาทีก็ลุกจากโถเปิดประตูห้องน้ำออกไป แล้วเพราะคิดว่าใกล้ถึงเวลาก็เลยรีบเดินไปตามทางเดิน พอจะเลี้ยวไปทางห้องครัวก็ชนเข้ากับร่างสูงที่เดินตรงมาเข้าอย่างจัง
“อุ๊ย!”
ร่างกะทัดรัดพลาดตกลงในไปอ้อมแขนของไคล์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมริณรีบทรงตัวแล้วเงยหน้าขึ้นดูว่าเธอเดินชนใคร ก็ต้องเบิกตากว้างอ้าปากค้างด้วยความตกใจและอึ้งจนพูดไม่ออก ไม่นึกว่าจะซุ่มซ่ามเดินมาชนกับผู้ชายที่เธอกำลังคิดถึงอยู่ในใจจังๆแบบนี้
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาอีกแล้ว ใบหน้าร้อนซู่ขึ้นมาทันทีเมื่อสบตาคมแพรวพราวของเขา เมริณไม่เข้าใจตนเองจริงๆว่าทำไมใจของเธอถึงได้เต้นแรงมากขนาดนี้ แล้วก็รู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาดื้อๆ
ชายหนุ่มจึงค่อยๆประคองร่างเล็กให้ยืนขึ้นได้ด้วยขาของตนเอง ขณะที่สายตาก็ไม่ได้คลาดเคลื่อนไปจากดวงหน้าอ่อนเยาว์น่ามองเลยสักนิด เขามองดวงหน้าของเธอนิ่งนานแล้วจึงเลื่อนสายตาลงมองกลีบปากเล็กสีพีชแวววาว ก็นึกอยากจะจูบหล่อนขึ้นมาทันที
‘หากว่าสาวน้อยขี้ตื่นคนนี้ถูกเขาจูบจะเป็นยังไงนะ’
“ป้านิ่ม”
เสียงของนายหญิงที่เรียกแม่บ้านช่วยดึงสติของสองหนุ่มสาวกลับคืนมา
“เอ่อ ขอโทษนะคะ เมริณซุ่มซ่ามไปหน่อยค่ะ”
“ชื่อเมริณหรือ ชื่อน่ารักสมตัวนะ”
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ เมริณขอตัวก่อนนะคะ” บอกขณะที่ใจยังสั่นๆ แล้วจับมือสองข้างของชายหนุ่มที่เกาะเอวเธอออก แล้วรีบเดินจ้ำๆเข้าไปในห้องอาหารเพราะได้เวลาอาหารค่ำแล้ว
ส่วนร่างสูงที่ยืนอยู่ หันไปมองทางที่สาวน้อยเดินออกไปแล้วก็ยิ้มร้ายออกมา
กลิ่นสาบสาวช่างหอมยวนใจเขานัก คิดว่ากุหลาบแรกแย้มดอกนี้คงยังไม่มีชายใดเด็ดดม
เห็นทีว่าเขาจะต้องหาโอกาสมาเที่ยวที่บ้านของแวววิไลบ่อยๆเสียแล้ว และคืนนี้หากเป็นไปได้ เขาจะหาทาง... ค้างคืนที่นี่
